| ชื่อพระเครื่อง | พระชัยวัฒน์หลวงพ่อพลอยวัดเงินบางพรม |
| รายละเอียด | พระหล่อฐานสูงรุ่นแรกหลวงพ่อพลอยวัดเงินบางพรม พระหล่อเก่าอายุกว่า 80 ปี สภาพเดิม ๆ ก้นอุดด้วยผงวิเศษทั้ง 5 และปิดทับด้วยชันโรง หลวงพ่อพลอย วัดเงินคลองบางพรม หรือ พระครูภาวนาภิรมย์ พรหมโชโต วัดรัชฎาธิษฐาน แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ท่านเป็นชาวตลิ่งชันโดยกำเนิด ในสกุล "ทับทอง" เกิดที่บ้านคลองผ้าลุ่ย ตำบลบางเชือกหนัง อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรีในอดีต ท่านบวชที่วัดประสาทซึ่งอยู่ห่างจากวัดเงินเล็กน้อย โดยมีพระวินัยกิจการี(ภู่) วัดเงิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สุข วัดประสาท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูนิโรธรักขิต วัดกาญจนสิงหาสน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดประสาท ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสนากรรมฐานกับพระอาจารย์สุขและพระอุปัชฌาย์ของท่าน และเรียนมูลกัจจายน์ในสำนักพระอาจารย์จั่น จากนั้นท่านไปศึกษาพุทธาคมและแพทย์แผนโบราณกับอาจารย์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประสาทเมื่อใดไม่ปรากฎหลักฐาน แต่ในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2473 ท่านได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดรัชฎาธิษฐาน(วัดเงิน) พระอารามหลวง ขณะมีอายุ 64 ปี ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร มีราชทินนามว่า "พระครูภาวนาภิรมย์" เป็นเจ้าคณะตำบลบางเชือกหนังและเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพลอยท่านมีชื่อเสียงตั้งแต่อยู่วัดประสาท ในด้านแพทย์แผนโบราณ รดน้ำมนต์บำบัดคุณไสย์ ต่อกระดูก และรักษาฝี ในการรักษาฝีผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องมาพบหลวงพ่อ เพียงแต่ให้ญาติผู้ป่วยมาเล่าอาการของฝีและตำแหน่งที่เกิดให้หลวงพ่อทราบ ตอนกลางคืนหลวงพ่อจะเอาดินเชิงเทียนพุ่มมาปั้นเป็นรูปคนแล้วใช้เข็มแทงตรงที่เกิดฝี ชั่ว3วันฝีก็จะแตกและยุบไปเองหลวงพ่อพลอย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า เป็นศิษย์ร่วมสำนักวัดรัชฎาธิษฐานและอุปัชฌาย์องค์เดียวกันกับหลวงพ่อทอง วัดราชโยธา แต่อายุอ่อนกว่า
หากย้อนหลังไปกว่า 80 ปีก่อน ลูกผู้ชายตัวจริงที่ชื่นชอบชีวิตการต่อสู้ โลดโผนและคงกระพันแล้ว ต่างมุ่งหน้าสู่วัดเงินไปหาหลวงพ่อ เพื่อรดน้ำมนต์ ขอตะกรุด ผ้ายันต์ และเครื่องรางของขลังต่างๆจากท่าน โดยเฉพาะแหวนพิรอดแขนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ใครอยากได้ต้องไปบอกหลวงพ่อไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วค่อยมารับในภายหลัง วิธีทำแหวนพิรอดแขนของท่านจะใช้ผ้าดิบที่ห่อศพมาฉีกเป็นเส้นๆลงอักขระแล้วถักเป็นแหวน คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าตอนเป็นหนุ่มรุ่นกระทงได้ติดตามคุณลุงไปรับแหวนพิรอดแขนจากท่าน เห็นท่านเอาแหวนโยนเข้าเตาไฟจนแหวนลุกแดงเป็นถ่านไฟ แล้วท่านใช้เหล็กคีบถ่านออกมาจุ่มน้ำ และประสิทธิ์ประสาทให้ ท่านบอกว่าถ้าไหม้ไฟเป็นขี้เถ้าก็ใช้ไม่ได้ แหวนวงนี้คุณลุงใช้ลุยมาในวัยฉกรรจ์ ขนาดเดินสวนทางปืน แลกกันระหว่างมีดกับปืนมาแล้ว เล่นเอาคนใช้ปืนกระโดดน้ำหนี ในสมัยนั้นมีโรงฝิ่นคุณลุงได้ไปจำนำไว้มีมูลค่าถึงร้อยบาทเชียว
ในปี พ.ศ.2464 ขณะที่ท่านยังอยู่วัดประสาท ท่านได้ชักชวนชาวบ้านร่วมกันหล่อพระพุทธรูป รอยพระพุทธบาทจำลอง และระฆังขึ้นประดิษฐานไว้ในมณฑป เศษโลหะที่เหลือจากการหล่อเนื้อทองเหลือง ท่านนำมาสร้างเหรียญหล่อรูปหยดน้ำ สีทองดอกบวบ มีห่วงในตัวเหมือนปลิงเกาะ เป็นรูปพระพุทธนั่งขัดสมาธิเพชร บนฐานบัว 5 ดอก ด้านข้างองค์พระมีเส้นรัศมีโดยรอบ ด้านหลังเป็นยันต์อริยสัจ 4 อักขระขอมนูน 4 ตัว อ่านได้ว่า ทุ สะ นิ มะ แยกออกได้เป็น 2 พิมพ์คือ พิมพ์หูยาว และ พิมพ์หูสั้น
ในปี พ.ศ.2473 เมื่อท่านได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเงิน ท่านยังได้นำเหรียญหล่อมาแจกที่วัดเงินด้วย โดยเฉพาะเด็กๆท่านจะเมตตาเป็นพิเศษ หากผู้ใหญ่พาไปกราบท่านจะมอบเหรียญให้ โดยใช้ด้ายสายสิญจน์นำมาทบกัน แล้วกลึงที่หน้าตักเป็นเกลียวเชือก ร้อยห่วงเหรียญทำเป็นสร้อยคล้องคอ เด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นคล้องเหรียญท่าน ตกน้ำลอยปร๋อ หมากัดก็ไม่เข้า ผู้ใหญ่เอาไปใช้ก็บอกต่อกันว่า ป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอได้ดี มีโชคลาภและแคล้วคลาดปลอดภัยดีนัก เรื่องมหาอุดหยุดปืนก็มีเรื่องเล่ากันไม่รู้จบ ปัจจุบันเหรียญหล่อของท่านหาแท้ๆยาก เพราะท่านสร้างไว้จำนวนน้อย ประมาณว่าสร้างแค่จำนวนหลักร้อย ใครๆมีต่างก็ห่วงแหน ปกปิด ไม่ยอมเปิดเผย โดยเฉพาะบรรดาเซียนแอบซุ่มเก็บเข้ารังกันเงียบ ข้าพเจ้าเองเมื่อทราบเกียรติคุณของท่านจากคุณพ่อ ก็ได้พยายามเสาะหา ผ่านมา 30 ปีเศษได้เห็นของแท้ยังไม่ถีง 30 เหรียญ และที่ได้ข่าวคราวรวมกันแล้วยังไม่ถีงร้อยเหรียญ โดนของเก๊มาก็หลายหนจนต้องทำการศึกษาและพอเอาตัวรอดได้บ้าง
การสร้างวัตถุมงคลของท่าน ที่วัดเงินเล่ากันว่า นอกจากแหวนพิรอดแขน ตะกรุด ผ้ายันต์ พระเนื้อผงพิมพ์สมเด็จแล้ว ท่านยังสร้างพระเนื้อดินเผาบรรจุพระเจดีย์ไว้ สำหรับพระชัยวัฒน์ท่านหล่อขี้นก่อนมรณภาพประมาณ 3 ปี (พ.ศ.2485-2486)แต่ท่านไม่แจกให้ใคร เมื่อท่านมรณภาพแล้วพบในกุฏิของท่าน ซี่งมีจำนวนหลักร้อยเช่นกัน และในงานพระราชทานเพลิงศพของท่านเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2488 ทางวัดได้นำพระชัยวัฒน์ และเหรียญหล่อบางส่วนมาแจกเป็นของที่ระลึกในงานด้วย โดยนำใส่พานพุ่มมาวางไว้ที่บันไดทางลงเมรุทั้งสองข้าง ในวันงานนักเลงต่างถิ่นและพื้นที่มาเจอกัน ยังไล่ตีรันฟันแทงกันวุ่นวาย เพลิงยังไม่ทันมอด ผู้คนที่มาในงานต่างเฮโลกันขึ้นไปบนเมรุแย่งอัฐิของท่าน ในปัจจุบันถ้าจะถามถึงผู้สูงอายุที่ทันเห็นหลวงพ่อและเล่าความหลังได้มีเหลืออยู่ไม่กี่คน หากใครไปพบเหรียญของหลวงพ่อโดยเฉพาะจากคนในพื้นที่ หากสามารถบุกออกมาได้นับว่ายอดเยี่ยมครับ |
| ราคาเปิดประมูล | 1,000 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 4,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 17 ก.พ. 2555 - 22:23:39 น. |
| วันปิดประมูล | - 20 ก.พ. 2555 - 22:23:39 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | ยอดวัดดอน (290)   
|
