ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ความคืบหน้าการก่อสร้างโบสถ์ วัดชัฏฝาง จ.ชัยนาท



(N)


ประวัติวัดชัฏฝาง เดิมแต่ก่อนวัดชัฏฝางเป็นสำนักสงฆ์ ที่มีคุณหมอท่านหนึ่งที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ถวายที่ดินจำนวนหนึ่งให้เป็นที่พักสงฆ์ จะมีพระมาอยู่องค์สององค์ แล้วก็ไป อยู่กันไม่ได้ คนเก่าคนแก่เล่าว่าเจ้าที่แรง สำนักสงฆ์แห่งนี้จึงเป็นสำนักสงฆ์ร้าง เมื่อพระผู้ใหญ่ที่รู้จักกับหลวงพ่อบุญมีมาเห็น จึงได้ไปรับหลวงพ่อบุญมี มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้ ท่านบอกให้มาช่วยพัฒนาทำให้เป็นวัดหน่อย พ่อบุญมีได้เล่าให้ฟังว่า ตอนท่านมาจำพรรษาใหม่ ๆ นั้น มีท่านจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว บางครั้ง มีพระมาจำพรรษาด้วย แต่ก็อยู่ไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะ พื้นที่เป็นป่า สิ่งก่อสร้างมีเพียงศาลาไม้เก่า ๆ เพียงหลังเดียวไม่มีน้ำประปาไฟฟ้าใช้ เหมือนดั่งทุกวันนี้ เมื่อท่านมาอยู่ก็ได้พัฒนาสร้างศาลา สร้างเมรุ เพื่อให้ชาวบ้านได้มาทำบุญมาประกอบพิธีทางพุทธศาสนา โดย มีชาวบ้าน และ ลูกศิษย์ ทำบุญลงมือลงแรงช่วยกันสร้าง หลังจากท่านมาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ประมาณ 5 ปี หลวงพ่อบุญมีได้ขอยื่นเรื่องจดเป็นวัด จากสำนักสงฆ์ร้าง กลายมาเป็นวัด หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสมาถึงปัจจุบัน

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [พ. 07 พ.ย. 2561 - 18:04 น.]



โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [พ. 07 พ.ย. 2561 - 18:05 น.] #3891494 (1/5)


(N)
ตอนนี้ที่วัดชัฎฝางได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ก็กำลังสร้างพระอุโบสถกับศาลาธรรมสังเวชอยู่ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ มีความคืบหน้าไปประมาณ 70-80% จึงถือโอกาสนี้บอกบุญญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญสร้างวัดสร้างโบสถ์ด้วยกันครับ

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [พ. 07 พ.ย. 2561 - 18:06 น.] #3891495 (2/5)


(N)


.ความคืบหน้า

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [พ. 07 พ.ย. 2561 - 18:06 น.] #3891496 (3/5)


(N)


.

โดยคุณ แมนลพบุรี (1.1K)  [พ. 07 พ.ย. 2561 - 18:09 น.] #3891497 (4/5)


(N)
ประวัติหลวงพ่อบุญมี ขันติธโร เจ้าอาวาสวัดชัฏฝาง จ.ชัยนาท
หลวงพ่อบุญมีเดิมท่านเกิดอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันท่านอายุ 66 ปี( 2561 ) สมัยวัยเด็กท่านมีนิสัยชอบศึกษาหาความรู้ อยู่ตลอดเวลา คลุกคลีอยู่กับพระกับอยู่กับวัดมาตั้งแต่ยังเด็ก หลวงพ่อบุญมีเดิมบวชอยู่ที่วัดขวางเวฬุวัน จ.สุพรรณบุรี โดยมี พระครูอนุรักษ์เวฬุวัน (หลวงพ่อปลูก เจ้าอาวาสวัดขวางเวฬุวัน เป็นพระคู่สวด ( ปัจจุบันท่านมรณะภาพแล้ว มรณภาพในท่านังสมาธิและผงเถ้ากระดูกเป็นพระธาตุ) และมี หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม วัดลำพันบอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ในขณะนั้นก็ได้ศึกษาวิชากับ หลวงพ่อปลูก และหลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม เจ้าของเทพเจ้าสยบอสรพิษร้าย หลวงพ่อบุญมีฝึก การนั่งสมาธิ ฝึกวิปัสสนากรรมฐานและ เรียนคาถาอาคมต่างๆ และที่สำคัญที่หลวงพ่อบุญมีเล่าให้ลูกศิษย์ฟังบ่อยๆคือวิชา การทำยันต์ทำแหวนของหลวงพ่อสมบุญนี้ไม่ธรรมดา เป็นมหาอุตมหากัน สยบอสรพิษร้ายได้ดีนัดแล.... และอีกหนึ่งพระอาจารย์ที่หลวงพ่อบุญมีไปขอถวายตัวเป็นศิษย์ เรียนวิชาอาคมจากท่านก็คือ หลวงพ่อหลวงพ่อกัณหา วัดป่าสะแก สุพรรณบุรี ได้วิชาอักขละเลขยันต์ วิชาทำตะกรุด วิชาทำสีผึ้ง วิชาทำน้ำมนต์ เมตตามหานิยม เมื่อท่านร่ำเรียนวิชาจนครบ หลวงพ่อกัณหาเห็นว่าท่านเป็นคนขยันหมั่นศึกษา จึงแนะนำให้ท่านไปหาหลวงปู่ฉาบ วัดคลองจันทร์ ที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อกวยและหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อบุญมีได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาไสยเวทย์ ได้วิชาทำน้ำมนต์ อักขละเลขยันต์ การทำผงพุทธคุณ ,การทำปลัดขิกและการทำเครื่องรางต่างๆ ทั้งสายเมตตาและแคล้วคลาดกำบัง หลวงปู่ฉาบสอนให้จนหมดสิ้น หลังจากหลวงพ่อบุญมีได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชัฎฝาง ได้พบกับพระเกจิผู้ชราองค์หนึ่ง ได้สนทนาธรรมกันเป็นที่ถูกคอ และหลวงพ่อชราท่านนั้นก็บอกให้หลวงพ่อบุญมี จัดพานครูไปหาท่านที่วัด จะให้ของดีไว้สืบทอดต่อไป พระชราผู้นี้ก็คือ หลวงพ่อบุญส่ง วัดกระโจม จ.สิงห์บุรี ศิษย์สายหลวงพ่อแพและหลวงพ่อเคลือบ ซึ่งสายวิชาของสำนักนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เมตตาแรงสุดๆ หลวงพ่อบุญส่งท่านเมตตาสอนวิชาพระลักษณ์หน้าทองและวิชาสาลิกาลิ้นทองให้หลวงพ่อบุญมี ท่านให้เอาวิชานี้ไว้ช่วยคนที่ดวงแย่ เอาไว้แก้ช่วยคนดวงตก ซึ่งปัจจุบันมีชาวบ้าน ทั้งครู หมอ ตำรวจ ทหาร พ่อค้าแม่ขาย มาหาหลวงพ่อบุญมี ให้ทำพิธีลงนะหน้าทองและสาริกาลิ้นทองให้ บางท่านก็ขอน้ำมนต์จากท่านไปอาบ ทำไปแล้วชีวิตดีขึ้น ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง พ่อค้าแม่ขายทำไปแล้วค้าขายดีกิจการเจริญก้าวหน้า ก็บอกต่อๆกันไป จนมีผู้คนมาทำบุญกับหลวงพ่ออย่างต่อเนื่อง มาทำบุญสร้างพระ สร้างโบสถ์กัน

ประวัติวัดชัฏฝาง เดิมแต่ก่อนวัดชัฏฝางเป็นสำนักสงฆ์ ที่มีคุณหมอท่านหนึ่งที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ถวายที่ดินจำนวนหนึ่งให้เป็นที่พักสงฆ์ จะมีพระมาอยู่องค์สององค์ แล้วก็ไป อยู่กันไม่ได้ คนเก่าคนแก่เล่าว่าเจ้าที่แรง สำนักสงฆ์แห่งนี้จึงเป็นสำนักสงฆ์ร้าง เมื่อพระผู้ใหญ่ที่รู้จักกับหลวงพ่อบุญมีมาเห็น จึงได้ไปรับหลวงพ่อบุญมี มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้ ท่านบอกให้มาช่วยพัฒนาทำให้เป็นวัดหน่อย พ่อบุญมีได้เล่าให้ฟังว่า ตอนท่านมาจำพรรษาใหม่ ๆ นั้น มีท่านจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว บางครั้ง มีพระมาจำพรรษาด้วย แต่ก็อยู่ไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะ พื้นที่เป็นป่า สิ่งก่อสร้างมีเพียงศาลาไม้เก่า ๆ เพียงหลังเดียวไม่มีน้ำประปาไฟฟ้าใช้ เหมือนดั่งทุกวันนี้ เมื่อท่านมาอยู่ก็ได้พัฒนาสร้างศาลา สร้างเมรุ เพื่อให้ชาวบ้านได้มาทำบุญมาประกอบพิธีทางพุทธศาสนา โดย มีชาวบ้าน และ ลูกศิษย์ ทำบุญลงมือลงแรงช่วยกันสร้าง หลังจากท่านมาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ประมาณ 5 ปี หลวงพ่อบุญมีได้ขอยื่นเรื่องจดเป็นวัด จากสำนักสงฆ์ร้าง กลายมาเป็นวัด หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสมาถึงปัจจุบัน

โดยคุณ pomkaew (15.8K)  [ส. 10 พ.ย. 2561 - 13:22 น.] #3891795 (5/5)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM