(0)
เหรียญประจำวันพุธ หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ปี 249....กว่า






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญประจำวันพุธ หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ปี 249....กว่า
รายละเอียดปาฏิหาริย์ของหลวงปู่


ร่างไม่เปียกฝน
ขณะที่หลวงปู่ปักกลดเจริญภาวนาอยู่ที่ป่าบ้านหนองปลาดุก(จากบันทึกไม่ทราบว่าเป็นจังหวัดใด) ครั้งนั้นมีหลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงษ์ ร่วมธุดงค์ไปด้วย เกิดพายุฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่ามาทางท่านและพระภิกษุทั้งสอง หลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงส์ได้หนีน้ำป่าละจากกลดที่ท่านพักอยู่เดินมายังกลดหลวงปู่คำมี ท่านทั้งสองได้พบกับความแปลกใจ น้ำป่ามิได้ไหลเข้ามาบ่าท่วมทำลายกลดของหลวงปู่คำมีแต่อย่างใดไม่ อีกทั้งจีวรของหลวงปู่คำมีก็มิได้เปียกฝนอย่างเช่นพระภิกษุทั้งสอง


ย่นระยะทาง
คราวที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ใหม่ วัดดงจำปา ได้มานิมนต์ท่านไปฉันท์เพลที่บ้าน หลวงปู่สั่งให้ผู้นิมนต์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อผู้นิมนต์กลับไปถึงบ้านถึงกับตกตลึงเมื่อเห็นหลวงปู่กำลังตักน้ำล้างเท้า สร้างความสงสัยให้แก่พวกเขายิ่งนัก ว่าท่านมาได้อย่างไรแซงพวกเขาขึ้นมาตอนไหน เพราะทางแถวนั้นเป็นป่าทั้งหมดมีทางเดินเพียงทางเดียว


เสกปูนให้จืด
ทุกครั้งที่ก่อนจะเข้าพิธีหลวงปู่จะขอปูนแดงที่กินกับหมาก ก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือมาทำการเสกให้จืดเสียก่อนเพื่อเป็นเคล็ดในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เคยมีผู้ทดลองชิมปูนแดงที่หลวงปู่เสกแล้วปรากฏว่าจืดสนิท


หายตัวได้
พระอาจารย์หวาน หลวงพี่จันทร์ พระทั้งสองซึ่งจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำมี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์เล่าให้ฟังว่า ได้มีญาติโยมหลวงปู่และพระในวัดไปฉันท์เพลที่บ้านดงน้อย ทางไปบ้านดงน้อยนั้นต้องอาศัยเพียงการเดินเท้าไปเพราะทางเดินเป็นป่าและทุ่งนา ขากลับจากฉันท์เพลผ่านสระน้ำ อากาศวันนั้นร้อนมาก หลวงปู่ได้บอกกับพระทั้งสองว่า ท่านขอสรงน้ำสักครู่ขอให้ท่านทั้งสองรออยู่ก่อน ในขณะที่ท่านสรงน้ำนั้นปรากฏว่าพระทั้งสองรูปไม่สามารถมองเห็นหลวงปู่ จึงเที่ยวตามหาในบริเวณนั้น เป็นเวลานานแต่ก็ไม่พบ พระทั้งสองรูปจึงปรึกษากันว่าหลวงปู่คงไปจากที่นั้นเสียแล้วจึงได้ชวนกันกลับวัด เมื่อพระทั้งสองรูปมาถึงที่วัดก็ถึงกับตกตลึงเมื่อพบหลวงปู่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หลวงปู่บอกพระทั้งสองรูปว่าเห็นพระทั้งสองตามหาท่าน ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้ไปไหน
พระอาจารย์หวาน เป็นศิษย์สืบทอดวิชาท่านหนึ่งของหลวงปู่ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว ส่วนหลวงพี่จันทร์ได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิดของท่านคือ วัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น


ขโมยของไม่ได้
จ่าสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) ท่านเป็นทหารปืนใหญ่อยู่ในจังหวัดลพบุรี เล่าให้ฟังตอนไปทำบุญที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ จ่าสำราญแกได้รับแจกเหรียญหลวงปู่คำมีมาเหรียญหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านได้วางเหรียญของหลวงปู่ไว้บนหลังโทรทัศน์และลืมสนิทเนื่องจากแกไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเครื่องรางของขลังใดๆ เวลาต่อมาหลายวันหลังจากนั้น ได้มีขโมยได้งัดบ้านแกเข้าไปขโมยของภายในบ้าน ขโมยคนนั้นได้เข้าไปพยายามยกโทรทัศน์แต่ยกไม่ขึ้น โดยช่วยกันยกทั้งสองคนแต่ก็ยกไม่ขึ้น จ่าสำราญแกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นขโมยทั้งสองกำลังพยายามยกโทรทัศน์กันเป็นสามารถแต่ยกไม่ขึ้น ทั้งที่ความจริงโทรทัศน์เครื่องนั้นไม่ได้หนักมากแต่อย่างใด ลำพังคนเดียวก็สามารถยกขึ้นได้ และเมื่อขโมยเห็นเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาจึงชักปืนยิงจ่าสำราญ โดยยิงเท่าไรก็ไม่ออก เสียงดัง แชะ แชะ อยู่อย่างนั้น จ่าสำราญได้สติจึงชาร์จเข้าไปหวังจะจัดการเจ้าขโมยสองคนนั้น ขโมยทั้งสองคนเห็นว่าจ่าสำราญยิงไม่ออกจึงขวัญหนีโกยแน่บโดยไม่ได้อะไรไปแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าถามว่าจ่าแกมีอะไรดีปืนถึงยิงไม่ออก ก็ขอบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวแกนอกจากเสื้อผ้าแล้วไม่มีอะไรเลย นอกจากเหรียญหลวงปู่คำมีที่วางอยู่บนหลังโทรทัศน์ที่เจ้าขโมยสองคนนั้นพยายามยกอยู่เท่านั้น

แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วแต่บารมีแห่งความเมตตาของท่านยังอยู่
สตรีท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม) สามีเธอเป็นข้าราชการทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตอาวุธ (กสย.) จ.ลพบุรี ได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลลพบุรี บุตรเกิดอาเท้าออกไม่กลับหัวลงและมีอาการช๊อค แพทย์ลงความเห็นว่าผู้หญิงคนนี้คงรอดยากจึงได้นำตัวส่งเข้าห้องไอ.ซี.ยู ผู้หญิงคนที่คลอดบุตรได้เล่าให้ฟังว่าในขณะที่กำลังชุลมุนกันอยู่นั้นได้เห็นภาพพระแก่ๆมาเป่าท้องให้ ตอนแรกหมอจะผ่าท้องเอาเด็กออกโดยไม่แน่ใจว่าเด็กจะรอดหรือแม่จะรอด เพราะดูในฟิล์มเอ็กซเรย์แล้วเด็กไม่ยอมกลับตัวจะเอาขาออก กลับคลอดออกมาปลอดภัยแบบปาฏิหาริย์เมื่อคนแม่ฟื้นขึ้นมา สร้างความประหลาดใจให้กับคณะแพทย์และพยาบาล เมื่อสตรีผู้นั้นได้กลับมาพักฟื้นได้ถามชาวบ้านละแวกนั้นว่ามีพระแก่ๆที่อายุมากๆที่มรณภาพไปแล้วบ้างไหม พร้อมทั้งได้ให้สามีช่วยสืบข่าวตามหา
เผอิญได้เข้ามาในวัดกับสามีและได้มากราบศพท่าน เหลือบไปเห็นภาพหลวงปู่คำมี จึงได้บอกกับสามีว่านี่แหละหลวงปู่องค์นี้ไปเป่าท้องให้จึงคลอดบุตรออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งสองสามีจึงเคารพท่านมาก เนื่องจากไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อน แต่ท่านได้มาช่วยครอบครัวนี้ให้พ้นจากภัยอันตราย

หัวหน้าเกษตรกร ประจำอยู่ที่ อ.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้ล่าให้ข้าพเจ้า(จ่าบัติ) ฟังพร้อมกับพระในวัด ว่าได้มีพระแก่ๆไปเข้าฝันบอกว่าให้มาเปลี่ยนผ้าจีวรให้ท่านหน่อยทั้งๆที่ท่านไม่เคยรู้จักและทราบว่าในวัดถ้ำคูหาสวรรค์จะมีพระภิกษุ มรณภาพนอนอยู่ในโลงแก้ว ในฝันนั้นท่านบอกว่าเห็นเห็นภาพโลงแก้ว ข้างๆโลงแก้งมีภาพของหลวงปู่อยู่ จึงได้พยายามสอบถามจากชาวบ้านละแวกนั้นว่าในแถบนี้มี หลวงปู่ หลวงพ่อที่มรณภาพแล้วไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วบ้างหรือไม่ จึงได้ความว่าเป็นหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เมื่อเป็นที่กระจ่างแล้ว ท่านจึงรีบเดินทางมาที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เมื่อมาอยู่หน้าโลงแก้วของหลวงปู่ก็จำได้ว่าเป็นสถานที่เดียวกันกับนิมิตที่พบในฝัน จึงกลับเข้าไปในตัวเมืองซื้อผ้าไตร จีวรมาถวายหลวงปู่โดยทันที เมื่อกลับไปแล้วก่อนวันหวยออกท่านก็ได้ซื้อล็อตเตอรี่เหมือนเช่นเดิมที่ท่านเคยปฏิบัติมา ปรากฏว่าท่านเกษตรกรผู้นั้นถูกรางวัลที่สอง ซึ่งแต่ก่อนหน้านั้นมาท่านซื้อล็อตเตอรี่มาตลอดแต่ไม่เคยถูกเลย ท่านจึงให้ความคารพนับถือต่หลวงปู่คำมีเป็นอย่างมาก


คุณสายสุนีย์ บ้านอยู่แถวบางซื่อ ได้เช่าพระเครื่องรุ่นฉลองอายุ ๙๖ ปี ของหลวงปู่คำมี แล้วได้นำมากราบไหว้บูชาทุกคืน อยู่มาวันหนึ่งหลวงปู่คำมีได้มาเข้าฝันคุณสายสุนีย์ให้ซื้อเลขท้าย ๒ ตัวของงวดที่จะออกในวันรุ่งขึ้น คุณสายสุนีย์ได้หาซื้อล็อตตอรี่เลขที่หลวงปู่บอกในฝันมาได้ ๔ ใบ ปรากฏว่าเมื่อหวยออกคุณสายสุนีย์ได้ถูกรางวัลเลขท้ายตรงตามที่หลวงปู่ได้มาเข้าฝันบอกไว้ จึงเพิ่มความศรัทธาให้กับคุณสายสุนีย์และได้ทำการบูชาเรื่อยมา และคุณสายสุนีย์ได้ถูกล็อตเตอรี่ต่อมาติดต่อกันอีกถึง ๙ งวด


คุณกัลยารัตน์ เกษราพงษ์ บ้านลขที่ ๘๗/๔ ตรอกโพธิ์สามต้น กรุงเทพฯ ได้เล่าให้ฟังตอนไปร่วมทำบุญที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ได้พระสมเด็จนางพญาของหลวงปู่มาหนึ่งองค์ เธอได้อธิษฐานขอให้มีโชคในการอธิษฐานขอให้มีโชคลาภ ปรากฏว่าคืนนั้นหลวงปู่มาเข้าฝันบอกให้ไปซื้อเลขท้ายสามตัว ปรากฏว่าว่าธอถูกรางวัลสามตัวตรงๆตามเลขที่หลวงปู่มาบอก ซึ่งตั้งแต่ซื้อล็อตเตอรี่มาเธอไม่เคยถูกเลยและหลวงปู่ได้มาเข้าฝันบอกถูกอีกแปดงวดซ้อน
ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ยังมีอีกมากมาย แต่ขอกล่าวแต่เพียงเท่านี้เพื่อเป็นการเจริญศรัทธา อีกทั้งเรื่องเหล่านี้นับเป็นเรื่องปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน ผู้ที่ไม่ทราบด้วยตนเองอาจปรามาสหลวงปู่ได้


หลวงปู่ท่านได้ประกอบคุณงามความดีมาตลอดชีวิตของท่านด้วยระยะเวลาอันยาวนานตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณรจวบจนมรณภาพที่ โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพฯ ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ รวมอายุท่านได้ ๑๐๘ ปี ๘๐กว่าพรรษา
บรรดาศิษยานุศิษย์ได้เคลื่อนย้ายสังขารของท่านมาไว้ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จังหวัดลพบุรี ตามคำสั่งของท่านที่ว่าเมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ห้ามนำร่างของท่านไปเผาหรือฝังเด็ดขาด และเกิดปรากฏเป็นที่ประจักษ์ต่อบรรดาพุทธศาสนิกชนว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน750 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 25 ส.ค. 2555 - 13:06:48 น.
วันปิดประมูล - 29 ส.ค. 2555 - 23:11:58 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsak15 (1.8K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     750 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Salob (111)

 

Copyright ©G-PRA.COM