(0)
+++ นำเสนอ +++ เหรียญหล่อเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ชัยนาท ( หลวงปู่ศุข ปลุกเสก ) เลี่ยมทอง พร้อมบัตร








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง+++ นำเสนอ +++ เหรียญหล่อเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ชัยนาท ( หลวงปู่ศุข ปลุกเสก ) เลี่ยมทอง พร้อมบัตร
รายละเอียดเหรียญหล่อหลวงพ่อโต

วัดวิหารทอง จ.ชัยนาท เนื้อตะกั่ว พิมพ์สองหน้า หลวงปู่ศุขวัดปาก

คลองมะขามเฒ่าปลุกเสก

...เหรียญ หล่อ โบราณ เนื้อชินตะกั่วเก่าๆ ได้เริ่มสร้างประมาณปี๒๔๕๗ เป็นต้นมา ...โดยหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ชัยนาทวงการให้การยอมรับเนื่องจากเชื่อกันว่า พระเนื้อตะกั่วของหลวงพ่อโต นั้นท่านได้นำเนื้อชนวนตะกั่ว ที่เหลือจากการสร้างพระของหลวงปู่ศุข มาหลอมผสมเป็นชนวนด้วย และยังได้นิมนต์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มาช่วยปลุกเศกด้วย
เชื่อมั่นในพุทธคุณได้เหมือนกับพระหลวงปู่ศุขราคา แพงๆได้เลยครับ...ของดีไม่ต้องแพง.. ขอให้แท้และทัน.เพราะหลวงพ่อโต ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่ศุข เรื่องพุทธคุณนั้นหายห่วง ดีครบในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเมตตามหานิยม เขาว่ายอดเยี่ยมนัก

วัดวิหารทอง หมู่ที่ ๗ ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท เดิมเป็นวัดร้าง มีมาแต่โบราณเก่าแก่มาก
เหลือ เพียงองค์พระเจดีย์เก่าๆให้พบเห็น ท่านเจ้าคณะเมืองสวรรคบุรี นามว่า "หลวงวัง" ผู้ที่มีฐานะมั่งคั่ง ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ ให้กลับมามีสภาพเป็นวัดขึ้นใหม่
โดยมีหลวงพ่อสอนเป็นเจ้าอาวาส องค์แรกระหว่างในปีพ.ศ. ๒๔๕๓-๒๔๖๐ เมื่อท่านมรณภาพแล้วหลวงพ่อเมฆ จึงได้เป็นเจ้าอาวาสต่อมา จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๕ หลวงพ่อโตก็ได้เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน จนท่านมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ สิริอายุได้ ๘๔ ปี พรรษาที่ ๖๓

หลวงพ่อโต ท่านเป็นคนตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาทโดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๑ โยมบิดาชื่อโยมเงิน โยมมารดาไม่ปรากฏชื่อ หลวงพ่อโตท่านรักการบวชเรียนมาตั้งแต่เล็ก โดยลงมาบวชอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศึกษาอยู่ในสำนักใดไม่ปรากฏ ต่อมาท่านได้กลับขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดวิหารทอง และท่านได้เข้ามาเป็นศิษย์ศึกษากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พร้อมกับหลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ เมื่อท่านกลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดวิหารทอง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ ท่านก็ได้ทำนุบำรุงซ่อมแซมสร้างเสนาสนะ และถาวรวัตถุ ซึ่งกำลังทรุดโทรมให้กลับคืนสภาพดีดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอุโบสถ ซึ่งเป็นศิลปะอยุธยา ที่มีลีลาอ่อนช้อยสวยงามมาก และท่านก็ได้สร้างมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท นอกจากนี้ท่านยังสร้างพระอุโบสถวัดดงคอน วัดสกุณาราม วัดโพธิ์ทอง และวัดศีรษะเมือง อีกด้วย
หลวงพ่อโตท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน เป็นอย่างมาก จนกระทั่งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะแขวงบ้านเชี้ยน(หันคา) อยู่ระยะหนึ่ง แต่ต่อมาท่านก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง ท่านเป็นพระเถระซึ่งมีญาณแก่กล้ารูปหนึ่ง บำเพ็ญสมาธิจนเกิดอภิญญา วาจาสิทธิ์ พูดคำใดเป็นคำนั้น มีความรู้ในวิทยาคุณแก่กล้าหลวงพ่อโตท่านเป็นพระที่มีกิตติคุณต่างๆ มากมาย ของขลังที่ท่านทำแจกลูกศิษย์มีผู้ได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย
ท่านหลวง พ่อโต มีคุณวิเศษเหนือเกจิองค์อื่นอยู่อย่างหนึ่งคือ ท่านเป็นพระที่มีตบะแก่กล้าที่สุด เคยได้ยินและได้ฟังมาว่า เวลาที่วัดมีงานตำรวจก็ไม่สามารถดูแลความเรียบร้อยในงานได้ มักจะมีการจี้ ลักขโมยกันเป็นประจำ เพราะสมัยนั้นกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีน้อย บางวัดถึงกับต้องมานิมนต์ท่านไปคุมงาน...!!
ครั้งหนึ่งในงานทำบุญประจำปี ได้เกิดเหตุคนร้ายกระตุกสร้อยคอ ผู้หญิงวัยกลางคน เป็นชาวบ้านในย่านนั้น ได้วิ่งร้องไห้มาบอกหลวงพ่อว่า "ถูกคนร้ายกระตุกสร้อยคอทองคำหนักสองสลึงไป"
หลวงพ่อท่านก็ปลอบว่า "เดี๋ยวก็ได้คืน มันเอาไปไม่ได้หรอก"
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงสารเจ้าของสร้อยคอ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน อีกสักพักก็มีคนนำสายสร้อยมาถวายให้กับหลวงพ่อโต
หลวง พ่อก็เลยถามว่า "นึกอย่างไรจึงนำมาถวาย" คนร้ายรับสารภาพว่า "หาประตูทางออกจากวัดไม่เจอ วิ่งวนอยู่หลายรอบก็หาไม่เจอ เจอแต่กำแพงวัดทั้งนั้น ทั้งๆ ที่เคยเข้าออกประตูวัดอยู่ประจำ วิ่งจนเหนื่อยอ่อนไปหมดแล้วครับ คิดในใจว่าหลวงพ่อคงไม่ให้ออกจากวัดแน่ จึงนำสร้อยมาคืนครับ"
หลวงพ่อจึงเทศนาสั่งสอนว่า " ไม่ใช่ของของเราอย่าไปเอาเป็นเงินร้อน นอนไม่เป็นสุขอีกทั้งจะต้องรับเคราะห์กรรมต่อไปในชาติหน้าอย่าทำอีกเลย"
คนร้ายก็ให้สัจจะ แล้วหลวงพ่อก็มอบสร้อยคืนเจ้าของไป

หลวง พ่อโตท่านเริ่มสร้างวัตถุมงคลเป็นครั้งแรกราวปี พ.ศ. ๒๔๕๗ โดยสร้างเป็นพระเนื้อชินตะกั่ว รูปทรงห้าเหลี่ยมเป็นพระพุทธลีลา บนบัวสองชั้น ด้านหลังเรียบ และมักจะจารอักขระตัวนะไว้แทบทุกองค์ นอกจากนี้ท่านยังสร้างพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิ ด้านหลังเรียบ และมักจารอักขระขอมไว้เช่นเดียวกัน เครื่องรางของขลังของท่านก็จะมีแหวนพิรอด ผ้าประเจียด และตะกรุด เป็นต้น
ส่วนเหรียญนั้นท่านก็ได้สร้างไว้สองเหรียญ คือเหรียญรูปท่านและเหรียญพระพุทธลีลา
เหรียญ รูปท่านนั้นเป็นเหรียญรูปไข่ เป็นรูปท่านครึ่งองค์ ไม่ปรากฏอักษรใดๆ ด้านหลังเป็นยันต์ ๔ ซ้อนกันอยู่สองยันต์ เป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า อีกเหรียญที่เป็นพระพุทธลีลานั้นเป็นเหรียญรูปทรงเสมา ไม่มีอักษรระบุไว้เช่นกัน มีแต่อักขระขอม มะ อะ อุ ด้านหลังเป็นยันต์และมีตราอกเลา เป็นเหรียญเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง
เหรียญ หลวงพ่อโต วัดวิหารทองนี้เป็นที่นิยมกันมาก และเป็นที่หวงแหนของชาวสรรคบุรีเป็นอย่างมาก ปัจจุบันหาชมได้ยากไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก พุทธคุณพระเครื่องและเหรียญของหลวงพ่อโต วัดวิหารทองนี้ เด่นในด้านอยู่ยงคงกระพัน และแคล้วคลาด มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย

ลองอ่านเทียบเคียงกับปูม เกี่ยวกับหลวงปู่ศุข ที่กล่างถึงเหตุการณ์เมื่อปี ๒๔๕๙ ดังนี้
พระเครื่อง-เครื่องรางของขลังของหลวงปู่ศุข
การ ที่ท่านทำพระเครื่องรางของขลัง ได้ประสิทธิ์ มี ฤทธิ์ มีเดช ทั้งๆที่อักษรเลขยันต์พื้นๆนั้น เป็นเพราะอำนาจจิตที่ท่านได้ฝึกฝนมานั้น กล้าแกร่งยิ่งนัก โดยเฉพาะกสิณธาตุทั้งสี่ มี ดิน น้ำ ลม ไฟ นั้นเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจอิทธิฤทธิ์ทางใจเลยทีเดียว สำหรับการสำเร็จวิชาชั้นสูงเรียกว่า มายาการ คือความเชื่อถือและการปฏิบัติ ที่มุ่งหมายให้เกดิผลด้วยการ ใช้พลังหรืออำนาจเหนือธรรมชาติ เช่นของขลัง พิธีกรรม หรือ หลีกลี้ลับ บังคบให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ เช่น ท่านเสกใบมะขาม ให้เป็น ตัวต่อ ตัวแตน เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย ตลอดจนการผูกหุ่นพยนต์ด้วยฟางข้าว เสกคนให้เป็นจระเข้เป็นต้น มันเป็นมายาการชั้นสูง คือการบังคับให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ
แท้ที่ จริงแล้วใบมะขามก็ยังคงเป็นใบมะขาม หัวปลี ก็ คงเป็นหัวปลี และหุ่นฟาง ก็คงเป็นหุ่นฟางเหมือนเดิม เว้นแต่อำนาจจิตของท่านทำให้เราเห็นไปเอง จากหนังสือ "พระกฐินพระราชทาน สมาคมศิษย์อนงคาราม ปี ๒๕๑๙ เรื่องพระใบมะขาม ท่านผู้เขียนอดีตเป็นพระมหา มีหน้าที่ไปอุปัฏฐากหลวงปู่ศุขขณะที่อาราธนาท่านมาปลุกเสกพระชัยวัฒน์ และพระปรกใบมะขาม (พ.ศ.๒๔๕๙)ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า เมื่อข้าพเจ้าไปอุปัฏฐากหลวงพ่อแล้ว มีชาวบ้านชาววัดมาขอให้หลวงพ่อลงกระหม่อมบ้าง ลงตะกรุดพิสมรบ้าง โดยยื่นแผ่น เงิน ทอง นาก ให้ลงคาถา บางคนขอเมตตา บางคนขอการค้าขาย หลวงพ่อให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ลง ข้าพเจ้าถามว่า การค้าขายจะให้ลงว่ากระไร ท่านบอกว่า "นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู " ข้าพเจ้าจึงบอกว่า "หลวงพ่อครับ ผมไม่มีความขลัง ลงไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร " หลวงพ่อบอกว่า " มันอยู่ที่ผมเสกเป่านะคุณมหา" ข้อนี้ยืนยันว่าเป็นความจริง เพราะระหว่างนั้นข้าพเจ้าให้หลวงพ่อลงกระหม่อม และท่านเสกเป่าไปที่ศรีษะตั้งหลายครั้ง เมื่อท่านเป่าที่กระหม่อมทีไร ข้าพเจ้าขนลุกชันทั่วทั้งตัวทุกครั้ง ทั้งที่ข้าพเจ้าฝืนใจไม่ให้ขนลุก ก็ ลุกซู่ทุกครั้งที่ท่านเป่า ข้อนี้เป็นมหัศจรรย์ จริงๆ ข้าพเจ้าคิดว่าจะเป็นแต่ข้าพเจ้าคนเดียว ไปสอบถามภิกษุอุปัฐาก รูปอื่นๆ ก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน ข้อนี้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า "ท่านสำเร็จสมถะภาวนาแน่ๆ"
อนึ่งท่านเป็นพระที่น่าเคารพนับถือ สำรวมในศีลเป็นอย่างดี ไม่ใคร่พูดจานั่งสงบอารมณ์ เฉยๆ ไม่ถามอะไร ท่านก็ไม่ตอบไม่พูด บางอย่างข้าพเจ้าถามหลวงพ่อ หลวงพ่อก็ตอบเลี่ยงไปทางอื่น เช่น " เขาว่าหลวงพ่อเสกใบไม้เป็นต่อ และเสกผ้าเช็ดหน้าเป็นกระต่ายได้ และแสดงให้กรมหลวงชุมพรฯเห็นจนท่านยอมเป็นศิษย์ " หลวงพ่อตอบข้าพเจ้าว่า ลวงโลก แล้วท่านก็นิ่งไม่ตอบว่า อะไรอีก หลวงพ่อพูดต่อไปว่า "เวลานี้ กรมหลวงชุมพรฯไปต่างประเทศ (เข้าใจว่าไปรับเรือพระร่วง ) ถ้าอยู่ก็ต้องมาหาท่าน และปรนนิบัติ ท่านจนท่านกลับวัด และว่ากรมหลวงชุมพรฯ นี้ ตกทะเลไม่ตาย แม้จะมีสัตว์ร้ายก็ไม่ทำอันตรายได้ "
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน4,600 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 21 ก.ค. 2557 - 23:19:22 น.
วันปิดประมูล - 23 ก.ค. 2557 - 21:36:18 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลnuy_two (3.3K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     4,600 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    santana (1.3K)

 

Copyright ©G-PRA.COM