(0)
พระพุทธชินราชรุ่น 2 เนื้อเงินบริสุทธิ์ ..... พระครูวิมลญาณอุดม (ท่านอาจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระพุทธชินราชรุ่น 2 เนื้อเงินบริสุทธิ์ ..... พระครูวิมลญาณอุดม (ท่านอาจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์
รายละเอียดเนื้อเงิน สวย ๆ กล่องเดิม

ขอขอบคุณงานเขียนของอาจารย์รณธรรม ธาราพันธ์


เหรียญพระพุทธชินราช ในท่านพระครูวิมลญาณอุดม
เพื่อศาลาวิปัสสนา วัดหนองขาม
พระพุทธชินราช แห่ง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย ด้วยพระพุทธลักษณะที่สมส่วนงดงามอย่างหาพระพุทธรูปองค์ใดเสมอเหมือนได้ยากแล้ว ยังมีเรื่องของพุทธาภินิหาริย์ที่คนทั้งหลายได้พบเจอกันจนต้องเล่าอย่างปากต่อปากถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ท่าน แพร่หลายไปทั่วกระทั่งใครก็อยากไปกราบ

คุณลุงทองทิว สุวรรณฑัต ยอดนักเขียนท่านหนึ่งผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงศาสนามาเนิ่นนาน เคยเล่าให้ผมฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระพุทธชินราชว่า ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางขึ้นไปธุระที่จังหวัดพิษณุโลก จึงได้ถือโอกาสเข้าไปนมัสการพระพุทธชินราชในพระวิหาร จากนั้นก็ยังบูชาองค์จำลองหน้าตักเพียงแค่ 2 นิ้ว พร้อมทั้งมีครอบแก้วด้วย เข้าใจว่าคงจะเป็นแบบตั้งหน้ารถ

เมื่อออกจากวัดแล้วก็มาพักยังโรงแรมที่จับจองไว้ก่อน ซึ่งโรงแรมดังกล่าวคงจะดู ‘ไม่ชอบมาพากล’ ในสายตาคนเจนจัดเรื่องวิญญาณอย่างท่านกระมัง ท่านจึงอาราธนาพระพุทธชินราชองค์น้อยที่เช่ามาขึ้นประดิษฐานไว้ยังหัวเตียงนอน จากนั้นก็ทำธุระส่วนตัวต่าง ๆ ไป

ครั้นได้เวลานอนก็ไหว้พระสวดมนต์อันเป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วต่อด้วยการขอความคุ้มครองจากองค์หลวงพ่อ ขณะที่หลับตาพึมพำอยู่ก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ จึงลืมตาเงยหน้าขึ้นมอง ท่านย้ำว่าไม่ได้ฝัน ไม่ได้ฝาดแต่อย่างใด รูปหล่อหลวงพ่อพระพุทธชินราชในครอบแก้วเกิดเรืองแสงขึ้นมาได้ แล้วยังเปล่งรัศมีแพรวพรายสว่างจ้าออกไปเป็นปริมณฑลเห็นเป็นวงกลมคล้ายพระอาทิตย์ทรงกลดล้อมรอบครอบแก้วอย่างสวยงาม

คุณลุงทองทิวตกตะลึงเพ่งมองภาพพิศวงนั้นอยู่เป็นอึดใจ รัศมีอัศจรรย์นั้นก็ค่อย ๆ ลดตัวลง... ลดตัวลง... เรื่อย ๆ จนเข้าไปรวมอยู่ที่องค์พระแล้วก็วูบหายไป

ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ

ครั้นหายจากอาการตกลึงพรึงเพริดคุณลุงก็ก้มลงกราบด้วยความปีติยินดีเป็นยิ่งนัก เข้าใจทันทีว่าหลวงพ่อคงจะรับทราบถึงการแสดงความเคารพนบนอบและการขอพระบารมีมาคุ้มครองรักษา ท่านจึงแสดงอภินิหารย์ให้เห็นเพื่อเป็นการ ‘ตอบรับ’ ว่าท่าน ‘รู้’ แล้ว

หรืออย่างเมื่อหลายปีก่อนที่มีหัวขโมยใจโฉด ที่ใช้กลเม็ดเข้าไปกราบองค์หลวงพ่อในวิหารปะปนกับฝูงชนที่เข้าไปกราบนมัสการ จากนั้นก็แยกตัวออก ปีนขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนคานสูงซึ่งลับตาคนบนวิหาร ครั้นตกเย็นทางวัดทำการปิดวิหารเรียบร้อย ‘มัน’ ก็ปีนลงมาโดยการไต่เชือกที่เตรียมเอาไว้แล้ว ปีนลงมายืนอย่างสง่างามอยู่บน ‘พระพาหา’ หรือ ‘บ่า’ ของหลวงพ่อพระพุทธชินราช

