(0)
หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทร กะไหล่ทอง




รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทร กะไหล่ทอง
รายละเอียดสูง 1 นิ้วครึ่ง
ราคาเปิดประมูล180 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 24 ธ.ค. 2552 - 10:37:23 น.
วันปิดประมูล - 29 ธ.ค. 2552 - 10:37:23 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsitmatrix (1.1K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 28 ธ.ค. 2552 - 09:33:04 น.
.


ประวัติ หลวงพ่อบ้านแหลม

ความเลื่อมใสเชื่อมั่น ตลอดทั้งชีวิตจิตใจของชาวพุทธเมืองไทย ฝากฝังไว้แก่พระพุทธศาสนาอย่างหนักแน่นไม่แปรผัน ยึดมั่นนับถือพระรัตนตรัย ด้วยเห็นว่าสามารถช่วยเหลือทำให้จิตใจผ่องใส และทั้งอาจดลบันดาลขจัดปัดเป่าป้องกันภยันตราย และอำนวยความสุขลาภผลให้ได้ พระพุทธรูปในประเทศไทยมีนับจำนวนเป็นแสน ๆ องค์ แต่พระพุทธรูปทั้งหลายก็หามือ อภินิหารเหมือนกันไม่ ในจำนวนพระพุทธรูปที่ประชาชนยอมรับนับถือด้วยความเคารพบูชา จนถึงกับนานนามยกย่องว่า เป็นหลวงพ่อ หรือเปรียบเสมือนเป็นพ่อของคนทั้งเมือง ก็มีบ้างเป็นบางแห่งบางวัดไม่ทั่วไป โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสงครามนี้ มีพระพุทธปฏิมากรณ์เป็นพ่อบ้านเมืองยกย่องนับถือถวาย นามว่าหลวงพ่อ คือ “หลวงพ่อบ้านแหลม” เป็นที่เคารพสักการะบูชา

หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็น พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร หล่อด้วยทองเหลืองแบบสมัย สุโขทัยตอนปลาย ภายในโปร่งขนาดส่วนสูง 170 เซนติเมตร ประดิษฐานยืนอยู่บนแท่น ภายในพระอุโบสถวัดบ้านแหลม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติที่จารึกกล่าวไว้ว่า หลวงพ่อได้ ล่องลอยน้ำลงมาจากทางเหนือพร้อมกัน 3 องค์ แสดงอภินิหารให้ผู้คนเห็นมาตลอดลำแม่น้ำเจ้าพระยา และ ครั้งหนึ่ง ได้ล่องลอยมาถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนสามเสน ประชาชนสามแสนกว่าคนประสงค์ที่จะนิมนต์หลวงพ่อขึ้นบนฝั่ง ช่วยกันเอาเชือกผูกมัดองค์หลวงพ่อแล้วช่วยกันฉุดลากแต่ก็ไม่สามารถจะนำหลวงพ่อขึ้นฝั่งได้ และท่านก็จมน้ำหายไปจากที่นั้น

ต่อจากนั้นท่านก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้คนเห็นในที่ต่าง ๆ กันเรื่อยมาจนในที่สุดก็ได้มาประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญอยู่ใน พระอุโบสถวัดบ้านแหลมนี้จนกระทั่งปัจจุบันวัดบ้านแหลมเดิมชื่อว่าวัดศรีจำปา เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างมานานคำนวณไม่ได้ว่ามี อายุประมาณสักเท่าใด วัดศรีจำปามีมาก่อนที่จะได้หลวงพ่อบ้านแหลมมาประดิษฐาน เมื่อหลวงพ่อมาประดิษฐานอยู่แล้วจึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อวัดบ้านแหลม

ตำนานเดิมกล่าวว่าชาวบ้านแหลม ซึ่งอยู่ปากอ่าวจังหวัดเพชรบุรีได้พากันมาตีอวนจับปลาในทะเล ในขณะที่ลากอวนจับปลาอยู่นั้น ได้ลากพระพุทธรูปติด
อวนขึ้นมา 1 องค์ ต่างพากันดีใจมากกว่ามาจับปลา แต่กลับมาได้พระพุทธรูปเห็นว่าคงจะเป็นลาภอันใหญ่หลวงแล้ว จึงได้อาราธนาพระพุทธรูปนั้นขึ้นบนเรือ แล้วพากันล่องกลับจากทะเล ในระหว่างทางคงจะเป็นด้วยบุญบารมีของชาวบ้านแหลม คนในเรือคนหนึ่งได้แลเห็นพระเกศของพระพุทธรูปลอยปริ่ม ๆ น้ำ อยู่ไม่ไกลจากเรือที่แล่นอยู่เท่าใดนัก จึงร้องบอกให้ทุกคนทราบ แล้วเทียบเรือเข้าไป ทุกคนต่างปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบพระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลือง แต่ล่องลอยอยู่ในกระแสน้ำได้ ต่างพากันกราบนมัสการด้วยความเลื่อมใสในอภินิหารและอิทธิฤทธิ์ที่ได้พบเห็น

