ชื่อพระเครื่อง | พระสังกัจจาย เนื้อเงิน รุ่นแรกปี20 หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล สันกำแพง เชียงใหม่ |
รายละเอียด | หลวงพ่อฤๅษี ถามว่าชื่อท่านอะไรแน่
หลวงปู่คำแสน : ชื่อเขาใส่ให้ เดิมพ่อแม่ให้ชื่อ ทิม บวชแล้ว เขาใส่ชื่อให้เป็นพระครูสุคันธศีล
(ไม่ยักเล่าว่าทำไมจึงมีคนมีเรียกท่านว่าแสนหรือคำแสน (ขอให้สังเกตคำว่า "เขาใส่ชื่อให้" แสดงว่าท่านไม่ยึด จะให้ชื่ออะไรก็เอา)
หลวงพ่อฤๅษี : ท่านชอบชื่อไหนครับ
หลวงปู่คำแสน : ก็ชอบเหมือน ๆ กัน
หลวงพ่อฤๅษี : โลกสาม หลวงพ่อว่าดีไหม?
หลวงปู่คำแสน : ก็ดี
หลวงพ่อฤๅษี : ท่านชอบโลกไหน
หลวงปู่คำแสน : อะไรน่ะ?
หลวงพ่อฤๅษี : ตายไปแล้วท่านชอบโลกไหน
หลวงปู่คำแสน : เออ เออ สวรรค์ (เว้นระยะไปพักหนึ่ง) นิพพาน (แหม ค่อยยังชั่วหน่อย)
หลวงพ่อฤๅษี : หลวงพ่อยังแข็งแรงดี
หลวงปู่คำแสน : เออ เออ ไม่มีโรคภัยอะไร บางคนเขาถามว่าหลวงปู่มียาอะไร อายุ ๘๘ แล้ว ยังแข็งแรงดี ขอกินบ้างได้ไหม ก็ตอบเขาว่า ไม่ได้กินยาอะไร กินเข้าไป ดีไม่ดีกลับเกิดโทษ
หลวงพ่อฤๅษี : อย่างนี้ก็แปลว่าไม่ได้ทำกรรมหนัก จำพวกปาณาติบาตไว้แต่ก่อน
หลวงปู่คำแสน : เออ เออ ก็ใช่่ เป็นเรื่องเฉพาะตัว ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ มีเป็นธรรมดา จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ช้าหรือเร็วก็ของใครของมัน
หลวงพ่อฤๅษี : ท่านรู้จักครูบาศรีวิชัยดี?
หลวงปู่คำแสน : อ่อนกว่าท่านศรีวิชัย ๑๐ ปี ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ไปมาหาสู่กัน รู้จักกันดี
หลวงพ่อฤๅษี : หลวงปู่มั่นรู้จักไหมครับ เห็นว่าท่านมาอยู่เชียงใหม่นาน
หลวงปู่คำแสน : ได้ยินแต่เสียง ได้ยินแต่ชื่อ
หลวงพ่อฤๅษี : ครูบาศรีวิชัย ถนัดธรรมะทางไหน?
หลวงปู่คำแสน : ถือศีล ถือสัจจะ มังสะวิรัติด้วย มีคนถามท่านว่าทำไมถือมังสะวิรัติ ท่านตอบว่า เกิดบ้านป่า หาเนื้อยาก ได้กินแต่ผัก ก็เลยชินกับการกินผัก เรื่องสัจจะ ถ้าท่านมีนัดกับใครแล้ว ไม่ว่าจะมีคนมาหามากมายแค่ไหน ท่านก็ต้องปลีกตัวไปตามนัดจนได้
หลวงพ่อฤๅษี : บารมีท้ายของท่าน คือ สัจจบารมี?
หลวงปู่คำแสน : เออ...เออ มีคนมาถวายธรรมะท่าน ท่านบอกว่าท่านเป็นพระบ้านนอก เรียนอิติปิโสยังไม่จบเลย บารมีท่านสูงมาก ไม่ว่าจะสร้างอะไรที่ไหน เสร็จที่นั่น ไม่คั่งค้างเลย คนก็ศรัทธา เพราะฉะนั้นเขาก็มักจะเชิญไปนั่งหนัก ไปเป็นประี่ธาน สร้างอะไรไม่นานก็ต้องเสร็จ อย่างศาลานี่ก็สร้าง ๘ เดือนเท่านั้น หมดไป ๘ หมื่น ๘ พัน
หลวงพ่อฤๅษี : ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ น่ากลัวจะต้องแปดล้าน ท่านเข้าวัดเมื่อไหร่ครับ?
หลวงปู่คำแสน : อายุ ๑๐ ปี ก็เข้าวัด ๑๒ ปี บวชเณร ๒๐ ปี บวชพระ บวชได้ ๑ พรรษา เขานิมนต์ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดอื่น ๆ เกือบ ๑๐ ปี แล้วกลับไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเดิม ที่มาอยู่วัดนี้ เพราะคณะสงฆ์เห็นว่าเป็นวัดโบราณ จะเอาพระหนุ่มน้อยก็ไม่ไหว พระแก่มาก ลูกน้องก็มา มาอยู่วัดนี้ได้ ๒๖-๒๗ ปีแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๘๘-๘๙
หลวงพ่อฤๅษี : มีพระกี่รูปครับ
หลวงปู่คำแสน : มีพระ ๑o เณร ๑๐ ในขณะนี้
หลวงพ่อฤๅษี : อิติปิโสก็ยังไม่จบ?
หลวงปู่คำแสน : เออ...เออ ยัง
หลวงพ่อฤๅษี : ห้องท้าย น่ากลัวจะจบแล้ว สุปฏิปันโนน่ากลัวจบแล้ว?
หลวงปู่คำแสน : จบ...จบ
หลวงพ่อฤๅษี : ผมก็เหมือนกัน ห้องต้นทนไม่ไหว เลยต้องมาท่องบทท้าย พุทโธ อนันตคุโณ ภิกขุ บทหลังค่อยท่องง่ายหน่อยนะครับ เรามันแรงน้อย
หลวงปู่คำแสน : เออ...เออ
เมื่อลาท่านออกมาแล้ว หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกว่า ตอนที่เดินเข้าไปในวัด ยกมือไหว้เจดีย์ที่ครูบาศรีวิชัยสร้าง ก็มองเห็นท่านครูบา เมื่อมองดูจิตหลวงปู่คำแสนเห็นสว่างหมดดวงแล้ว แสดงว่า เป็นจิตบริสุทธิ์ เป็นสุปฏิปันโนชั้นยอดแล้ว แต่มีจุดสีแดงสว่างจ้าอยู่ด้วย จึงไม่ใช่สีแดงแบบจิตมีปีติ (กิเลส) ธรรมดา จึงลองเรียนถามครูบาศรีวิชัยดู ท่านตอบว่า เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มากด้วยกตัญญู นับว่าเป็นความรู้อีกอย่างหนึ่ง
ป่องว่า ควรจะมีข้อสังเกต ๒ ข้อ จากการสนทนา นี้ คือ
๑. คำถามที่ว่า บารมีของท่านครูบาศรีวิชัย คือ สัจจบารมีหรือ? นั้น เป็นการบอกอยู่ในตัวว่าท่านองค์นี้บำเพ็ญบารมีจบแล้ว จึงแปลว่าเป็นพระโพธิสัตว์ที่เต็มขั้นแล้ว เข้าแถวรอการตรัสรู้แล้ว ซึ่งไม่ทราบจะเป็นองค์ที่เท่าไร ถัดไปจากพระศรีอาริยเมตไตรย
๒. คำตอบของท่านครูบาคำแสน ที่ว่า "อิติปิโสยังไม่จบ" นั้น ก็คือ ยังไม่จบหลักสูตรเป็นพระพุทธเจ้า เพราะบทอิติปิโส คือบทที่แสดงพระคุณของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ใครอ่านเข้าใจว่าท่านท่องไม่ได้ก็...เฮอ...ส่วนที่ว่าย้ายไปท่องบทสุปฏิปันโน ก็คือว่าต้องย้ายไปทำทางสาวกภูมินั่นเอง ซึ่งหลวงปู่คำแสนตอบมาก็ควรจะแจ่มแจ้ง คือ ท่านจบแล้ว จบสาวกภูมิ
เป็นอันว่าหมดภารกิจสมความประสงค์ของคณะในการไปทัศนาจรครั้งนี้ |
ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 1,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | - 02 พ.ย. 2554 - 17:14:32 น. |
วันปิดประมูล | - 12 พ.ย. 2554 - 17:14:32 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | derss (3.5K)
|