โถ พระคู่บ้านคู่เมืองที่ผู้คนค้อมกายก้มศีรษะลงกราบกรานโดยเคารพสูงสุด ไม่เว้นแม้องค์พระมหากษัตริย์ทุกยุคทุกสมัยที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ ก็ยังค้อมพระวรกายแลพระเศียรลงเพื่อแสดงความสักการะต่อองค์พระชินเจ้า

แต่อ้ายคนใจบาปมันกลับอหังการขึ้นไปยืนอยู่บนบ่าท่านอย่างสะดวกใจ จากนั้นมันก็ไต่ตามองค์พระลงมาจนถึงพื้น แล้วก็ตรงเข้างัดตู้บริจาคที่มีอยู่ดาษดื่นในวิหาร ได้เงินไปไม่น้อย เมื่อเสร็จภาระบาปมันก็จะกลับบ้าน แต่เชื่อไหมครับมันหาทางออกจากวิหารไม่เจอ วิหารน้อยที่มันคุ้นตา ประตูอยู่ตรงไหน หน้าต่างอยู่ตรงไหน มันรู้หมด เพราะดูทางหนีทีไล่มานานแล้ว แต่บัดนี้ ทุกแห่งที่หมายตาไว้เปลี่ยนไปสิ้น

วิหารที่คุ้นเคยเหมือนไม่ใช่อีกต่อไป ประตูก็ไม่มี หน้าต่างก็ปรากฏ คนบาปเดินวนเวียนหาทางหนีอยู่เป็นนานก็ไม่พบ เวลาผ่านไปเท่าไรก็ไม่รู้ จนมันอ่อนแรง นั่งรอจนเช้ากระทั่งเจ้าหน้าที่มาเปิดวิหารจึงได้พบโจรชั่วนั่งตัวซีดอยู่คนเดียวพร้อมหลักฐานครบ จับได้โดยไม่ต้องออกแรงเพราะโจรหมดแรงไปก่อน

เรื่องที่เล่ามา โจรเป็นคนสารภาพเอง

ดังนี้จะเป็นด้วยปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อพระพุทธชินราชหรือเป็นเพราะความโง่เซ่อของโจรเองก็สุดแต่ท่านผู้อ่านจะด้นเดาเอาเองตามอัธยาศัย แต่ผมเชื่อของผมเงียบ ๆ ว่าเป็นด้วยเหตุใด และอย่าถามเลยว่าผมเชื่อฟากไหน ก็บอกแล้วครับว่า เงียบ ๆ

ท่านพระครูวิมลญาณอุดม หรือ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง คือ วัดมณีชลขัณฑ์ ต.พรหมาสตร์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ก็เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่มีความเคารพในองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชอยู่ไม่น้อย และท่านเองก็เคยได้รับนิมนต์ให้ไปลง ‘ตะกรุดมหาจักรพัตราธิราช’ ตำรับวัดพระญาติ ฯ ณ พระวิหารหลวง เบื้องพระพักตร์องค์พระพุทธชินราชตามสูตรรัตนมาลา มีพระสงฆ์สวด 108 รูป เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2546

ในปี พ.ศ. 2530 ท่านพระอาจารย์ติ๋วได้จัดสร้างเหรียญพระพุทธชินราชขึ้นเพื่อเป็นพุทธานุสสติ โดยเป็นเหรียญรูปไข่ออกป้าน ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธชินราชประทับในซุ้มเรือนแก้ว ซ้ายมือมีอักขระประทับว่า ‘อะระหัง’ ขวามือเป็น ‘สุคโต’

ด้านหลัง บรรจุไว้ด้วยพระยันต์สำคัญคือ ‘ยันต์เกราะเพชร’ และในทุก ๆ เหรียญ ท่านอาจารย์ก็มักจะจารอักขระกำกับไว้เป็นสำคัญ ศิลปะในการแกะเหรียญชินราชรุ่นนี้เป็นไปอย่างโบราณ สำหรับคนที่ชอบพระสวยอย่างลิเกชนิดจิวเวลรี่สร้าง เห็นแล้วอาจเฉย ๆ แต่คนรักขลังจริงเห็นแล้วย่อมเฉยไม่ได้ เพราะดูแล้วศักดิ์สิทธิ์ ดูแล้วน่าศรัทธากว่ากันเยอะ โดยเฉพาะหูเหรียญและห่วงเหรียญ ท่านอาจารย์สั่งให้ช่างทำการ ‘เชื่อม’ เป็นเหรียญหูเชื่อมห่วงเชื่อมทุกอัน ทำให้ยิ่งทรงคุณค่ามากขึ้นไปอีก

เหรียญนี้นอกจากท่านอาจารย์จะอธิษฐานจิต-ปลุกเสกด้วยตัวเองแล้ว ท่านยังได้นำไปถวายครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งทำการเสกสำทับอีก เท่าที่ผมนึกได้ตอนนี้ก็มี...

