ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ขุนแผนสากหัก

(D)
รบกวน ท่านผู้รู้ช่วยเล่า ประวัติการสร้างด้วยเถอะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

โดยคุณ tattawon (580)  [ศ. 17 เม.ย. 2552 - 11:16 น.]



โดยคุณ เอกจิตต์ (1K)  [ศ. 17 เม.ย. 2552 - 16:22 น.] #597475 (1/3)


(D)


พระขุนแผนผงพรายกุมาร "รุ่นสากหัก" แต่คนมักจะนิยมเรียกว่า "พระขุนแผนสากหัก" จัดสร้างปี 2546 จัดสร้างในนามมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เช่นกัน เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ.วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตามคำชักชวนของลุงแมง (หนึ่งในศิษย์ผู้รับใช้ใกล้ชิดลป.ทิม และเป็นผู้กดพิมพ์พระขุนแผนผงพรายกุมารฯ ในยุคนั้น) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2546 เพื่อนำเงินที่ได้สมทบทุนสร้างศาลาอเนกประสงค์ ชื่อ "ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ" แบ่งออกเป็นพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กคราวนี้เราจะมาลงรายละเอียดถึงประวัติการสร้างกันครับ
สำหรับชื่อ รุ่นสากหัก นั้นมาจากการที่ขณะตำผงครกแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2546 พอผงกำลังเข้าที่พร้อมจะนำมากดพิมพ์ได้สากหินที่กำลังใช้ตำผงนั้นเกิดหักกลางอย่างมหัศจรรย์ทันทีมีผู้เห็นกันหลายคน ผงพรายกุมารที่ใช้ทำพระขุนแผนรุ่นนี้ได้มาจากบรรดาศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม ซึ่งต่างเก็บไว้คนละเล็กคนละน้อยเพราะทุกคนรู้ดีว่าผงพรายกุมาร ของ หลวงปู่ทิม อาจารย์ของพวกตนนั้นเป็นผงที่หาผู้ทำให้ขลังและศักสิทธิ์จริง ๆ นั้นหายากมาก แต่หลวงปู่ทิมท่านก็ทำสำเร็จจนพระขุนแผนผงพรายของท่านโด่งดังไม่แพ้พระขุนแผนเก่า ๆ ที่ขุดออกมาจากกรุทั้งในด้านราคาและความศักสิทธิ์ พระขุนแผนสากหัก ถอดแบบจากเค้าโครงเดิมของพระขุนแผนรุ่นแรกของหลวงปู่ทิม แต่มีการแต่งพิมพ์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก แบ่งตามวรรณะของสีเนื้อออกเป็น 3 สี คือ สีขาว สีแดง และสีดำ โดยพิมพ์ใหญ่สร้าง 5,556 องค์ พิมพ์เล็กสร้าง 6,996 องค์ โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่นั้นแบ่งออกเป็นสองแบบใหญ่คือแบบฝังตะกรุด และแบบไม่ฝังตะกรุด เฉพาะแบบฝังตะกรุดจะสามารถแบ่งแยกตามตัวตะกรุดออกได้ดังนี้
- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองคำ 96 องค์
- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดเงิน 256 องค์
- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองแดง 356 องค์
นอกนั้นจะฝังอย่างอื่นแทน เช่น พลอยเสก (ปกติ) พระขุนพลจิ๋ว (พิเศษ) เป็นต้น แต่ในส่วนของพิมพ์เล็กไม่ได้ฝังตะกรุดและพลอยเสก จึงทำให้การเล่นหาไม่สับสนครับ ในเรื่องการอธิษฐานจิตนั้นได้รับการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระครูธรรมรังษี (หลวงปู่ธรรมรังษี ) วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ แล้วยังได้นำพระชุดนี้ทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากการแจกผู้ร่วมงานทอดกฐินในวันดังกล่าวแล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่วัดละหารไร่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 อีกวาระหนึ่ง เพื่อให้พระเกจิฯผู้ทรงคุณประจุพลังพุทธาคมให้เพิ่มขึ้นอีก โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม นั่งปรกปลุกเสก คุมทิศทั้งสี่ มีดังนี้
1.หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ พระผู้ทรงอภิญญาแห่งเมืองอีสานใต้
2.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำบางปะกง
3.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยอง
4.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง พระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกรูปเดียวของหลวงปู่ทิม อิสริโก
นับได้ว่าพระขุนแผนสากหัก เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ชื่นชอบและปรารถนาจะได้พระขุนแผนผงพรายกุมารฯ ของสายนี้ไว้บูชาติดตัวครับ ว่ากันว่าเป็นพระขุนแผนอีกชุดหนึ่งในยุคปัจจุบันที่มีกระแสตอบรับในการเช่าหาและราคาในแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ จนไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไปครับ

ที่มา http://www.pornkruba.net/article.php?id=2544&lang=th

สำหรับองค์ที่นำมาให้ชม เป็นพิมพ์พิเศษ ทาบรอนส์มุก ด้านหลังฝังทับทิมและพระยอดขุนพล

โดยคุณ เอกจิตต์ (1K)  [ศ. 17 เม.ย. 2552 - 16:25 น.] #597480 (2/3)
ถ้าจะเรียกให้ถูกต้ององค์ที่นำมาลงใหชมก็ต้องเรียกว่า "ทาบรอนส์มุก ด้านหลังฝังพลอยเสก และพระขุนพลจิ๋ว" ครับ

โดยคุณ jcainfo (5.8K)  [ศ. 17 เม.ย. 2552 - 20:30 น.] #597712 (3/3)
ประสบการณ์ดีเยี่ยมจริงๆ ครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM