(0)
เหรียญท้าวมหาพรหมธาดา ปรมาตม จักรเพชร 3 เนื้อทองเหลือง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญท้าวมหาพรหมธาดา ปรมาตม จักรเพชร 3 เนื้อทองเหลือง
รายละเอียดเหรียญจักร เพชร รุ่น 3 ท้าวมหาพรหมธาดา สถานค้นคว้าสัจธรรม เหรียญพระพรหม องค์พรหม ท้าวมหาพรหมธาดา องค์เทพ "พระพรหม" ได้รับการนับถือบูชาในฐานะที่เป็นผู้ สร้างของทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นบน โลก พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ที่ สำคัญ และเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของมนุษย์ พระนามที่เรียกขานกันมีมากมายนอก เหนือจาก "พระพรหม หรือพระพรหมธาดา" ย้อนไปในอดีต เมื่อปี 2508 เป็นปีที่ ก่อกำเนิดวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่า นั่นคือ "เหรียญจักรเพชร" ณ วัด ดอน ยานนาวา กรุงเทพมหา นคร อันเป็นสถานที่ก่อกำเนิดของอิทธิมงคลรุ่น นี้ ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญพระพรหมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด การสร้าง อิทธิ มงคลครั้งแรกก่อกำเนิดจากความตั้งใจของ "อ.วิรัช ลุปต์ซ่า" เป็นผู้บวงสรวง อัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหมธาดาลงมาประสิทธิ์ประสาทในอิทธิมงคล วัตถุ เพื่อให้ ศิษยานุศิษย์ผู้ที่มีความเคารพต่อองค์พรหมท้าวมหาพรหมธาดา ได้สักการะและ เตือนสติ จนมาเมื่อปี 2534 คณะศิษย์โดย อ.นาร โษตตมะ (บิดา อ.วิรัช) ได้ ร่วมกันจัดสร้างเหรียญอัศวถะ หรือเหรียญจักรเพชร 2 ได้ประกอบพิธี ณ สถานค้น คว้าสัจธรรม ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และริม ทะเล ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญดวงวิญญาณ อ.วิรัช ลุปต์ ซ่า และองค์ท้าวมหาพรหมธาดาลงประสิทธิ์ประสาทอิทธิมงคลดังเช่นรุ่นแรก รวมไป ถึงได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญามาปลุกเสก เช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุล ทอง เป็นต้น สำนักค้นคว้าสัจธรรม โดยคณะศิษย์ได้มีความเห็นว่าในปัจจุบัน สถานค้นคว้าสัจธรรมต้องได้รับการปรับ ปรุงสถานที่ จึงต้องใช้จตุปัจจัยจำนวน หนึ่ง ในครั้งนี้ทางสถานค้นคว้าสัจธรรม และคณะศิษย์จึงมีความเห็นตรงกัน ว่า จากปี 2508 ซึ่งเป็นปีที่ท่านอาจารย์วิรัชสร้างเหรียญจักรเพชรล่วงแล้ว มาถึงปี 2552 รวมระยะเวลากว่า 41 ปี ปัจจุบันบ้านเมืองเกิดปัญหาต่างๆ มาก มาย จึงควรที่จัดสร้างอิทธิมงคล เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในยาม นี้ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งขอบารมีองค์พรหมท่านท้าวมหาพรหมธาดา ช่วยปกปักรักษาแก่ผู้ที่กระทำ ความดียึดมั่นในศีลธรรมให้มีแต่ความผาสุก การ จัดสร้าง เหรียญจักรเพชรรุ่นสาม ครั้งนี้จะเป็นรูปแบบเหรียญรูปโล่ ซึ่งจะมี ความหมายถึงการปกปักรักษา มีโล่ไว้คอยป้องกัน ตรงกลางเหรียญจะเป็นรูปองค์ ท้าวมหาพรหมธาดาประทับนั่งบนสัตว์พาหนะคือหงส์ ที่แผ่ปีกออกมาปกป้องทั้ง ซ้ายและขวาขององค์ท้าวมหาพรหมธาดา ด้านหลังของทุก เหรียญจักรเพชรรุ่นสามจะ มีรอยจารอักขระยันต์จากครูอาจารย์ของ สำนักสถานค้นคว้าสัจธรรมทุก เหรียญ เพื่อเปิดประตูแห่งมหาอำนาจแห่งโภคทรัพย์ โภคสมบัติ ความสำเร็จความ เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน และขจัดอุปสรรคทั้งปวง การจัดสร้าง เหรียญ จักรเพชร รุ่น 3 ท้าวมหาพรหมธาดา สถานค้นคว้าสัจธรรม มีเนื้อทองคำ เนื้อ เงิน เนื้อนว โลหะเต็มสูตร เนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง และเนื้อทองฝาบาตร นำ เข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2552 ณ วัดสะแก จ.พระนครศรี อยุธยา โดยพระคณาจารย์ชื่อดังร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ พระอาจารย์ไพ สิทธิ์ สำนักสงฆ์วิเวกสามแก้ว, พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จ.พังงา, พระ อาจารย์ประสูติ วัดในเตา จ.ตรัง, พระอาจารย์สมนึก วัดหรงบน พระอาจารย์ หรั่ง วัดห้วยเต็ง จ.นครศรีธรรมราช, พ่อหลวงล้าน วัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี รวมไปถึงคณาจารย์สายเขาอ้อ


ประวัติ

เหรียญท่านท้าว มหาพรหมธาดา (จักรเพชร) วัดดอนยานาวา ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ "สามเณรวิรัช ลุ ปซาร์ หรือ ท่าน นารทะ ราชโยคะ"ได้มีการสร้าง"เหรียญท้าวมหาพรหม ธาดา" หรือ "เหรียญจักรเพชร" ณ อุโบสถวัดดอน เมื่อวันที่ ๑๙ มิ .ย. ๒๕๐๘ เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหา มี ๒ เนื้อคือ เนื้อสตางค์ มี น้อย และเนื้ออัลปาก้า ซึ่งหายากมาก....
สำหรับประวัติของท่านโดย สังเขป ตามนี้เลยครับสามเณรวิรัช ลุปซ่าร์ บ้านเดิมอยู่ย่านวัด ดอน ยานนาวา มีปู่เป็นชาวเยอรมันชื่อเฟอร์โด ลุปซาร์เคยเป็นครูสอนเกษตรใน ไทยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๑ คุณย่าชื่อแช่ม สกุลเดิมคือศรีโยหะ บิดาชื่อ วินิจ ลุปซาร์ สามเณรวิรัช ลุปซาร์ เกิดเมื่อปี ๒๔๙๐ เป็นลูกคนที่สี่ บวช เป็นเณรที่วัดดอน ยานนาวาตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับอาจารย์ ที ชาวเขมรที่ศรีสะเกษจนสำเร็จ อาจารย์ทีสิ้นชีวิตเมื่ออายุ ๑๒๔ ปี ขณะนั้น สามเณรวิรัชอายุได้ ๑๒ ปี
เมื่อได้วิชาแล้วสามเณรวิรัช กลับมายังวัดดอน ยานนาวาที่บวชอยู่และเผยแพร่วิชาไสยศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา มีทั้งการลงเสือ ลง ช้าง เสกเป่า เมื่อลงเสร็จแล้วก็ทดลองกันเดี๋ยวนั้นในโบสถ์วัดดอน จนมีชื่อ เสียงกระฉ่อน แต่สามเณรวิรัชมีอายุที่ได้รับจากเบื้องบนเพียง ๑๙ ปี
มรณะปี พ.ศ. ๒๕๐๙
ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ก่อน มรณะได้สร้างเหรียญจักรเพชรขึ้นและได้บรรจุวิชาสำคัญครบเครื่องตั้งแต่เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด จนถึงคงกระพันชาตรี เป็นเหรียญที่โด่งดังมาก "ก่อนมรณะ ได้ ๒๕ วันก็สึกเป็นฆราวาสใช้ชีวิตสนุกสนานเป็นการอำลาโลก"
และก่อนมรณะ ภาพได้เชิญ"สมเด็จปู่พระพรหม"มาครอบวิชาให้กับ"คุณวินิจ ลุปซาร์"ผู้เป็น บิดา ส่วนอดีตเณรวิรัชถึงแก่มรณะด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยที่เพื่อนๆที่ไป ด้วยปลอดภัยทุกคน วันที่ตั้งศพอยู่ที่วัดมกุฎกษัตริยารามวิญญาณได้มาเข้า ทรงน้องสาวคือ.. "คุณนงลักษณ์ ลุปซาร์"
ประกาศว่าจะอยู่ใกล้ชิดกับศิษย์ ทั้งหลายตลอดไปใครมีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้เชิญมาได้โดยให้คุณนงลักษณ์เป็น ร่างทรง สำนักทรงชื่อว่า"สถานค้นคว้าสัจธรรมปุรุโษตตมะ" หลังบริษัทไมโคร ไฟเบอร์อุตสาหกรรมจำกัด กม.๗ ถนนลาดกระบังบางพลี ต.ราชาเทวะ อ.บาง พลี จ.สมุทรปราการ

สำหรับเรื่องราวหรือประสบการณ์ของอาจารย์เณร วิรัช เคยมีบันทึกของนักเรียนเก่าของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ชื่อคุณ ธวัช ได้เคยเขียนบันทึกไว้ให้นักเรียนรุ่นน้องได้อ่านเรื่องราวในยุคสมัย นั้น.....
การปลุกเสกเหรียญจักรเพชร มีพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เป็น ความยิ่งใหญ่แบบเงียบๆเฉพาะในหมู่ลูกศิษย์เท่านั้น พิธีนั้นถูกหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐโจมตีว่าเอาเดรัจฉานวิชาไปทำกันในโบสถ์วัด..

คนที่ได้พบกับ ประสบการณ์ชีวิตที่ไม่แน่ใจว่าคนฟังๆแล้วจะเชื่อหรือไม่ คือการทำพิธีใน โบสถ์แต่ละคืนรวม 7 คืนหรือ 9 คืน จำไม่ได้แน่นอน แต่ละคืนลูกศิษย์ทุกคน ต้องมายืนรับอาจารย์ของสามเณรวิรัชซึ่งได้เคยไปเรียนวิชากันในป่าตั้งแต่ ไทย ลาว พม่า อินเดีย ช่วงที่สามเณรวิรัชธุดงค์ไปเพื่อเรียนรู้วิชาอาคม มี ตั้งแต่อาจารย์ที่เป็นแขก จีน ฯลฯ

ส่วนใหญ่ทุกคนจะเป็นลักษณะนักบวช ที่อยู่ในป่า เวลามาในงานปลุกเศก ก็ไม่มีใครไปรับ อยู่ๆก็เห็นเดินเข้ามา พอ ผ่านตัวจะรู้สึกเหมือนก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ผ่านตัวเราไป เย็นวูบเลย พอเสร็จ พิธีเดินออกมาจากโบสถ์ผ่านพวกเราออกไปก็เย็นเหมือนเดิม แล้วก็เดินผ่านไปพอ พ้นสายตาเรา ก็จะหายไป ดุจผู้วิเศษที่ล่องหนมา แล้วก็ไป ใครที่ไปจองเหรียญ นี้ต้องมีเงินถึง 500 บาทในสมัยนั้น

ฝีมือของกองกษาปณ์กรมธนารักษ์อีกเช่นกัน เหมือนกับ "เหรียญจักรเพชร" ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรก
ส่วน การประกอบพิธีมังคลาภิเษก ก็เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ คำว่ายิ่งใหญ่ในที่ นี้ไม่ได้หมายถึงโฆษณามาก ๆ เน้นการแต่งแต้มสีสันในพิธีให้ดูอลังการแบบ วัตถุนะครับ แต่หมายถึงการจัดเครื่องบวงสรวงบูชา การนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญ พระพุทธมนต์ การนิมนต์พระเถรานุเถระมาร่วมกันนั่งปรก ทำได้อย่างถูกต้องครบ ถ้วน มีการเสกไปตามธาตุต่าง ๆ ทั้งสี่ เช่น ธาตุน้ำก็ขนลงไปเสกในแพ ธาตุลม ก็ขนขึ้นไปเสกบนยอดเขา ฯลฯ

ปรากฏว่าหลังจากปลุกเสกเสร็จ ท่านตั้งใจ จะแจกเหรียญและก็ยังมีผ้ายันต์ด้วย แต่ยังไม่ทันแจก เกิดไฟไหม้ห้อง สามเณร ของอย่างอื่นไหม้หมด ยกเว้นบริเวณที่เป็นโต๊ะหมู่ที่มีพระและของที่ ปลุกเสก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้ายันต์ซึ่งวางอยู่บนถาดใหญ่ ผ้ารองผ้ายันต์ที่ ห้อยลงไปจากถาดเป็นรอยไหม้หมด แต่ผ้ายันต์ไม่เป็นอะไรเลย

ก่อนจะได้ รับจากสามเณรวิรัช ก็ต้องมีพิธีลองของกัน โดยมีของมีคม อยู่ 8 หรือ 9 ชนิด มีตั้งแต่ดาบมีดสั้น เหล็กแหลม เก้าอี้ตะปูคม สารพัดศาต ราวุธ ซึ่งคนที่เช่าจองทุกคนก่อนรับไปต้องเลือกเอาอย่างหนึ่งเพื่อลองความ ขลัง (เกือบทุกคน) ผ่านการทดลองไปได้ด้วยดี
แต่มีอยู่หนึ่งคนคือ"เด็กชาย ฉัตรชัย กันตถาวร" เลือกเหล็กแหลมยาวประมาณหนึ่งฟุต แล้วให้คนที่อยู่ในพิธี ออกมาจับสองมือแทงเข้าที่สีข้าง ก่อนหน้าทุกคนก็ไม่มีปัญหา แต่พอถึงเจ้า ฉัตร ปรากฎว่าเหล็กนั้นทิ่มเข้าไป เลือดทะลักเลย เดือดร้อนสามเณรวิรัชต้อง มาทำคาถาเอาเทียนอุดให้ แป๊บเดียวหายเลย..
ราคาเปิดประมูล230 บาท
ราคาปัจจุบัน267 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ37 บาท
วันเปิดประมูล - 29 ต.ค. 2553 - 15:37:33 น.
วันปิดประมูล - 31 ต.ค. 2553 - 19:35:24 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลธนกิต (17.7K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     267 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     37 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    crown (164)(4)

 

Copyright ©G-PRA.COM