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา อธิษฐานจิต 1 เดือน หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง มนต์ให้เดี๋ยวนั้น หากจำไม่ผิดก็ประมาณ 15 นาที หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดคลองมอญ ชัยนาท เสก 1 ไตรมาส หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด จันทบุรี ก็เสกเดี๋ยวนั้น หลวงปู่เรือง อาภัสสโร เขาสามยอด ลพบุรี เสก 1 ไตรมาส ฯลฯ

นี้คือครูบาอาจารย์ที่ผมนึกออกในขณะนี้ ทำให้เหรียญชินราชรุ่นแรกของท่านอาจารย์เป็นที่แสวงหาอย่างมากในหมู่ศิษย์และผู้เคารพนับถือ

ประสบการณ์ไว้เล่าวันหลัง






ครั้นมาถึงปี พ.ศ. 2550 พระมหาวีรธรรม ธัมมวีโร แห่ง วัดยานนาวา สาธร กรุงเทพ ได้ทำการอุปการะวัดในจังหวัดบ้านเกิดสองแห่ง แต่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องราวของอุโบสถและพระประธานก็ได้รับการอนุเคราะห์จากผู้เคารพนับถือทำให้งานมีความก้าวหน้าไปด้วยดี ยังคงแต่เรื่องของศาลาปฏิบัติธรรมของวัดหนองขาม

พระมหาวีรธรรมจึงได้กราบขอโอกาสท่านพระอาจารย์ติ๋ว จัดสร้างเหรียญพระพุทธชินราชขึ้นเพื่อตอบแทนแก่ผู้ร่วมบริจาคสร้างศาลาปฏิบัติธรรมให้แล้วเสร็จ ท่านอาจารย์พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องของส่วนรวม เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ส่วนกลาง จึงเมตตาอนุญาตให้สร้างได้ แต่มีจำนวนจำกัด ซึ่งผมอยากเรียกว่ามีจำนวนที่น้อยมาก ๆ ต่อไปในภายภาคหน้าคงหากันยากไม่ต่างจากเหรียญชินราชรุ่นแรกเลย

อีกวัตถุประสงค์หนึ่งที่พระมหาวีรธรรมท่านคิดอยากทำเหรียญนี้ก็เพราะในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นี้ พระอาจารย์ติ๋วจะมีอายุครบ 4 รอบ เท่ากับ 48 ปี จึงถือเป็นการสร้างรูปพระพุทธฉลองอายุของท่านพระอาจารย์ไปด้วย




เหรียญพระพุทธชินราชชุดนี้ทำเป็นเนื้อโลหะทั้งหมด โดยได้นำชนวนมาจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ แผ่นทองลงจารอักขระเลขยันต์ที่พระอาจารย์เจ้าแต่ละองค์จะชำนาญมีจำนวนมากมาย ที่สำคัญยิ่งคือชนวนต่าง ๆ ซึ่งเหลือจากการเททองสร้าง ‘พระกริ่งไตรรัตนาธิคุณ’ ของท่านพระอาจารย์ติ๋ว เมื่อรวบรวมครบถ้วนแล้วจึงนำมาหล่อหลอมจัดสร้างเหรียญพระพุทธชินราชซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2 ของท่านอาจารย์

เหรียญพระพุทธชินราช มีลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ไม่มีห่วง ด้านหน้า เป็นรูปเหมือนจำลองของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งแกะโดยช่างผู้ชำนาญการด้วยความประณีต ทำให้มีพุทธลักษณะที่สมส่วนงดงามยิ่งนัก ทางขวามือขององค์พระบรรจุด้วยคาถา ‘นวหรคุณ’ อันเป็นหัวใจของพระพุทธคุณซึ่งดีเลิศประเสริฐแท้จำนวน 9 คำ คือ “อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ”

ทั้ง 9 คำนี้มีอานุภาพและอุปเท่ห์การใช้มากมายนัก ผู้บรรลุแล้วจะทำให้เป็นคงกระพันชาตรีก็ได้ แคล้วคลาดก็ได้ เมตตามหาเสน่ห์ก็ได้ สุดแต่ปรารถนาเอา ทางซ้ายมือบรรจุด้วยคาถา ‘เทพชุมนุม’ อ่านได้ความว่า “ อิสะวิระมะสาพุทเธวา” คาถานี้เมื่อผู้ใดสวดหรือประดิษฐานอยู่ที่ใด ย่อมทำให้มีเทพเข้าไปรักษาคุ้มครอง บันดาลให้เป็นเมตตามหานิยมอย่างยิ่งยวด เกิดโภคทรัพย์และโชคลาภนานาประการ ป้องกันซึ่งภยันตรายทั้งหลายได้สิ้น ประดุจดังเทพเจ้าผู้ทรงมเหสักข์มีฤทธิ์เป็นอันมากนับพันนับหมื่นมาร่วมชุมนุมกันอยู่ในที่แห่งเดียว จึงได้สมญาว่า ‘พระคาถาเทพชุมนุม’

ส่วนด้านหลังประทับตรงกลางด้วยยันต์ ‘พระเจ้าห้าพระองค์’ คือ “นะโม พุท ธา ยะ” ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ทั้งห้าพระองค์ ได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระกัสสปะ พระสมณโคดม และ พระศรีอริยเมตไตร

ข้างซ้ายและขวาของพระยันต์หนุนด้วยตัว ‘นะมหาอำนาจ’ ซึ่งเป็นเลิศทางตบะเดชะแก่ผู้บูชาดุจดังพญาไกรสรราชสีห์ที่ไม่มีสัตว์ใดในหิมวันต์ต้านทาน นะทั้งสองตัวถือได้ว่าเด่นไม่น้อยไปกว่านะตัวใด ๆ ใน 108 ตัว

ด้านบนเป็นยอดแห่งพระคาถาและเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว เขียนเป็นอักขระอ่านได้ว่า ‘อะระหัง’ หมายถึง “ผู้ไกลจากกิเลส” ใต้ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์เป็นพระพุทธคุณวิเศษเก้าคำคือ “อะระหัง สุคะโต ภะคะวา” ซึ่งมีความหมายดีเลิศ และมีความศักดิ์สิทธิ์แก่ผู้บริกรรมอย่างสม่ำเสมอ หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ (หลวงพ่อสาลีโข) จึงให้คณะศิษย์ถือเป็นคำบริกรรมประจำสำนักตามคำสั่งของหลวงปู่เผือกผู้ปรมาจารย์

ท่านพระอาจารย์ติ๋วกำหนดให้พระมหาวีรธรรมนำเหรียญไปถวายครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณและเป็นที่เคารพนับถือยิ่ง อธิษฐานจิต-ปลุกเสกเดี่ยว ดังรายนามต่อไปนี้

1. หลวงพ่อสาลีโข (หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ)
พุทธอุทยานธรรมโกศล ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

2. พระครูสมุห์อวยพร ฐิติญาโน
วัดดอนยายหอม ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม

3. พระครูสิริธรรมรัต (หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม)
วัดสามัคคีธรรม เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

4. พระครูวิทิตพัฒนาการ (หลวงพ่อจ้อย พุทธฺสโร)
วัดหนองน้ำเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

5. พระครูบวรกิจโกศล (หลวงพ่อตัด ปวโร)
วัดชายนา ต.บ้านในดง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

หลังจากนั้นพระอาจารย์ติ๋วจะทำการอธิษฐาน - จิตปลุกเสกเดี่ยวอย่างเต็มที่ ณ วัดมณีชลขัณฑ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม

จำนวนการสร้าง

1. พระพุทธชินราช เนื้อทองคำ 19 เหรียญ
2. พระพุทธชินราช เนื้อเงินหน้าทอง 108 เหรียญ
3. พระพุทธชินราช เนื้อนะวะหน้าทอง 108 เหรียญ
4. พระพุทธชินราช เนื้อนะวะหน้าเงิน 108 เหรียญ
5. พระพุทธชินราช เนื้อเงิน 559 เหรียญ
6. พระพุทธชินราช เนื้อ นะวะ 1,000 เหรียญ
7. พระพุทธชินราช เนื้อทองแดง 2559 เหรียญ

ทุกเหรียญจะได้รับการตอกโค้ดเป็นตัว “ต ๔๘” และมีโค้ดหมายเลขเรียงตามจำนวนที่สร้าง
ราคาเปิดประมูล1,975 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ25 บาท
วันเปิดประมูล - 21 พ.ย. 2553 - 10:44:34 น.
วันปิดประมูล - 01 ธ.ค. 2553 - 10:44:34 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลtantantann (11.6K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,975 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     25 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM