(0)
เหรียญหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา "สร้างศาลาปฎิบัติธรรม"






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา "สร้างศาลาปฎิบัติธรรม"
รายละเอียดเดิมท่านมีชื่อว่า บุญมี นามสกุล ธนสนธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2454 ตรงกับวันจันทร์แรม 2 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน ณ หมู่บ้านขนมจีน เป็นบุตรของนายโหมดและ นางพุฒ ธนสนธิ์ โดยหลวงพ่อมีเป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนทั้งสิ้น 5 คน ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กที่อ่อนแอและขี้โรคมาก ท่านขี้อาย ไม่ช่างพูด และมีโรคประจำตัวเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่เสมอ เรียกว่า สามวันดีสี่วันไข้ ชีวิตในวัยเด็กจนถึงรุ่นหนุ่มก่อนอุปสมบทของหลวงพ่อมี ก็เป็นไปเหมือนกับชาวบ้านธรรมดา เพราะครอบครัวยากจนและมีอาชีพเป็นชาวนา ต้องคอยช่วยพ่อแม่ทำไร่ไถนาตามธรรมดา จากการที่หลวงพ่อมี มีความขยันขันแข็งในการทำงาน จึงมีหญิงมาชอบพอกับท่านคนหนึ่ง แต่ติดที่ท่านเป็นคนขี้อาย ไม่ช่างพูดประกอบกับหญิงนั้นเป็นคนที่งามจึงไม่เคยชวนกันไปเที่ยวไหน 2 ต่อ 2 เหมือนหนุ่มสาวคู่อื่น ๆ เลย ภายหลังเมื่อท่านมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ผัดผ่อนการหมั้นหมายเรื่อยมา สตรีนั้นเห็นว่า ท่านไม่ถึงแน่แล้วก็เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังครองตัวเป็นโสดมาถึงบัดนี้ นับว่า สตรีท่านนี้เป็นหญิงที่มีความมั่นคงในความรักอันน่ายกย่องสรรเสริญยิ่งทีเดียว ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดมารวิชัย ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2475 เมื่ออายุครบ 21 ปี โดยมีพระครูอดุลวุฒิกร(หลวงพ่อพิณ จันทโชโต) วัดช่างเหล็ก เป็นพระอุปัชฌาย์ ด้านพระเวทวิทยาคม หลวงพ่อมีได้เล่าเรียนพุทธาคมกับหลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าวนอก ผู้มีศักดิ์เป็นหลวงน้าแท้ๆ โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาการเล่นแร่แปรธาตุและการสร้างวัตถุมงคลเนื้อเมฆพัต นอกจากนี้ยังได้ศึกษาพระเวทวิทยาคมและกรรมฐานจากพระอาจารย์ผู้เรืองนามอีกหลายรูปอาทิเช่น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค โดยอยู่ช่วยหลวงพ่อปานสร้างพระเนื้อดินอยู่ 3 ปี จนสำเร็จอสุภกรรมฐาน และสำเร็จเตโชกสิณ กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกซึ่งหลวงพ่อจงองค์นี้ หลวงพ่อมีได้อยู่ศึกษาวิชากับท่านมากที่สุดและนานเกือบ 30 ปีทีเดียว โดยท่านได้เดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างวัดหน้าต่างนอก และ วัดมารวิชัย อยู่เสมอ ๆ ทั้งยังได้ร่วมงานกับหลวงพ่อจงอย่างใกล้ชิดอยู่บ่อยครั้ง และได้ปฏิบัติดูแลหลวงพ่อจง ตราบจนหลวงพ่อจงท่านสิ้นลมหายใจ ท่านชอบออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นคือ เมื่อคณะธุดงค์กำลังเข้าสู่แนวป่าทึบก็ประจันหน้าเข้ากับช้างแม่ลูกอ่อน อย่างกระชั้นชิด ช้างซึ่งมีลูกอ่อนตามมาด้วย หยุดชะงักชูงวงขึ้นพุ่งตัวตรงมาหาพระธุดงค์ทั้ง 5 ด้วยความประสงค์ร้าย จึงทำให้พระธุดงค์ที่ร่วมคณะหลวงพ่อเผ่นหนีเข้าข้างทางด้วยความอกสั่นขวัญ แขวน ส่วนหลวงพ่อมีจะเลี่ยงหลบเข้าข้างทางก็ไม่ทัน เพราะยืนใกล้ช้างมากที่สุด ท่านจึงยืนสำรวมจิต เผชิญหน้ากับช้างแม่ลูกอ่อน นิ่งอยู่อย่างนั้นประมาณ 10 นาที พลังจิตและเวทวิทยาคมที่ร่ำเรียนมาใช้ได้ผล ช้างแม่ลูกอ่อนซึ่งธรรมชาติวิสัยอันดุร้ายก็ค่อย ๆ ถอยกลับไปทางริมป่า ไม่ทำอันตรายหลวงพ่อมีที่ยืนบริกรรมพระคาถา เป็นการเปิดทางให้พระธุดงค์ไปกันก่อน แล้วจึงพาลูกน้อยค่อย ๆ เดินทางไปภายหลัง ทำให้ชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปทั่วจากเหตุการณ์นี้ และยังมีเหตุการณือื่นๆอีกมากที่เกิดกับท่านและคณะธุดงค์ที่ท่านได้นำไปและท่านก็สามารถผ่านมาได้ด้วยดีทุกครั้ง ท่านได้รับสมณศักดิ์ดังต่อไปนี้ พ.ศ. 2481 เป็นเจ้าอาวาสวัดมารวิชัย พ.ศ. 2493 เป็นเจ้าคณะตำบลบางนมโคและพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. 2507 ได้รับสมณศักดิ์ชั้นตรีที่ “พระครูเกษมคณาภิบาล” พ.ศ. 2510 ได้รับสมณศักดิ์ชั้นโท ในพระราชทินนามเดิม พ.ศ. 2514 ได้รับสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในพระ ราชทินนามเดิม จนกระทั่งมรณภาพ ก่อนที่ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดมารวิชัยนั้น วัดนี้มีชื่อ ว่า วัดผจญมาร ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมีได้เป็นเจ้าอาวาสแทนหลวงพ่อคล้ายที่ลาสิกขาไปแล้ว ท่านพิจารณาเห็นว่าชื่อ "วัดผจญมาร" เป็นชื่อที่ไม่เป็นสิริมงคลทำให้ต้องพบพานแต่มาร ต้องผจญมารกันอยู่เรื่อย สร้างความอัปมงคลตลอดมา เพราะเจ้าอาวาสองค์ก่อนๆมีอยู่องค์หนึ่งมรณภาพในผ้าเหลือง และเจ้าอาวาสองค์ต่อๆมาอีก 8 รูปก็ลาสิกขากันทั้งสิ้นรวมทั้งหลวงพ่อคล้ายเจ้าอาวาสองค์ก่อนหลวงพ่อมีด้วย ท่านจึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดมารวิชัย หมายถึงมีชัยชนะเหนือมารทั้งปวง นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อมีพระอาจารย์จอมขมังเวทย์ผู้มัชัยชนะมาร ก็เป็น เจ้าอาวาส องค์ที่ 11 สามารถปกครองวัดมารวิชัยไม่เคยลาสิกขาเลย ทางด้านสาธารณะประโยชน์ต่างท่านได้ทำไว้มากมาย เช่น สร้างศาลาเรียงล้อมศาลาการเปรียญ หลังใหญ่ที่ หลวงพ่อปาน มาสร้างไว้ทั้ง 4 ด้าน แล้วสร้างหอระฆังและกุฏิอีก 3 หลัง ปัจจัยที่มีอยู่ทั้งหมดไปสมทบทุนกับทางราชการสร้างโรงเรียน 2 แห่ง คือโรงเรียนวัดมารวิชัย และโรงเรียนจุฬาราษฎร์วิทยา ในเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2509 และยังได้สร้างสถานีอนามัย เนื้อที่ 7 ไร่ กับสำนักงานผดุงครรภ์ประจำตำบลบางนมโค ในเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน อีกด้วย สาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาส่วนใหญ่เป็นที่ดินของบรรพบุรุษที่ตกทอดมาถึงหลวงพ่อมี แล้วท่านนำมาบริจาคต่อ ทั้งยังขายที่ดินอีกบางส่วนไป เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุนในการก่อสร้างต่าง ๆ เช่น สร้างฌาปนสถาน พ.ศ. 2510 สร้างกำแพงรอบอุโบสถเพื่อความเป็นสัดส่วน และท่านเป็นผู้ขอไฟฟ้าโดยเริ่มปักเสาจากปากทางถนนสาคลี ผ่านหน้าวัดมารวิชัยเรื่อยไป ถึงตลาดสาคลี เป็นระยะทางประมาณ 7 ก.ม. ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวของหลวงพ่อมีทั้งสิ้น เมื่อปี พ.ศ. 2514 นอกจากนี้หลวงพ่อมียังได้สร้างแท้งน้ำ เครื่องสูบน้ำสำหรับพระและชาวบ้านได้ใช้ดื่มน้ำที่สะอาด สร้างศาลาท่าน้ำ สร้างหอสวดมนต์ในปี พ.ศ. 2521และอื่นๆอีกมาก วัตถุมงคลที่ท่านสร้างล้วนแต่มีความเข็มขลังและมีประสบการณ์มากมาย ส่วนมากเน้นไปทางแคล้วคลาดปลอดภัย เช่น ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ แต่คนในรถไม่เป็นอะไรเลย แต่ที่นำไปทดลองยิงแล้วปืนแตกก็มี แสดงว่าพุทธคุณครบทุกด้าน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2543
ราคาเปิดประมูล50 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ม.ค. 2556 - 19:39:46 น.
วันปิดประมูล - 29 ม.ค. 2556 - 19:39:46 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลสุขสงบ (8.1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     50 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM