| ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ" สรงน้ำ" หลวงพ่อสุพจน์ จนฺทูปโม วัดศรีทรงธรรม จ. นครสวรรค์ |
| รายละเอียด | จังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่มีแม่น้ำ 4 สาย ไหลมาบรรจบกันส่งผลให้คนท้องถิ่นเรียกจุดรวมนี้ว่า ปากน้ำโผล ต่อมาเพี้ยนเป็น เป็นปากน้ำโพ หรือบ้างก็เรียกว่า เมืองสี่แคว ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำเจ้าพระยา เมืองแห่งนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านเกษตรกรรมและการประมงแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาค่อนข้างมาก
นอกจากความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวแล้ว ดูเสมือนว่า ปากน้ำโพ ยังอุดมไปด้วยพระคณาจารย์ที่มีวัตรปฏิบัติงดงามและหลายรูปยังเป็นพระคณาจารย์ผู้เรืองพระเวทมีวิทยาคมสูงส่งมาอย่างต่อเนื่อง นับจาก หลวงปู่เฮง วัดเขาดิน หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อินทร์ วัดเกาะหงส์ หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู หลวงพ่อโอด วัดจันเสน หลวงพ่อแนม วัดเขาหน่อ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ และ หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร เป็นต้น
เรียกได้ว่า ปากน้ำโพ เป็นเมืองที่ไม่เคยสิ้นคณาจารย์ผู้เรืองพระเวทในแต่ละยุคเลย
สำหรับยุคนี้ หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม วัดศรีทรงธรรม อำเภอบรรบตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีภูมิรู้ในเรื่องพระเวทวิทยาคม อันเป็นที่ยอมรับของสานุศิษย์มากมาย โดยเฉพาะ ยอดวิชามหาพุทธคง และตะกรุดอุดปืน อันเลื่องชื่อถึงประสบการณ์เฉียดตาย ทั้งแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี ไม่เว้นแม้กระทั่งเมตตามหานิยม...
ความข้างต้นเป็นความบางตอนที่ เพ้ง เมืองเพรียว อารัมภบท นำเข้าสู่เรื่องราวของ หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม พระเกจิอาจารย์ที่ผู้ในจิตแห่งความเชื่อความศรัทธาของผม...
หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิขมังเวท ตัวจริง...เสียงจริง...แห่งเมืองปากน้ำโพ
สร้างเสกสิ่งใด ล้วนเข้มขลัง พึ่งได้...ใช้ดี...สูงยิ่งในฤทธิคุณ ประมาณว่ากล้าพอที่จะท้าให้พิสูจน์กันได้เลย
ลูกศิษย์ลูกหา ตลอดถึงบรรดาศรัทธาญาติโยมทั่วไป ที่ชื่นชอบแสวงหาของดีของขลังมาพกพาติดตัว เมื่อไปกราบหาหลวงพ่อสุพจน์ ที่วัดมักจะได้ยินคำว่า ของดีของขลัง ถ้าดีจริง ขลังจริง...ต้องลองได้ ของๆ ฉันลองได้...ให้เอาไปลอง...เห็นว่าดีค่อยนำไปใช้ จากปากของหลวงพ่อสุพจน์ ที่ท่านมีความมั่นใจในจิต ในวิชาอาคม ความเชี่ยวชาญแตกฉานที่พุทธเวท ไสยเวท ที่ท่านร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ อย่าง เรียนจำ ทำได้จริง
หลวงพ่อสุพจน์ ท่านเป็นศิษย์มีครูที่ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์จริงๆ ยืนยันความเป็นศิษย์ขดองครูบาอาจารย์ด้วยวิชาความรู้ ทุกสิ่งสรรพที่ทำให้เห็นกันได้
ท่านจึงไม่ใช่เป็นศิษย์แค่มีภาพถ่ายร่วมกับครูบาอาจารย์เพียงใบเดียวเท่านั้น...แน่นอน
จึงมีคำพูดจากปากของท่านต่ออีกว่า ของดีของขลัง ถ้าลองแล้วไม่ดีไม่ขลังจริง ถอดมันทิ้งไป จะเอามาแขวนให้หนักคอเกะกะตัวทำไม
จากคำพูดดังกล่าวของท่าน จึงเป็นเหตุที่มาของการกล่าวขานบอกต่อในหมู่ชนผู้นิยมวัตถุมงคลของขลังอย่างกว่างขวาง
ในกระบวนการพระเกจิอาจารย์ที่ร่ำเรียนวิชาอาคมมามากและโดนทดลองมากที่สุดต้องยกให้หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม วัดศรีทรงธรรม ท่านทำจริงพูดจริงตรงๆ พูดจาเหมือนนักเลง วัตถุมงคลของท่านก็เหมือนท่านพูด คือ ชัดเจน...ดีเป็นดี...จะทดลองก็ได้...ไม่มีข้อสงสัย
คำกล่าวที่ว่านั้น จะมีเค้ามูลความจริงมากน้อยแค่ไหน สังเกตได้จากบรรดาพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เป็นที่กล่าวขานว่าสร้างและเสกวัตถุมงคลขลังนัก ยังให้การยอบรับในพลังจิต พลังเวทอาคมของหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม จะทำจะสร้างวัตถุมงคลออะไรออกมาเป็นต้องมากราบหาหลวงพ่อสุพจน์ให้ท่านลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นทอง เงิน นาค หรือโลหะชวนเพื่อนำไปหล่อหลอมรวมกับเนื้อโลหะที่จะทำเป็นวัตถุมงคล เมื่อสร้างแล้วก็ต้องนิมนต์หลวงพ่อสุพจน์ไปนั่งปรกปลุกเสกให้อีกครั้ง แต่หากในพิธีมหาพุทธาภิเษก หลวงพ่อสุพจน์ไปทำพิธีในกำหนดวันไม่ได้ ก็ต้องขนวัตถุมงคลที่สร้างนั้นมาให้ท่านปรกปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้ง ถึงจะมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังหลายท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกมาแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจก่อนที่จะแจกจ่ายให้ญาติโยม ลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชา ต้องให้พระอาจารย์สุพจน์ ท่านเสกให้ก่อนจึงจะครบเครื่องครบสูตร
ดังกล่าวนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเนืองๆ ซึ่งเป็นข้อยืนยันได้ชัดเจนว่า หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม แห่งวัดศรีทรงธรรม ท่านคือสุดยอดพระเกจิขมังเวท ตัวจริง เสียงจริง แห่งเมืองปากน้ำโพ ที่สร้างเสกสิ่งใด ล้วนเข้มขลัง พึ่งได้...ใช้ดี...สูงยิ่งในฤทธิคุณอย่างแท้จริง
จากเวลาที่ยาวนานกว่า 35 ปี ที่ชื่อนาม หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม ปรากฏชื่อให้ผู้คนทั้งหลายได้รับรู้ถึงความเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทเรืองวิชา ซึ่งจะว่าไปแล้ว เวลาผ่านมายาวนานกว่าช่วงวัยอายุบรรดาเซียนพระชื่อดังในทุกวันนี้ ที่การันตีความขลังในวัตถุมงคลของเกจิอาจารย์ แล้วเป็นที่เชื่อถือของคนทั้งหลาย หรือแม้แต่เกจิอาจารย์ที่เขายืนยันในความเป็นผู้ทรงเวทเรืองวิชาก็ตามที
เวลาที่ผ่านมายาวนานนั้น ไม่เคยปรากฏว่าผู้ที่มีจิตศรัทธา ให้ความเคารพนับถือในหลวงพ่อสุพจน์ มีความมั่นใจในเครื่องรางวัตถุมงคลของท่าน บูชาพกพาติดตัวอย่างไม่ห่างกาย ต้องไปพบเจอสิ่งเลวร้ายอันไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะทางแคล้วคลาด มหาอุดกันภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ โภคทรัพย์มากมี ค้าได้ขายคล่อง มีประสบการณ์กันทุกด้าน ทุกผู้คนที่ศรัทธาหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม ล้วนพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีชีวิตที่ปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุขกันทั่งถึงกัน
แม้แต่ผู้อยู่ในถิ่นที่มีเหตุการณ์ไม่สงบ อย่างในใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่โอกาสเกิดภัยร้ายกับตัวมีได้ทุกขณะ มีชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกลมหายใจ โดยเฉพาะข้าราชการทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาดูแลความสงบ ซึ่งหลวงพ่อสุพจน์ท่านสร้างเสก เครื่องรางวัตถุมงคลของท่าน แจกจ่ายมอบให้เขาเหล่านั้นพกพาติดตัวเพื่อกันภัยในหลายครั้ง หลายวาระ ก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่มีเครื่องรางวัตถุมงคลของหลวงพ่อสุพจน์ได้รับอันตราย ในสถานการณ์อันไม่สงบ แม้แต่รายเดียว!
ถึงแม้ว่าผมกับผู้ที่ใช้นามว่า เพ้ง เมืองเพรียว จะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ไม่เคยพบหน้าค่าตา เสวนากันเลยก็ว่าได้ ด้วยว่าอาชีพการงาน หน้าที่ที่รับผิดชอบไม่เอื้ออำนวย ไม่อาจจะไปขลุกตัวอยู่กับครูบาอาจารย์ท่านใดเป็นเวลานานวัน แวะเวียนไปหาท่านได้บ่อยๆ ถึงในจิตจะเคารพนับถือท่านก็ทำได้เพียงนานๆ ครั้งในวาระอันควรเท่านั้น จึงขาดโอกาสที่จะทำความรู้จักคุ้นเคยกับคนรอบข้างครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์ลูกหาของท่านทุกผู้คนได้ แต่เชื่อว่า เพ้ง เมืองเพรียว เป็นผู้ที่ให้ความเคารพนับถือในหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรมไม่ใช่น้อย หาไม่แล้วคงจะไม่เพียรพยายามรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อสุพจน์ อย่างชนิดที่ว่าเจาะลึกถึงผู้คนและสถานที่ที่หลวงพ่อสุพจน์เคยเกี่ยวข้องผูกพัน รวบรวมมาเรียบเรียงเป็นหนังสือเล่มให้ผู้ที่สนใจได้รู้จักหลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม ได้อย่างเห็นภาพรูปลักษณ์
การรวบรวมเรียบเรียงเรื่องราวของหลวงพ่อสุพจน์ นอกจากความชื่นชมในปฏิปทาของท่านแล้ว เพ้ง เมืองเพียว ก็คงจะมีความเชื่อมั่นใน วัตถุมงคล ความเข้มขลังของท่านควบคู่กันด้วย ดังความอารัมภบทลำดับต่อมาดังนี้...
ทว่า กว่าที่ท่านจะก้าวขึ้นมาเป็นพระเกจิอาจารย์ อันเป็นที่ยอมรับในพระเวทวิทยาคมได้นั้น ท่านต้องผ่านการฝึกปฏิบัติฌานสมาธิมาอย่างมากมาย ในฐานะที่ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวัตรปฏิบัติสร้างวัดให้เสมือนโรงทานซึ่งพร้อม ให้ ทั้งสิ่งของและเป็นที่พึ่งทางจิตวิญาณแก่ชาวบ้านตลอดจนสานุศิษย์อย่างสม่ำเสมอ
วัตรปฏิบัติเยี่ยงนี้ เชื่อว่านำมาซึ่งความเข้มขลังในยอดวิชามหาพุทธคงและตะกรุดอุดปืนยิ่งๆ ขึ้น
การเสก คือ การอธิษฐานจิตหรือการระลึกถึงบารมีของสิ่งที่เรานับถือ แล้วรวมจิตมายังที่เดียวกันว่า ต้องการให้เกิดพระคุณตรงไหน เราก็ใส่หัวใจทางนั้นเข้าไป ซึ่งถ้ายกตัวอย่างการอธิษฐานจิตที่ชาวพุทธนักถือ เช่น ระลึกถึง พุทธรัตนะ (อานุภาพของพระพุทธ) ธรรมรัตนะ (อานุภาพของพระธรรม) และ สังฆรัตนะ (อานุภาพของพระสงฆ์) แล้วรวมด้วย จิต เพื่ออัญเชิญอานุภาพดังกล่าวมาเป็นหนึ่งเดียว...ที่เดียวจึงจะเกิดพลังหรือ ที่เรียกให้เข้าใจง่ายว่า พลังจิต
ข้อความที่พยายามจะอธิบายให้เห็นถึงรูปธรรมของคำว่า เสก ข้างต้น ท่านทั้งหลายอย่าพึ่งเข้าใจว่า หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปโม แห่งวัดศรีทรงธรรม นครสวรรค์ เป็นผู้อธิบายให้แก่ผู้เขียน เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้ทรงวิทยาคุณทางไสยเวทของท่านเอง แต่ข้อเท็จจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เนื่องจากข้อความที่นำมาเปิดเรื่องนั้น เสมือนเป็นการ บูชาครูเพราะเป็นการถอดความออกมาจากปากของ พระราชคุณาธาร หรือ พระมหาแช่ม พระสังฆาธิการหรือ เจ้าอาวาสวัดโปรดเกศเชษฐาราม (วัดปากคลอง) ตำบลทรงคะนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ประเด็นสำคัญ พระมหาแช่ม สีลคุโณ ท่านเป็นอาจารย์รายแรกและรายเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของหลวงพ่อสุพจน์ จนฺปโม พระเกจิฯ ผู้เรืองวิทยาคมแห่งเมืองปากน้ำโพในยุคนี้
โดยเฉพาะต้องขอสารภาพว่า คำอธิบายดังกล่าว มาจากความตั้งใจของผู้เขียนในการป้อนคำถามต่อพระเดชพระคุณพระราชคุณาธาร เพราะในฐานะที่ท่านเจ้าคุณเป็นพระสงฆ์ที่ยึดถือวัตรปฏิบัติในทางวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอดนั้น ท่านจะมีความเห็นต่อภาพรวม ในการปลุกเสกวัตถุมงคลอย่างไร
คำตอบข้างต้นคงเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้อ่านทั่วไป รวมถึงสานุศิษย์ของหลวงพ่อสุพจน์ว่า
จิตรวมศูนย์ ทรงพลังอย่างไร
ประการสำคัญ หลวงพ่อสุพจน์ท่านได้ความเคารพนับถือต่อพระเถรภูมิ (ชั้นพระเถระมีพรรษามากกว่า 10 ปีขึ้นไป) ถือพระเดชพระคุณพระราชคุณาธารซึ่งเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบมาตลอดในการครองสมณเพศนับตั้งแต่บรรชาเป็น สามเณร กระทั่งอุปสมบทสืบเรื่องมาเป็น พระสงฆ์ กว่า 60 พรรษา (ปัจจุบันอายุ 80 ปี พ.ศ. 2551)
แม้ความหมายของคำว่า เสก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง การร่ายมนต์เพื่อจัดทำให้ขลังหรือศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยเหตุแห่งการอธิบายถึงคำว่า เสก ของพระเดชพระคุณที่ยึดถือวัตรปฏิบัติในทางวิปัสสนากรรมฐานดังกล่าว ยิ่งเป็นการตอกย้ำในเชิง เป็นเหตุ เป็นผล ต่อเนื้อหาที่หลวงพ่อสุพจน์ เคยกล่าวกับผู้เขียนว่า
ทุกครั้งที่นั่งปรกหรืออธิษฐานจิต ณ ที่แห่งใด ฉันต้องอธิษฐานจิตอัญเชิญคุณงามความดีและบารมีของอาจารย์ทุกรูป โดยเฉพาะที่พิเศษสุด คืออัญเชิญบุญบารมีของหลวงปู่ทวดทุกครั้งไป
สานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดของหลวงพ่อสุพจน์ที่มีโอกาสเข้าไปปรนนิบัติในพิธีพุทธาภิเษกอย่างน้อยสองราย ก็เคยกล่าวกับผู้เขียนว่า จะด้วยเหตุที่การอธิษฐานจิตอัญเชิญบุญบารมีของหลวงปู่ทวดที่หลวงพ่อสุพจน์กล่าวถึงนั้น จึงทำให้บางครั้งพวกตนมองหน้าหลวงพ่อสุพจน์ ณ ขณะที่นั่งอธิษฐานจิตอยู่นั้นมีใบหน้าที่แก่เกินจริง
ฤา บุญญานุภาพของหลวงปู่ทวดได้เมตตาประทานความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แก่วัตถุมงคลทุกรุ่น ทุกวัดที่หลวงพ่อสุพจน์อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ มาโดยตลอด
กระทั่งวัดศรีทรงธรรม ตำบลบึงปลาทู อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเรียกได้ว่า วัดบ้านนอก แต่กลับมีผู้คนจากทั่วสารทิศแวะเวียนเข้ามากราบนมัสการ พระบ้านนอก ผู้เรืองวิทยาคมอย่างไม่ขาดสาย และยังไม่นับการนิมนต์ไห้เข้าร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลจากวัดอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งๆ ที่หลวงพ่อสุพจน์เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีบุคลิกภาพแบบพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมและเดินเท้าเปล่าเสมือนพระเกจิอาจารย้อนยุคหรือก่อน 25 พุทธศตวรรษ (พ.ศ.2500) แถมยังดูโหงวเฮ้ง(เบญจลักษณ์) ได้ชงัดนัก
บรรดาสานุศิษย์หน้าใหม่หลายราย จึงมักถูกทดสอบ สภาวะจิต อยู่บ่อยๆ หากใคร ของจริง นอกจากจะรอดด้วยการไม่ถูกตำหนิ แถมยังจะได้รับวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย
ส่วนพวก จิตอ่อน อาทิ หลวงพ่อ ลองจิตกับลูกศิษย์หน้าใหม่บางรายด้วยการขอแหวนเพชรที่สวมใส่อยู่ในนิ้ว แต่ถูกปฏิเสธด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา หลวงพ่อสุพจน์ก็จะยกคำเปรียบเปรยขึ้นมาเตือนสติให้รู้ซึ้งถึงการไม่ยึดติดในตัวตนหรืออัตตา ที่เรียกว่า ของกู ตัวกู ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ดังที่พุทธาศาสนิกชนส่วนใหญ่จะมักคุ้นคำสอนนี้จากท่านพุทธาสภิกขุแห่งวัดสวนโมกข์ฯ
ทั้งๆ ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปก็น่าจะรับทราบกันดีว่า หากพระสงฆ์รูปใดเอ่ยปากขอวัตถุสมบัติด้วยเจตนาที่ไม่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ดังนั้นในทางตรงข้ามกรณีที่พบ ของจริง ทางจิตด้วยการถอดแหวนเพชรและยื่นให้หลวงพ่อในทันที หลวงพ่อสุพจน์ก็จะควานหาด้ามเหล็ก เพื่อ จาร ด้านหลังวงแหวนให้เป็นสิริมงคลแก่ลูกศิษย์ผู้นั้น แล้วตามด้วยคำสอนที่เข้าใจง่ายๆ ตามแบบฉบับที่เรียกว่า
ภาษานักเลงจากปากพระนักเลงเพื่อลูกศิษย์นักเลง
เพราะคำว่า นักเลง ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2545 ตามความหมาย ของคำวิเศษณ์ (ว.) หมายถึง ผู้มีใจกว้าง กล้าได้กล้าเสีย เช่นใจนักเลง เป็นต้น
วัดศรีทรงธรรม จึงเสมือนเป็นลานธรรมะของผู้มีใจกว้างเป็นส่วนใหญ่
โดยเฉพาะผู้มีใจนักเลงจึงมักจะเป็น ผู้ให้ อันมาจากพื้นฐานของผู้ที่มีใจกว้างตามความหมายดังกล่าว แม้กระทั่งลูกศิษย์หน้าใหม่บางรายถูกตำหนิหรือเข้าใจว่า หลวงพ่อสุพจน์ ด่า ก็ถือว่าได้รับศีล (ข้อห้าม) ว่าทีหลังอย่าทำ พร้อมกันนี้ยังได้รับธรรมะ (ข้อปฏิบัติ) เพื่อให้นำไปปฏิบัติหรือเตือนสติตนเองว่า อย่าเห็นแก่ตัวอย่ามักง่าย |
| ราคาเปิดประมูล | 50 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 150 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 19 ม.ค. 2556 - 20:33:41 น. |
| วันปิดประมูล | - 29 ม.ค. 2556 - 20:33:41 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | สุขสงบ (8.1K)   
|
