(0)
เหรียญรุ่นแรกพ่อท่านแปลก วัดปากปรน ปี 2538 จ.ตรัง






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญรุ่นแรกพ่อท่านแปลก วัดปากปรน ปี 2538 จ.ตรัง
รายละเอียดพ่อท่านแปลก” แปลกที่ว่าพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ องค์นี้เก่งจริง แต่ไม่มีใครรู้จักมากนัก ท่านแอบเร้นสงบวิเวกอยู่ที่วัดปากปรน กิ่งอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ทั้งวัดมีท่านอยู่เพียงองค์เดียว สมถะ วิเวก เรียบง่าย น่านับถือ มองดวงตาของท่านแจ่มใสเป็นประกาย แสดงให้เห็นถึงญาณสมาบัติอันกล้าแกร่ง มีเพียงคนในจังหวัดตรังและใกล้เคียงไม่มากนักที่รู้ว่าท่านมีอภินิหาร และแก่กล้าพุทธาคมอย่างยิ่งยวด หลายครั้งหลายหนที่ผู้คนประสบพบเห็นอภินิหารของท่านอย่างน่าอัศจรรย์
ผู้เขียนเดินทางไปพบท่านครั้งแรก เพื่อพิสูจน์ว่าท่านเดินไปท่ามกลางสายฝนแต่ไม่เปียก ตามที่เพื่อนผู้หนึ่งซึ่งเคยเดินไปพร้อมกับท่านแต่เปียกฝนเล่าให้ฟัง เพื่อดูว่ามีข้อเท็จจริงเพียงใด แต่วันนั้นไม่พบท่าน มีคนมาหารับไปช่วยผู้ประสบเคราะห์กรรมบางอย่างที่พัทลุง นับจากวันนั้นนับเดือนจึงมีโอกาสไปพบท่าน ด้วยการอำนวยความสะดวกอย่างดียิ่งจาก พ.ต.อ.จักรภาณุ ฤทธิ์สุนทร ผู้กำกับการสถานีตำรวจอำเภอเมือง จังหวัดตรัง และได้พบเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์หลายประการ ซึ่งจะนำมาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่าน “ลานโพธิ์” ได้รู้จักพระเถระผู้มีความน่าศรัทธาเลื่อมใสอีกองค์หนึ่งของภาคใต้
“พ่อท่านแปลก” เกิดในสกุล “ชูเท้า” ที่บ้านร่มเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 บิดาชื่อ นายปาน ชูเท้า มารดาชื่อ นางคุ้ม ชูเท้า เมื่อวัยเยาว์ได้ช่วยบิดา-มารดาประกอบอาชีพทำนาอยู่ที่บ้านตำบลร่มเมือง จนมีอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทที่วัดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ศึกษาธรรมและได้เรียนรู้วิชาไสยศาสตร์ จึงเกิดความสนใจวิชาเวทมนต์ คาถาอาคม และไสยศาสตร์แขนงต่างๆ มาก พยายามเสาะหาครูบาอาจารย์ศึกษาจนไปพบอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ ได้เรียนวิชาการต่างๆ มามากมาย เมื่อออกพรรษาบิดา-มารดาให้ลาสิกขามาช่วยงานทางบ้านทำนาต่อไป จึงต้องสละเพศบรรพชิตทั้งที่จิตใจฝักใฝ่จะอยู่ต่อ

เมื่อมาช่วยงานทางบ้านมีเวลาว่างๆ ก็หันไปแสวงหาอาจารย์เรียนรู้วิชาทางไสยศาสตร์อยู่เสมอ จนได้พบกับพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ ที่บ้านควนขนุนได้รับการชี้แนะแนวทางเวทมนต์วิทยาคมมากมาย ต่อมามีครอบครัวและเมื่ออายุได้ 33 ปี เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก เพราะมีจิตใจใคร่ทางธรรมอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก จึงตัดสินใจลาครอบครัวออกอุปสมบทตามความตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2510 โดยมี พระครูมุทิตานุรักษ์ วัดท่าแค เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูนิเทศน์ธรรมวินัย วัดท่าแค

เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาผัน วัดโคกโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปุสฺสเทโว” ณ พัทธสีมาวัดควนขี้แรด แล้วจำพรรษา ณ วัดควนขี้แรด พัทลุง ได้หนึ่งพรรษาจึงไปอยู่วัดดอนปรัง แล้วไปจำพรรษาที่วัดควนโตนด จากนั้นไปอยู่วัดบางขัน ต.ห้วยไทร อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อค้นคว้าเรียนวิชาสายเขาอ้อกับหลวงพ่อปานอีกครั้งหนึ่ง จนเรียนรู้ชำนาญสามารถปฏิบัติได้เห็นจริง จึงธุดงค์ข้ามจังหวัดจากพัทลุงหาความสงบวิเวกบนเขาพับผ้า อยู่ในป่าเพื่อฝึกจิตให้กล้าแข็ง ปฏิบัติธรรมจนถึง พ.ศ.2512
จึงธุดงค์มาถึงวัดปากปรน กิ่งอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง พบว่าเป็นวัดร้างไม่มีพระอยู่ มีกุฏิเก่าๆ และศาลาผุพังกับป่ารกทึบสงบวิเวก จึงได้จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดปากปรนเพียงองค์เดียว วัดปากปรนครั้งนั้นเป็นป่าที่สงบตรงกับความต้องการของท่าน มีสัปปายะที่ดีในการบำเพ็ญภาวนา ระหว่างจำพรรษาอยู่วัดปากปรน เริ่มมีชาวบ้านผ่านมาเข้าไปกราบนมัสการ และเริ่มรู้จักท่านมากขึ้น เพราะนอกจากวิชาคาถาอาคมและไสยศาสตร์แล้ว ท่านมีความชำนาญในตำรารักษาโรคด้วยสมุนไพรอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากระหว่างที่ท่านธุดงค์อยู่บนเขาพับผ้านั้น มีชาวบ้านซึ่งพบตำรารักษาโรคและตำรับเวทมนต์ในถ้ำวัดในเขา นำเอาตำราทั้งหมดมาถวายท่านเอาไว้ เพราะเอาไว้ในบ้านแล้ว พบสิ่งอัศจรรย์มากมาย เอาไว้ไม่ได้จึงเอามาถวายท่าน ท่านได้ศึกษาตำรับตำราเหล่านั้นอยู่นานหลายปีจนมีความเข้าใจแจ่มแจ้ง
ดังนั้น นอกจากวิชาที่ท่านได้เรียนมาจากสำนักเขาอ้อแล้ว วิชาบางส่วนท่านได้มาจากตำราที่ชาวบ้านพบในถ้ำแล้วเอามาถวายท่าน ด้วยใจที่สนใจไสยศาสตร์มาแต่เดิมจึงทำให้ท่านมุ่งมั่นฝึกฝนจนสามารถปกิบัติได้จริง มีลูกศิษย์ของท่านหลาย
คนยืนยันว่า เคยเดินไปกับท่าน ฝนตกลงมาคนที่ร่วมเดินไปพร้อมกับท่านทุกคนเปียกฝนชุ่มโชก แต่ตัวท่านไม่มีฝนตกถูกจีวรเลยแม้แต่เม็ดเดียว สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน เมื่อผู้เขียนถามท่านถึงเรื่องนี้ ท่านได้แต่หัวเราะ และเมื่อถามมากๆ ท่านก็ยอมรับว่า

ท่านมีพุทธคุณปกป้องคุ้มครองอยู่ หลังจากนั้นไม่นานท่านได้เล่าถึงคาถาอิติปิโสหลายบท และได้เน้นที่บท “ฝนแสนห่า” ท่านว่าใช้ทางแคล้วคลาด พร้อมทั้งเปรยว่า “ฝนแสนห่าตกลงมาไม่ถูกตัว” ทำให้ผู้เขียนนึกถึง “พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา” ศิษย์เขาอ้อ ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ได้เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ตะกรุดที่ท่านลงให้ในทางแคล้วคลาดนั้นชื่อ ตะกรุดฝนแสนห่า ลงด้วยคาถา “ฝนแสนห่า” แบบฉบับของสำนักเขาอ้อ ซึ่งมีเคล็ดพิธีกรรมอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนใคร พุทธคุณของคาถาฝนแสนห่านั้น เปรียบประดุจฝนแสนห่าตกลงมาไม่ถูกกาย ใช้ทางแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ผู้เขียนได้เน้นถามพ่อท่านแปลกในเรื่องนี้ปรากฏว่าวิชาที่ท่านเรียนมาเหมือนกับที่อาจารย์ศรีเงินได้เล่าให้ฟัง เมื่อครั้งท่านมีชีวิตแสดงว่า “พ่อท่านแปลก” ได้สำเร็จวิชานี้ และสามารถทำได้ขลังมีผลให้เห็นเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ท่านเล่าว่านอกจากจะได้วิชามาแล้ว หากไม่ฝึกปฏิบัติทางจิตจนเข้มแข็งก็ไม่สามารถทำได้ตามตำราที่เรียนมา
“ไม่สรงน้ำมาหลายปี” ในบรรดาผู้เคารพเลื่อมใสพ่อท่านแปลกจะทราบกันดีทุกคนว่าท่านไม่สรงน้ำ ไม่เคยเห็นท่านสรงน้ำ ถามท่านว่า
“พ่อท่านไม่สรงน้ำมากี่ปีแล้ว” ท่านตอบว่าจำไม่ได้ แต่แปลกที่ว่าเมื่อเข้าไปนั่งใกล้ท่านกลับไม่มีกลิ่นกายแต่ประการใด วรรณะ ราศี ผิวพรรณของท่านกับผ่องใสเปล่งปลั่งและดูสะอาดตามาก
“พ่อท่านอาบน้ำในกา” ลูกศิษย์หลายคนของท่านเล่าว่า เคยเห็นท่านนั่งอยู่แต่ตัวเปียกน้ำ ทั้งๆ ที่วัดของท่านไม่มีห้องน้ำ และเมื่อสังเกตก็เห็นกาน้ำที่วางข้างตัวท่าน รอบๆ กามีน้ำเปียกอยู่โดยรอบ ฝากาเปิดอยู่ จึงถามท่านว่า พ่อท่านไปอาบน้ำที่ไหนมา ท่านหัวเราะแล้วหันไปมองที่กาน้ำ โดยไม่เอ่ยปากพูดอะไร ลูกศิษย์จึงเข้าใจว่าท่านคงอาบน้ำในกา เพราะหลายคนทราบดีว่าพ่อท่านมีวิชาสามารถย่นหนทางและย่อกายได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ปืนยิงไม่ออก” หลายปีมาแล้ว ชาวบ้านรอบๆ วัดแอบเข้ามาเล่นการพนันในเขตวัด โดยใช้ศาลาเป็นสถานที่ เมื่อเล่นไปก็มีคนเสียเงินบ้าง คนได้เงินบ้าง คนที่เสียมากคนหนึ่งเป็นนักเลงในท้องถิ่นนั้น เมื่อไม่มีเงินจะเล่นต่อจึงเข้าไปขอเงินพ่อท่านแปลกที่กุฏิ ท่านรำคาญจึงหยิบเงินส่งให้ไป ชายผู้นั้นหายไปพักหนึ่งก็กลับมาอีก คราวนี้มีอาการเมาเหล้าบอกว่าเงินพ่อท่านหมดแล้วขออีก ท่านจึงบอกว่าไม่มีให้ไปหมดแล้ว ชายผู้นั้นก็เซ้าซี้จะเอาเงินให้ได้ พ่อท่านไม่มีให้ จึงเกิดโมโห ชักปืนขนาด .38 ขึ้นขู่พ่อท่าน เพื่อจะเอาเงิน

ท่านก็ตอบว่าไม่มีเพราะให้ไปหมดแล้ว จึงลั่นไกปืนยิงท่าน นัดแรกเสียงดัง “แช็ก” นัดสอง นัดสาม ก็เป็นเช่นเดิมลูกปืนไม่ลั่น พ่อท่านจึงบอกว่าให้ไปไกลๆ ไปยิงนอกวัดโน้น ชายผู้นั้นจึงเดินออกไปยิงที่หน้ากุฏิของท่านอีก 1 นัด ก็ไม่ออก จึงออกไปยิงขึ้นฟ้าที่หน้าวัด ปรากฏว่ายิงออกทุกนัด เรื่องนี้มีชาวบ้านร่วมเห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าให้ฟังตรงกัน (ชายผู้นี้ขอสงวนชื่อ ขณะนี้โดนจับคดียิงคนตายยังอยู่ในเรือนจำ เพราะหลังจากนั้นอีกไม่นานก็ไปยิงผู้อื่นตาย และถูกตำรวจจับได้)
“พ่อท่านแปลก” เกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านถือสันโดษและปฏิบัติธรรมด้วยการพิจารณา “อสุภะกรรมฐาน” เป็นเนืองนิตย์ มีกระแสจิตแก่กล้า แต่มีความเมตตาเป็นเลิศ นับเป็นเกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของภาคใต้ ที่น่าเคารพและศรัทธายิ่ง

*** หลวงพ่อได้มรณะภาพเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2555 ***

====== เหรียญรุ่นแรก สวย แท้ ดูง่าย มากประสบการณ์ครับ ======
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ต.ค. 2556 - 00:00:22 น.
วันปิดประมูล - 04 ต.ค. 2556 - 11:15:50 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลเณรน้อย (11.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,300 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    mhee123 (1.5K)

 

Copyright ©G-PRA.COM