กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

(( เครดิตจาก

http://www.web-namo.com/webboard/readtopic/2?rm=1,16,0&title=%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A3-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%9A ))

อริยะโลกที่ 6
สมพงษ์ สีไพร

"หลวงปู่พวง ฐานวโร" เจ้าอาวาสวัดน้ำพุสามัคคี ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ พระนักปฏิบัติ นักพัฒนา และเคร่งครัดพระธรรมวินัย แก่กล้าด้านวิทยาคม ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อทบ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองมะขามหวาน

หลวงปู่พวง มีนามเดิม ว่า พวง เพ็ชรมูล เกิดวันที่ 16 ส.ค.2467 ที่ ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ บิดา-มารดา ชื่อ นายยวง และนางเพิ่ม เพชรมูล ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ท่านบวชเป็นสามเณรมาตั้งแต่วัยเด็ก สืบเนื่องจากท่านมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยมีจิตใจที่ตั้งมั่น และยังได้ศึกษาสรรพวิทยาคมต่างๆ จากหลวงพ่อทบ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทชนแดน

สามเณรพวง ได้อุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อทบอย่างสม่ำเสมอ เสมือนลูกศิษย์ ให้ความเคารพรักและกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะล้างบาตร เทกระโถนน้ำหมาก บีบนวด พัดวี และดูแลใกล้ชิดยามอาพาธเจ็บป่วย ด้วยความเมตตาที่หลวงพ่อทบ เห็นในความเพียรตั้งใจจริง จึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน การกำหนดจิต การฝึกกสิณแต่ละกองให้

สามเณรพวง เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2488 ที่วัดไก่เตี้ย ต.บ้านกระแซง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมีพระอธิการรวย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเทียม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการพิศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ฐานวโร อันมีความหมายว่า ผู้มีฐานะอันประเสริฐ

ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงพ่อทบ ท่านได้ช่วยงานหลวงพ่อทบหลายอย่าง เช่น ช่วยจารตะกรุด ม้วนตะกรุด จึงเป็นที่เอ็นดูในความขยันหมั่นเพียร มีวิริยะ อุตสาหะ จึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้จนหมดสิ้น

ในระหว่างที่หลวงพ่อทบจะเดินทางไปมาหาสู่หลวงพ่อเขียน แห่งวัดสำนักขุนเณร จ.พิจิตร อยู่บ่อยครั้ง ล้วนนำพาหลวงปู่พวง ติดตามไปด้วยเสมอ หลวงพ่อทบได้ฝากฝังหลวงปู่พวงไว้กับหลวงพ่อเขียน ให้ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชาเพิ่มเติมให้

หลวงปู่พวงอยู่จำพรรษาที่วัดสำนักขุนเณร และร่ำเรียนวิชา ฝึกปฏิบัติวิปัสสนา และพุทธาคม ฝึกวิชากสิณจนชำนาญ ในกสิณ 10 รวมทั้งการทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์

หลังจากนั้น ท่านได้กราบนมัสการลากลับวัดพระพุทธบาทชนแดน ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทบอีกครั้ง

หลวงพ่อทบเคยกล่าวปรารภถึงหลวงปู่พวง ว่า "จะต้องห่มจีวรไปตลอดชีวิต เพื่อสงเคราะห์ผู้คนและสืบทอดศาสนา"

ต่อจากนั้น หลวงปู่พวง ออกเดินธุดงค์แสวงธรรมยังป่ารกชัฏ ขึ้นเขาลงห้วย จนเดินทางมาถึงเทือกเขารัง ที่บ้านนำพุ อ.ชนแดน ในปี พ.ศ.2500 มาปักกลด ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ชาวบ้านได้นำอาหารมาถวาย และนิมนต์ให้สร้างวัด

จนกลายเป็น "วัดน้ำพุสามัคคี" จนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่พวง เป็นพระนักปฏิบัติและพัฒนาเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชน ท่านก่อสร้างศาสนสถาน อาทิ ศาลาสามัคคีธรรม กุฏิ หอสวดมนต์ ศาลาอเนกประสงค์ ห้องน้ำ เมรุ กำแพง ซุ้มประตู ตลอดจนสร้างโรงเรียนบ้านน้ำพุ ฯลฯ นำความเจริญมาสู่หมู่บ้านน้ำพุ

วัตถุมงคลที่หลวงปู่พวงสร้างขึ้นหลายรุ่น ล้วนเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง อาทิ เหรียญรุ่นแรก สีผึ้ง พระปิดตานะชาลีติ แหวนเพชรกลับ ตะกรุดโทน รูปหล่อลอยองค์

หลวงปู่พวงเคยกล่าวกับลูกศิษย์ ว่า วัตถุมงคลแต่ละชิ้น มีค่า กว่าจะทำออกมาแสนจะเหนื่อยยากและปลุกเสกด้วยตนเอง และเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมแก่กล้า ต่อไปภายหน้าจะหายาก

หลวงปู่พวง ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2557 สิริอายุ 90 ปี พรรษา 69

ขณะนี้บำเพ็ญกุศลสรีระร่างกาย ณ ศาลาวัดน้ำพุสามัคคี มีบรรดาศิษยานุศิษย์มาเคารพศพอยู่เนืองๆ และประกอบพิธีทำบุญครบรอบ 1 ปี วันคล้ายมรณภาพและคล้ายวันเกิดของพระอธิการพวง ฐานวโร (หลวงปู่พวง) ซึ่งสรีระไม่เน่าเปื่อยซึ่งบรรจุไว้ในโลงแก้ว ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี นายณรงศักดิ์ หอมมาลัย นายอำเภอชนแดน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้าและประชาชน

และจะมีพิธีเปลี่ยนผ้าสบงและจีวร ตลอดจนการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสหลวงปู่พวง เทพเจ้าแห่งเขารัง ต่อไป

หน้า 27

ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด --- >

http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOekl3TURVMU9BPT0=