ต่อจากนั้นก็ได้อาราธนาขึ้นบนเรือ อีกลำหนึ่ง แล้วพากันแล่นเรือกลับด้วยความดีใจเป็นที่สุด ครั้นเรือแล่นมาถึงแม่น้ำแม่กลองตอนหน้าวัดศรีจำปา ได้เกิดอาเพทคล้ายกับว่าหลวงพ่อประสงค์ ที่จะอยู่วัดนี้ จึงทำให้ฝนตกหนักลมพายุพัดจัดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เรือลำที่หลวงพ่อบ้านแหลมประดิษฐานอยู่ ทนคลื่นลมไม่ไหวประคองตัวไม่อยู่เรือเอียงวูบไป หลวงพ่อที่อยู่บนเรือจึงเคลื่อนตกจมหายลงไปในแม่น้ำ ชาวประมงบ้านแหลมพา กันตกใจและเสียดายมาก ต่างช่วยกันเพียรดำค้นหาอยู่หลายวันจนอ่อนใจ ก็ไม่พบตกลงไม่ค้นหากันต่อไปอีก จึงนำพระพุทธรูป องค์ที่เหลืออยู่ไปยังถิ่นของตน และนำพระพุทธรูปองค์นั้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี

กาลต่อมาชาวบ้านศรีจำปาต่างก็ช่วยกันลงดำค้นหาหลวงพ่อที่จมอยู่นั้น เป็นด้วยเพราะอภินิหารของหลวงพ่อที่จะอยู่เป็นมิ่งขวัญของชาวบ้านศรีจำปา
จึงทำให้ชาวบ้านศรีจำปาพบและอาราธนานำไปประดิษฐานไว้ ที่วัดศรีจำปา ชาวประมงบ้านแหลมครั้น รู้ข่าวเข้าว่า ชาวบ้านศรีจำปาได้พระของตนที่จมน้ำนั้นแล้ว ก็ยกขบวนกันมาขอพระคืน แต่ชาวบ้านศรีจำปาไม่ยอมให้จนเกือบจะเกิดศึกกลางวัดขึ้น แต่ด้วยอภินิหารของหลวงพ่อบ้านแหลม และการมีเหตุผล
ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ก็ประสานสามัคคีตกลงปรองดองกันได้ ทางฝ่ายชาวประมงบ้านแหลมก็ยินยอมยกพระพุทธรูปที่ชาวบ้านศรีจำปางมได้ประดิษฐานอยู่ที่วัด
ศรีจำปาตาม แต่ต้องเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ ให้ชื่อว่า “วัดบ้านแหลม” เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ที่ชาวบ้านแหลมได้พระพุทธรูปมาที แรก ตั้งแต่นั้นมาวัดศรีจำปา
จึงได้นามว่าวัดบ้านแหลม มาจนทุกวันนี้

ตามประวัติ หลวงพ่อบ้านแหลม เมื่อคราวที่ไปลอยวนอยู่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนสามเสน นั้น ประชาชนสามแสนกว่าคนประสงค์จะอาราธนานิมนต์
หลวงพ่อขึ้นฝั่งช่วยกันเอาเชือกพรวนผูกมักแล้วช่วยกันฉุดลากก็ไม่สามารถนำหลวงพ่อขึ้นฝั่งได้ แล้วหลวงพ่อก็แสดงปาฏิหาริย์จมน้ำหายไปทั้ง 3 องค์

ต่อมา ทราบว่าองค์หนึ่งได้ขึ้นไปประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธร คือ หลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกองค์หนึ่งไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน คือ หลวงพ่อโต จังหวัดสมุทรปราการ ตามที่ท่านแสดงปาฏิหาริย์จมน้ำหายไปครั้งนั้น หลวงพ่อได้แสดงอภินิหารให้เห็นว่า ถ้าท่านไม่ประสงค์จะอยู่ในที่ใดแล้วให้มีคนมากกว่า สามแสนคนมาฉุดดึงท่านก็ไม่รับนิมนต์ แต่พอถึงที่หน้าวัดบ้านแหลมท่าน ก็ยอมขึ้นแต่โดยดี มิต้องใช้เชือกมัดหรือใช้ผู้คนมากมาย ไม่ต้องฉุดดึงเพียงแต่เจ้าอาวาสในสมัยนั้น กับชาวบ้านเพียงไม่กี่คนอาราธนาอัญเชิญหลวงพ่อถูกต้องตามพิธีการ ท่านก็รับนิมนต์ยอมขึ้นมาประดิษฐานอยู่ประจำวัดเป็นมิ่งขวัญตลอดมา จนกาลปัจจุบัน

เมื่อได้หลวงพ่อมาแล้ว ชาวบ้านก็ได้อาราธนานำท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ วัดบ้านแหลม และทำพิธีจัดงานสมโภชฉลององค์หลวงพ่อกัน
อย่างครึกครื้น แล้วพากันขอความศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อให้ช่วยคุ้มคร องปกปักรักษาไม่เว้นแต่ละวัน หลวงพ่อวัดบ้านแหลม มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของประชาชน ความศักดิ์สิทธิ์ประการใดบ้างนั้น เหลือที่จะพรรณาให้ละเอียดได้มีผู้เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเมื่อผู้ใดได้รับความเจ็บป่วย หรือทุกข์ร้อนประการใด ก็มากราบนมัสการบนบานต่อหลวงพ่อ ความเจ็บป่วยหรืออาการทุกข์ร้อนนั้นก็พลันหายไปหรือไ ม่ก็ทุเลาเบาบางลงจนเป็นที่นับถือของประชาชนทั่วไปแม้แต่ชาวจีนที่เข้ามา พึ่งบรมโพธิสมภารก็พากันนับถือเป็นอันมาก พากันมาเซ่นไหว้ในวันสำคัญของจีน หรือในวันอื่น ๆ แล้วแต่โอกาสเสียงจุดประทัดบูชาดังสนั่นหวั่นไหว พวกละครชาตรีหรือละครไทยและงิ้ว ที่ประชาชนหามาแสดงจะพบเห็นอยู่เสมอ กล่าวกันว่าพวกละครหรืองิ้วที่แสดงถวายนี้ ถ้าไม่รำถวายมือหลวงพ่อวัดบ้านแหลม เสียก่อน บางคนถึงกับชักดิ้นชักงอหรือมีอันเป็นไปต่างๆ

จึงเลยเกิดเป็นธรรมเนียมประเพณีว่า ก่อนจะแสดงเรื่องราวต่าง ๆ ต้องรำถวายมือต่อหลวงพ่อเสียก่อนเป็นการสักการะ และครั้งหนึ่งชาวจีนได้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแ รงกล้าในความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารของหลวงพ่อ ได้พากันนำงิ้วมาแสดงถวาย ประชันกันถึง 5 โรง บางคนป่วยหนักหมดหวังในชีวิต หมอละทิ้งไม่มีผู้ใดรับรักษาพยาบาล ก็มาขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยชีวิต โดยรับเอาน้ำมนต์ ดอกไม้ที่บูชาหลวงพ่อเอา ไปรับประทานและพอกทา อาการป่วยก็หายวันหายคืนและกลับเป็นปกติก็มีอยู่หลาย รายบางคนตกทุกข์ได้ยาก เป็นถ้อยร้อยความไปบนบานปิดทองนมัสการ ขอให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อก็ช่วยเหลือได้สมประสงค์ ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดบ้านแหลมมีมากมายจนประชาชนยกย่อง เป็นพ่อบ้านพ่อเมือง มีอภินิหารปกป้องคุ้มครองประชาชนทุกผู้ทุกนาม เป็นที่สักการะบูชา เป็นมิ่งขวัญของชาวเมืองสมุทรสงครามมาจนตราบเท่าทุกวันนี้


งานนมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลม

วัดบ้านแหลมนี้มีงานนมัสการหรืองานเทศกาล 2 ครั้ง คือ

1. งานสงกรานต์เดือน 5 มีงานรวม 6 วัน 6 คืน เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13-18 เมษายน ของทุกปี

2. งานวันสารท เดือน 11 มีงานนมัสการหลวงพ่อ 4 วัน 4 คืน มีประชาชนทั้งใกล้และไกลไปนมัสการหลวงพ่อกันอย่างคับ คั่งพระพุทธปฏิมาอัน
สำคัญที่ทรงอภินิหารและทรงศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้าจะกล่าวกันไปแล้วก็ยังมีอีกเป็นจำนวนหลายวัดตามจังหวัดและอำเภอต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้งในเมืองและ
ตามชนบทถ้าจะทบทวนนับจาก หลวงพ่อโต จังหวัดสมุทรปราการ หลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อวัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม แล้วก็เห็นจะมีพระพุทธปฏิมากรที่สำคัญอีก 2 องค์ นั้นคือ หลวงพ่อวัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม

ซึ่งนับว่าเป็นหลวงพ่อที่ ทรงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ดุจเดียวกัน เพราะมีพุทธศาสนิกชนประชาชนพากันมาสักการะบูชากันมาก มายเนืองแน่นไปหมด เมื่อเวลามีงานสมโภชตามเทศกาล และตามจดหมายเหตุประวัติความเป็นมาอันเก่าแก่ดั้งเดิ มของทางวัด ก็ได้แจ้งไว้ว่าท่านได้ปาฏิหาริย์ลอยน้ำมาเช่นเดียวกัน ถึงกับบางท่านได้สรุปรวมความว่าเป็นพระพี่น้องกัน

ซึ่งก็สามารถจัดเป็นเช่นนั้นได้ เพราะท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีความศักดิ์สิทธิ์สามารถ ปกป้องคุ้มครองรักษาประชาชนที่เคารพนับถือสักการะบูชาท่านรักษาโรคภัยไข้ เจ็บภัยพิบัติต่าง ๆ ให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ถ้าหากจะนับรวมกันอย่างที่ทราบกันมาว่า พระพุทธรูปที่ปฏิหาริย์ลอยน้ำมา ก็คงจะมี 5 องค์ดังนี้ ซึ่งตรงกับคำว่า “ พุทธปัญจะภาคี ปาฏิหาริย์กระสินธุ์โน” พอดี

แต่ส่วนประวัติความเป็นมานั้นทุกท่านต้องศึกษาถึงมูลเหตุพุทธประวัติอัน ลึกซึ้งของแต่ละองค์ ตามจดหมายเหตุประวัติและคำบอกเล่าของแต่ละที่กันเอง ซึ่งทุกองค์ก็มีความสำคัญมาก เช่นเดียวกันเพราะพระพุทธปฏิมาอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเป ็นที่เคารพนับถือสักการะบูชาเป็นศูนย์รวมจิตใจอันผ่อ งใสเชื่อมั่นของประชาชน สาธุชนทั่วไปและตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในสากลพิภพยังมีอยู่อีกมากมายเหลือที่จะคณานับได้ ดั่งจะเห็นได้ว่ามีข่าวคราวปากฏขึ้นที่นั่น ที่นี่ตามกาลอันควรตลอดมาอยู่บ่อย ๆ ครั้ง พระพุทธปฏิมากร ที่สำคัญ ๆ ที่มีอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ก็มีปรากฏอยู่มากมา ยตามวัดต่าง ๆ แต่ละจังหวัดแต่ละอำเภอกระจายทั่วไปทั้งประเทศเพื่อแผ่บารมีและพุทธคุณปก ป้องคุ้มครองสาธุชน ประชาชน ผู้ประพฤติปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดีงาม ปกป้องประเทศชาติให้คงอยู่เป็นไทยมาจนทุกวันนี้ ก็ด้วยบุญบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และสิ่งต่าง ๆ ซึ่งทรงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทุกคนหรือบางคนได้ประสบมาด้วยตนเอง หรือจากคำบอกเล่าจดหมายเหตุๆอันเป็นประวัติแต่ดั้งเด ิมมา ประเทศของเราจึงจัดได้ว่าเป็นประเทศที่นับว่าร่มเย็น เป็นสุขตามควรภายใต้พระบรมโพธิสมภาร อันมีสิ่งยึดเหนี่ยวที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นสิ่งที่ทุกคนเทิดทูนเหนือเศียรเกล้า เคารพสักการะบูชายึดมั่นหยั่งลึกฝังอยู่ในจิตใจของทุกคนชาวพุทธศา สนิกชนชาวไทยทั้งชาติทุกคนตลอดมา และจะยั่งยืนตลอดไปอีกจนชั่วกาลนาน

คำอาราธนาหลวงพ่อวัดบ้านแหลม

สะทา วะชิระสะพุททะวะวะ วิหารเร
ปติฏฐิตัง นะระเทโวหิ ปูชิตัง ปัตตะหัตตัง
พุทธรุปัง อะหัง วันทามิ ทูระโต
คาถาหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
นะมะ ระอะ นะ เท วะ อะ


 
ราคาปัจจุบัน :     180 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM