(0)
450 .- / เหรียญหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค รุ่นสร้าง วัดเขาสพานนาค ปี 02 ( ขี่ปลา ) ... หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิฐานจิต








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง450 .- / เหรียญหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค รุ่นสร้าง วัดเขาสพานนาค ปี 02 ( ขี่ปลา ) ... หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิฐานจิต
รายละเอียด.....เหรียญเก่า ปี 02 หลวงพ่อเล็ก ปลุกเสก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อธิฐานจิต...
ประวัติการสร้างวัดเขาสพานนาค
....หลวงพ่อปาน ท่านเห็นว่าแต่ละปีจะมีผู้คนมากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทวัดเขาวงพระจันทร์และพักที่ศาลาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่พื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้งไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอ จึงมีความคิดที่จะสร้างวัดเขาสะพานนาคที่บริเวณนั้น โดยให้ใต้ล่างอุโบสถและศาลาการเปรียญเป็นถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ประชาชนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกลาว(คนไทยพูดภาษาอิสาน) มีอาชีพทำไร่ทำนาเป็นหลัก ฐานะกำลังเงินคงไม่เพียงพอ หลวงพ่อปานก็ให้นายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิต เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งที่ศรัทธาหลวงพ่อ ออกเงินสร้างวัดเขาสะพานนาค นายห้างประยงค์ถามว่า " จะเอาเงินเท่าไหร่จึงจะพอครับ " ท่านบอก " ทำไปเรื่อย ๆ มีเงินเป็นทุนสำรองไว้ประมาณ 2 หมื่นบาท " หลวงพ่อปานสั่งว่า " ถ้าเอ็งจะเอาเงินไหนไปเป็นทุนสำรอง เอ็งเอาเงินนั้นมาให้หลวงพ่อก่อนนะ " แล้วนายห้างประยงค์ ก็เอาเงินมาให้หลวงพ่อปาน แทนที่หลวงพ่อปานท่านจะเอาไว้ ท่านก็เอาเงินจำนวนนี้ มาเสกด้วยคาถาวิระทะโย 7 คืน แล้วท่านก็ให้เงินนั้นกลับไป ท่านสั่งว่า " ถ้าเวลาที่หลวงพ่อบอกเอาเงินมาให้ เอ็งเอาเงินกองนี้นะห้ามเอากองอื่น" เวลาที่ท่านบอกให้เอาเงินมา นายประยงค์ก็เอาเงินกองนั้นแหละมาโดยหยิบเข้าหยิบออกอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งสร้างวัดเขาสะพานนาคเสร็จ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2479 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี จึงเสร็จเรียบร้อย เงินก็ยังเหลือ 2 หมื่นคงเดิม
ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=146649

สภาพสวย ทองแดงกะไหล่ทอง...
ราคาเปิดประมูล400 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ม.ค. 2555 - 21:28:29 น.
วันปิดประมูล - 05 ม.ค. 2555 - 21:28:29 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลR9999 (8.5K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 03 ม.ค. 2555 - 21:28:42 น.



...ต่อมาพระราชพรหมยาน(พระมหาวีระ ถาวโร) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ. เมือง จ.อุทัยธานี ศิษย์ของหลวงพ่อปาน ได้เขียนไว้หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน โดยมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดเขาสะพานนาคดังนี้






พระราชพรหมยาน (พระมหาวีระถาวโร) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ. เมือง จ.อุทัยธานี

พอถึงที่ตั้งวัดเขาสะพานนาค เดิมไม่มีวัด หลวงพ่อปานท่านมาสร้างไว้ เพราะคนจะเข้าเขตเขาวงพระจันทร์ต้องเข้าทางนี้ ท่านจึงบัญชาการให้นายห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร คือนายประยงค์ ตั้งตรงจิตร ออกทุนสองหมื่นบาทสร้างกุฎี หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญเสร็จ แถมเริ่มอุโบสถเข้าไปเกือบเสร็จ ตอนนั้นฉันก็ไปเป็นช่างแบกช่างยกกับเขาเหมือนกัน แบกไม้ขึ้นหลังคา ช่างที่ทำส่วนใหญ่เป็นพระวัดบางนมโค บางท่านเกือบจะมาเป็นเจ้าของตลาดหนองเต่าเสียก็มี เพราะถ้าต้องการอาหารต้องเดินมาซื้อที่ตลาดหนองเต่า หรือจะเดินทางมาเดินทางกลับต้องเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานีหนองเต่า เมื่อไปมาหลายวาระเข้าก็เจอวัวเขาอ่อนเข้า วัวก็ร้ายควายก็แรงมันก็ต้องขวิดกัน ใครจะสู้ใครได้ เขาไม่ตั้งให้เป็นกรรมการ เลยไม่ทราบว่าใครแพ้ใครชนะ วัวที่มีกำลังส่วนใหญ่เป็นวัวพันธุ์เมืองจีน
ขั้นแรกหลวงพ่อท่านตั้งใจจะสร้างเป็นศาลาที่พักคนเดินทาง ด้วยคนมาเขาวงพระจันทร์เมื่อถึงตรงนี้ (วัดเขาสะพานนาค) ต่างก็หยุดพัก ท่านจึงสร้างศาลาหลังเดียวก่อน และต่อมาสร้างเป็นวัด เพียง 2 ปีก็มีสถานที่สมบูรณ์ ด้วยช่างหาง่าย ช่างท่านใดถูกวัวขวิดก็ไปเก็บซากมาทำงานตามเดิม ที่ทนทานวัวขวิดไม่ไหว มีหลายรายที่ต้มวัวเสียสุก คือบอกว่าถ้าวัดเสร็จก็จะตกลงขึ้นเวทีขวิดกันเป็นทางการ แม่วัวตัวสวยตกหลุมพราง ส่งข้าวส่งน้ำ พองานเสร็จงวดคือไม่เสร็จหมด หลวงพ่อท่านก็เปลี่ยนช่าง เจ้าควายเลยไป ไม่กลับ พวกรุ่นใหม่มาก็รับฟ้องจากแม่วัว ว่าแล้วก็โอ๋กันต่อไป เมื่อไม่ได้รุ่นแรกฉันก็ต้องจัดการกับรุ่นนี้ให้ได้ ข่าวนี้เข้าหูบ่อย ๆ บางรายก็ได้จริง ๆ แต่บางรายก็เสียเหยื่อเป็นวาระที่ 2 ที่ 3 เพราะเจ้าควายไม่ยอมสู้ ยิ่งพวกควายที่สงบเสงี่ยม เขาคิดว่าเขามาทำบุญไม่สุงสิงสนใจ แม่วัวตัวร้ายยิ่งสนใจเป็นพิเศษ เรื่องของกิเลสเป็นเรื่องธรรมดา
ในหนังสือเล่มเดียวกัน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวถึงรายละเอียดในขณะกำลังดำเนินการก่อสร้างวัดเขาสะพานนาค โดยให้ข้อคิดข้อควรปฏิบัติต่างมากมาย รวมทั้งยังได้กล่าวถึงเทวดาเจ้าที่(ท่านเจ้าพ่อขุนด่าน)
พบลาวเก่งวิชา
นักบุญหรือพระที่มาทำการก่อสร้างก็มาจากฐานะไม่เสมอกัน บางท่านก็หยาบบาง ท่านก็สงบเสงี่ยม มีพระองค์หนึ่งอย่าออกชื่อเลยนะ ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลานี้ก็เป็นคนดีน่าบูชา อายุก็มากแล้ว เห็นจะ 60 ปีกว่าหลายปี ด้วยท่านบวชก่อนฉันหลายปี มีแรงมาก ทำงานเก่ง องค์นี้ดี ไม่ต้องเกรงว่าวัวเขาอ่อนจะลอกหนัง ด้วยปากแกหยาบเสียจนหาคนรักยาก แต่ทว่างานดีมาก วันหนึ่งเมื่อพระขึ้นไปติดเครื่องบนศาลาการเปรียญ แดดร้อน หลวงพ่อท่านอนุญาตให้ใช้คลุมศรีษะได้ ท่านบอกว่าอานิสงส์สร้างวัดมากกว่าโทษที่เสียจริยาเล็กน้อยมาก เราลงทุนน้อยได้กำไรมาก ควรทำ ต่างองค์ก็เอาผ้าบ้าง หมวกบ้าง คลุมศรีษะ ท่านองค์ปากสว่างล่อหมวกปีกใหญ่ที่พวกจีนทำไร่ชอบใช้ ความจริงก็ดี ร่มมากดีมาก ฉันยังเคยอาศัยร่มแกในการบางคราว เจ้าลาวคนนั้นมาเห็นเข้ามันก็ร้องว่า พระไม่สำรวม ใส่หมวกอย่างฆราวาส พระทุกองค์เขาไม่อยากตอบ มีองค์ปากสว่างองค์เดียวทนไม่ได้ แกร้องด่าลงมาจากข้างบนว่า อ้ายลาวปากหมา มึงเสือกไม่เข้าเรื่อง ประเดี๋ยวพ่อทุ่มด้วยไม้ขื่อ เจ้าลาวโกรธมาก มันร้องประกาศว่า พระทุกองค์จะต้องตายก่อนเพลวันนี้ เวลาที่พูดกันประมาณ 8 น. เศษ มันพูดแล้วมันก็เดินไปทางหลังเขาสะพานนาค เมื่อมันไปแล้วก็ไม่มีพระอะไรสนใจเรื่องที่มันบอกว่าจะให้ตาย เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาทีเศษ เจ้าลิงขาวเขาไปทำงานด้วยและเจ้าลิงเล็กด้วย สามเตื้อ เมื่ออยู่ไหนก็อยู่ร่วมกัน ที่เขาสะพานนาคหรือเขาวงพระจันทร์เป็นที่สงัด กลางวันทำงาน กลางคืนทำใจให้สบายบอกไม่ถูกเลย คณะของเราวัวเขาอ่อนสนใจมาก เพราะเป็นพวกสงบเสงี่ยมแต่เราก็ไม่หลอกใคร ให้ก็กิน เรื่องรับปากว่าจะเป็นผัวใครไม่มีในใครคณะสามเกลอหรือสามลิงของเรา เขาให้กินเรารับ เขาให้ใช้เรารับ เขาให้กกเราไม่ตกลงแน่ เพราะกกมาพอแรงแล้วไม่เห็นอะไรเป็นเรื่องเลย เมื่อเวลาผ่านไปเล็กน้อยหลังจากที่เจ้าลาวปากร้ายผ่านไป เจ้าลิงขาวมันบอกว่าเจ้าลาวคัดของ พวกเราระวัง ของที่อื่นต้านมันไม่ไหว มีพระหลวงพ่อกับยันต์เกราะเพชรเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราได้ ฉันเลยร้องสำทับไปว่า ทุกองค์ปลุกยันต์เกราะเพชรเพื่อความอยู่รอดของพวกเรา ทุกองค์หยุดงาน ต่างก็ปลุกยันต์เกราะเพชร ประเดี๋ยวเดียวตะกรุดหรือพระที่ได้มาจากวัดอื่นหักหมด เหลือแต่พระหลวงพ่อให้ไปเท่านั้นที่ไม่ยอมหัก พวกเราทราบทันทีว่าเจ้าลาวนั่นมันคงใช้วิชาทำเราไม่มีผล มันคิดว่ามีของกัน จึงคัดของ เมื่อปรากฏว่าพระวัดอื่นแตก พระบางองค์ตกใจหน้าเสีย จึงบอกท่านว่ายันต์เกราะเพชรคุ้มได้และวิชาที่ทำเราจะย้อนเข้าตัวคนทำเอง ทุกองค์จงว่า อิติปิโส ทุกองค์วางงาน พนมมือตาม ๆ กัน เขาว่าในใจ เขาอะไรบ้างไม่ทราบ เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที เจ้าลิงขาวก็บอกว่าขอให้ทุกองค์ทำงานตามปกติ เจ้าลาวหมอบแล้ว ช่างมัน ไม่ใช่เรื่องของเรา เราทำงานกันไป ของมันสังหารมันเอง ฉันเพลแล้วจึงค่อยไปดูมัน เจ้าลิงขาวมันทรงอภิญญา ฉันสู้มันไม่ได้สักอย่าง และเจ้าลิงเล็กด้วย มันทรงอภิญญาเหมือนกัน พวกเขาเป็นทหารคุ้มครอง เรื่องอันตรายนอกจากกฎของกรรมใหญ่แล้วเขาคุ้มได้จริง ๆ เมื่อทุกองค์ฟังแล้วก็ทำงานตามปกติ เมื่อถึงเวลา 11 น. เศษ ต่างก็พักจากงานมาอาบน้ำฉันข้าวเพล เมื่อฉันเสร็จก็พักเหนื่อยถึง 13 น. จึงจะขึ้นทำงาน คราวนี้เราพักกันจวนค่ำคือตะวันยอแสงจริง ๆ ด้วยอยากให้งานเสร็จเร็วๆ ไม่ใช่กลัววัวเขาอ่อน ไม่อยากให้งานยืดเยื้อ เผื่อว่าแม่วัวแก่หิวจัดจะได้ดื่มอาหารเร็วๆ พูดเรื่อยไปอย่างนั้นเอง เมื่อขณะพักงานนอนลงไปชั่วครู่ก็มีคนมาบอกว่า มีลาวคนหนึ่งนอนบวมทั้งตัว นอนร้องครวญครางอยู่ที่หลังเขาสะพานนาค ทุกองค์ไปดูก็พบเจ้าลาวปากเสียคนนั้น มันบวมเกือบปริ ร้องครวญครางน่าสงสาร เมื่อสอบถามก็ยอมรับว่าหวังจะทำให้พระทั้งหมดตาย มันเอาก้อนหินมาวางเป็นแถวจะเอาก้อนหินเข้าท้องพระ มันเก่งมาก แต่พอเริ่มทำก็ปรากฏว่ามีบาทาใครไม่ทราบมากระทบมันทั้งตัว เล่นเอานอนคว่ำนอนหงาย ในที่สุดหมดแรงลุกไม่ขึ้น บวมทันทีทันใด เรื่องต่อไปก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคู่ปรับเขานำส่งหลวงพ่อที่วัดบางนมโค สมัยนั้นการคมนาคมดีมาก แต่ว่ามีน้อยเหลือเกิน กว่าคนป่วยจะผ่านด่านมาถึงวัดบางนมโคก็เป็นวันที่ 3 ของวันป่วย มันร้องครวญครางไพเราะมาก เมื่อถึงหลวงพ่อ ท่านจัดการให้ขมาพระรัตนตรัยและรับว่าจะบวช เมื่อเขารับคำแล้วท่านก็ถอนหายภายในไม่ถึง 30 นาที เพราะไม่ใช่ไข้ เป็นโรคบาทาท่านขุนด่านกระทบ (ท่านขุนด่าน ท่านเป็นคณะเดียวกับพระกาฬลพบุรี) ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันอย่างไร วันหน้าค่อยฟังใหม่ วันนี้ถึงเวลา อาบน้ำเย็นเสียแล้ว ต้องต้มน้ำอุ่นอาบ ตามใจคนอุปถัมภ์เขา เขาหวังดีไม่มีผลร้ายก็ต้องตามใจเขา ตามลำพังคนเดียวดีไม่ดีกินข้าวส่งเดช นอนคอยเท่งทึงเสียสบายใจ เอาล่ะ คนต้มน้ำเขามาบอกว่าน้ำร้อนนานแล้ว เขาทำแล้ว ฉลองความดีเขา ใจเขาจะได้สดใส ตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ ขอลูกหลานทุกคนจงสบายดีนะ สวัสดี
สำหรับเรื่องนี้ นายสุภชาติ สุวรรณสิงห์ (อาจารย์เอ ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค) ได้เล่าเรื่องคล้ายกันและเพื่อเป็นการยืนยันจึงขอนำเรื่องที่เล่ามาถ่ายทอดให้ทราบคือ...เรื่องหนึ่ง(ที่เล่าไม่ได้อวดตัวนะ ฉันถือว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อปาน) เมื่อสมัยที่หลวงพ่อปานไปสร้างมณฑป สร้างบันไดที่เขาวงพระจันทร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ทางที่จะเข้าเขาวงพระจันทร์ก็คือทางเข้า วัดเขาสะพานนาค เดี๋ยวนี้วัดเขาสะพานนาค ถ้าใครไปรถยนต์จะไปทางลพบุรี ผ่านโคกสำโรงจะเห็นวัดเขาสะพานนาค วัดนั้นหลวงพ่อปานท่านสร้างๆว้ โดยทุน นายประยงค์ ตั้งตรงจิต ห้างขายยาตราใบโพธิ์ เป็นคนทำ คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นคนแรก เมื่อคาถา ให้ผลก็เอาทุนมาสร้างวัดนั้นเป็นวัดแรก ตามปกติหลวงพ่อปานท่านสร้างวัดพระที่เป็นลูกศิษย์ท่านก็เป็นช่างกันทั้งนั้น ฉันก็พลอยเป็นไปกับเค้าด้วย ไอ้ฉันไม่เป็นช่างอะไร เป็นช่างยก ฉันก็สร้างกับเขาด้วย ตอนนั้นกำลังสร้างศาลาการเปรียญ พวกพระก็ขึ้นไปอยู่บนหลังคา ฉันก็ขึ้นไป ไปทำกันบนหลังคา ทีนี้ก็มีเจ้าลาวคนหนึ่งเดินผ่านมา เจ้าลาวคนนี้เป็นลาวคงแก่เรียน มีวิชา เป็นนักทำคุณไสยเหมือนกัน ตอนนั้นมีแยะแถวนั้น พอเขาเดินผ่านมา เขาก็บอกว่า “หลวงพี่ครับระวังหล่นลงมานะ” พระแกได้ยินก็โมโห พระที่ถือโชคลางก็มี แกชื่อท่านผาด แกก็ด่าเอาว่า “ไอ้ลาวขี้แกล้ง ไอ้ลาวกินปลาร้า มึงจะทำอะไรก็ทำ ไอ้ลาวอย่างมึง ไม่มีความหมายอะไร” แกก็ด่า ด่าเอาหนัก ๆ แกเป็นคนขี้โมโห พวกเราก็ห้าม แกก็มาโกรธพวกเราอีก หาว่าเราไปกลัวเจ้าลาวคนนั้น แกว่า “เรามันลูกศิษย์หลวงพ่อปาน ใครจะมาทำอะไรได้” ไอ้เจ้าลาวโมโห มันเลยเดินเข้าไปหลังเขา จะทำอะไรบ้างฉันก็ไม่ทราบ ไม่มีใครทราบ พวกเราก็ทำงานกันต่อไป พอถึงเวลาเพลก็ลง ลงมาอาบน้ำอาบท่า พออาบเสร็จก็ฉันข้าว พอเสร็จก็นอน ตามบัญชาของหลวงพ่อปาน (คือว่าเมื่อฉันเช้าเสร็จแล้วให้ขึ้นทำงาน เมื่อฉันเพลเสร็จก็ให้นอน) นอนพักครู่หนึ่งถึงบ่าย 2 โมง ท่านสั่งไว้เลยว่าถ้ายังไม่ถึงบ่าย 2 โมง ไม่ให้ขึ้นทำงานเพราะแดดกำลังกล้า แต่ท่านไม่ได้มาคุมพวกเรา มากันตามลำพัง ทำกันเอง เมื่อท่านสั่งแล้วต้องเป็นผล เมื่อนอนไปสักครู่หนึ่ง ก็ยังไม่ถึงบ่าย 2 โมง มีชาวบ้านวิ่งเข้ามาบอกว่า “ท่านครับ มีลาวหนุ่ม ๆ คนหนึ่ง มันไปนอนตัวบวมอยู่หลังเขา มันร้องครวญครางอย่างจะพบพระ” พวกเราสงสัยก็พากันไปดู ไปทั้งหมดด้วยกัน 7 – 8 องค์ ก็เห็นเจ้าลาวคนนั้นเองที่มันบอกว่าระวังจะหล่นตากหลังคา มันร้องครวญคราง ก็ถามว่า “เป็นอะไร งูกัดหรือตะขาบกัด?” มันก็บอกว่า “เปล่า” “ผมขออภัยเถิดครับ” ถามว่า “ทำไม?” เขาก็บอกว่า “พวกท่านด่าผมน่ะผมโกรธ ไปหาตะปูมาเยอะ ผูกไขว้สี่มุม (หมายความว่าหลาวเป็นปลายแหลม 4 ทาง) นี่ผมจะทำตะปูเข้าท้องพวกท่านครับ ผมจะให้พวกตกจะศาลาตาย” ก็ถามวา”ทำไมไม่ทำ” เขาก็บอกว่า “ทำแล้วครับ เริ่มทำพอตะปูเล็กลงเท่านั้นแหละครับ ตะปูมันก็กระดอนเข้ามาถูกที่ตัวผม ป๊อกเดียว ผมก็หงายท้อง แล้วก็ไม่รู้สึกตัว เพิ่งจะมารู้สึกตัว นี่แหละครับมันปวดไปหมดทั้งตัวเลยครับ แล้วก็บวมไปทั้งตัวเลย ผมเห็นว่าพวกท่านมีดีจริง ๆ ผมขออภัยเถิดครับ ขอให้ท่านสงสารผมเถิดครับ” ท่านผาดเป็นคนเจ้าโมโห ก็บอกว่า “กูจะสงสารยังไง มึงตายเสียได้ก็ดี กูจะได้บังสุกุล กูไม่มีสตางค์ใช้อยู่แล้ว” เล่นกับพระซิ มองเห็นคนตายเป็นแหล่งหากิน ใครจะไปตายให้พระเห็นไม่ได้นะ ชาวบ้านเขากลัวคนตาย ใครตายเค้าเสียสตางค์แต่พระได้สตางค์ พวกเราก็เลยสงสาร บอกว่า “ท่านผาดสงสารเขาเถิด เขาก็ผิดไปแล้ว เขาทำแล้วโทษก็ถึงตัวเขาแล้ว” แกก็แสดงท่าทางพิโรธอยู่พักหนึ่ง ผลที่สุดก็ใจอ่อนบอกว่า “ในเมื่อในขออภัยก็ให้มัน แต่ต้องสัญญาก่อนว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าหายจากโรคแล้วจะต้องมาช่วยทำงาน 1 เดือน ถ้าไม่อย่างนั้นไม่ให้อภัย” ไอ้เจ้านั่นยอมทุกอย่าง แต่โรคทั้งหลายแหล่มันก็ไม่หาย มันก็ยิ่งปวดใหญ่ ผลที่สุดพวกเราไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีใครเป็นหมอเลย ไอ้หมออย่างฉันก็ใช้ไม่ได้ เพราะนั่นเป็นเรื่องของวิชาอาคม มันไม่ใช้รักษาโรคด้วยยา ไอ้ฉันก็ไม่ได้เป็นหมอ เป็นขี้ข้าหมอเรียนวิชาปรุงยาตามหมอสั่ง หมอเขาต้องการยาอะไรก็ให้อย่างนั้น ทีนี้ยาประเภทที่เรารู้ก็ไม่มีในป่า มาทำอะไรก็ไม่ได้ ถ้ารู้ว่าทำได้ เครื่องสกัดมันก็ไม่มี มัวไปนั่งสกัดตัวยาอยู่พอดีเป็นไข้ตาย ก็เลยหมดทาง ต้องนำไปวัดบางมนโค ให้หลวงพ่อปานแก้ไข เมื่อนำเจ้าลาวคนนั้นมาหาหลวงพ่อปาน หลวงพ่อก็รู้ท่านบอกว่า “ไม่ไหวแล้วไอ้หนูเอามาที่นี่เข้ารักษาไม่หายเพราะเป็นของที่เอ็งทำเอง เอ็งต้องกลับไปใหม่กลับไปที่วัดเขาสะพานนาค เอาดอกไม้ธูปเทียนไปขมาพระพวกนั้นเท่านั้นละ” ตาช่วยแกเป็นคนพามาบอกว่า “พระให้อภัยแล้วครับ” หลวงพ่อก็บอกว่า “ไม่ถูก การให้อภัยด้วยวาจาอย่างนั้นไม่ถูก เพราะการคุ้มพระพวกนั้นเป็นพระรัตนตรัยและเทวดา ต้องจัดดอกไม้ ธูปเทียน ไปขมาพระรัตนตรัย เทวดา และครูบาอาจารย์เจ้าของยันต์เกาะเพชร แล้วจะหาย” ผลที่สุดก็ต้องนำกลับไปอีก กว่าจะไปกว่าจะมาทรมานไปตั้ง 7 วันแล้ว ไอ้เจ้านั่นก็นอนครางแบบนั้น 7 วัน ผลที่สุดกลับมาขอขมาก็หาย เมื่อหายแล้ว แกก็รักษาสัจจะจริง ๆ อยู่ช่วยทำงาน 1 เดือน เมื่อครบเดือนแกรำคาญเข้าก็บวชเป็นพระช่วยสร้างวัดตลอดไป ผลที่สุด หลวงพ่อปานก็ให้เลิกวิชานั้นแล้วก็เจริญพระกรรมฐานจนได้อภิญญา นี่เป็นอนุภาพของยันต์เกาะเพชร
เจ้าพ่อขุนด่าน
วันนี้วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๑๔ เมื่อวานนี้พูดถึงเรื่องเจ้าพ่อขุนด่าน ท่านใช้บาทากระทบเจ้าลาวอันธพาลคนนั้นเข้า จนเจ้าลาวเจ็บและบวมไปทั้งตัว ในที่สุดพระองค์ปากเสียก็ต้องเป็นเจ้าภาพนำส่งหลวงพ่อปาน คนที่จัดรายการนี้ก็คือเจ้าลิงขาวเขาเป็นผู้สั่ง เพราะเขามีฐานะเป็นผู้รักษาความปลอดภัย ที่เขาสั่งอย่างนั้นก็ประสงค์ให้ทั้งสองฝ่ายเลิกอาฆาตมาดร้ายกันเสีย เมื่อเจ้าลาวอันธพาลไปพบหลวงพ่อปาน ท่านขอให้ขมาพระรัตนตรัย ด้วยทำกับพระที่ช่วยเสริมสร้างพระศาสนา เป็นการทำลายความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนาไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล ความเห็นของท่านเป็นอย่างนี้ เมื่อหายแล้วจะบวช มันก็ยอมรับ เพราะถ้าไม่ยอมรับท่านไม่รักษาให้ เมื่อมันยอมรับแล้วท่านทำน้ำมนต์ให้กิน เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมันก็หายเป็นปกติ ลูกหลานอาจจะสงสัยว่าน้ำมนต์วิเศษอย่างไรจึงแก้โรคได้ชะงัดนักและหายรวดเร็ว เรื่องนี้จงทราบว่าไม่ใช่โรคธรรมดาที่เกิดกับร่างกาย มันเป็นโรคบาทากระทบและเกิดจากบาทาของผี นี่ว่ากันตามภาษาชาวบ้าน ถ้าพูดตามภาษาพระที่พอจะเอาแบบเอาแผนตามพระพุทธเจ้าสักหน่อย ไม่มาก ก็เพียงใช้ฌานโลกีย์ ก็ต้องพูดว่าโรคเกิดจากบาทาเทวดาหรือบาทายักษ์ คำว่ายักษ์จงทราบไว้ด้วยว่าไม่ใช่ยักษ์ในแบบเรื่องรามเกียรติ์ เพราะยักษ์พวกนั้นพระที่ทรงฌานไม่รู้จัก ยักษ์ที่กล่าวนี้เป็นชื่อของเทวดาพวกหนึ่งที่มีอานุภาพม%


 
ราคาปัจจุบัน :     400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM