ชื่อพระเครื่อง | พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวะหล่อโบราณ ก้นอุดผงพรายกุมาร ติดจีวรผ้าดาด เลข๖๑๖ เปิดราคาเบาๆ ต้อนรับปีใหม่ วันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๑ ปีย่างเข้าปีที่ ๓๒ ของหลวงปุ่ทิม |
รายละเอียด | พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวะหล่อโบราณ ก้นอุดผงพรายกุมาร ติดจีวรผ้าดาด เลข๖๑๖ เปิดราคาเบาๆ ต้อนรับปีใหม่ วันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๑ ปีย่างเข้าปีที่ ๓๒ ของหลวงปุ่ทิม อิสริโก ประกอบกับ พระกริ่งชินบัญชรที่ถือกำเนิดในเทวีฤกษ์ สร้างขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ มีอายุการสร้างครบ ๓๒ ปี เช่นกัน ในวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่ทิมปีนั้นนอกจากจะทำบุญสัตมาวาร เพื่อระลึกถึงท่านดังเช่นที่ปฏิบัติกันมาทุกปีแล้ว วัดละหารไร่ ซึ่งมีพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต (พระอาจารย์เชย) เจ้าอาวาสได้จัดพิธีเททองหล่อ พระพุทธมงคลมหามุนี ขึ้น (ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ชั้นล่าง ศาลาภาวนาภิรัต วัดละหารไร่)
มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จึงถือเอาเป็นวันมหามงคล เททองสร้าง พระกริ่งชินบัญชร ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อหารายได้ช่วยวัดละหารไร่ สร้างพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัต และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆของมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก อาทิ หน่วยช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนที่ที่มาบตาพุด โดยให้ชื่อว่า พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒
พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ ถอดแบบจากพระกริ่งชินบัญชรองค์เดิมของหลวงปู่ทิม แต่จะดัดแปลงให้สวยงามและพระพักตร์ให้อิ่มเอิบเป็นเอกลักษณ์ เข้าหุ่นด้วยดินไทยและเททองหล่อแบบโบราณ ณ ลานวัดละหารไร่ ต่อหน้า องค์พ่อปู่ฤาษีอิสริโกมุนี พร้อม พระพุทธมงคลมหามุนี เวลา ๑๒.๓๙ น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง นั่งปรกปลุกเสกหน้าเตาหลอมทอง ๔ องค์ ๔ ทิศ คือ
ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) พระอาจารย์ สาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม
ทิศประจิม (ทิศตะวันตก) หลวงพ่อ สิน วัดละหารใหญ่ ซึ่งเป็นวัดพี่-วัดน้องกับ วัดละหารไร่ หลวงพ่อสินเอง เป็นศิษย์เอกอีกองค์หนึ่งของหลวงปู่ทิม ทั้งมีวัตรปฏิบัติที่งดงามเคร่งครัด และสำรวมยิ่งองค์หนึ่งของบ้านค่าย ทิศอุดร (ทิศเหนือ) หลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง พระเถระผู้มีกระแสจิตแก่กล้า นอกจากจะได้ชื่อว่า เสกเดี่ยวได้อย่างมั่นใจไม่ต้องให้ใครมาช่วยเดี่ยวแล้ว ท่านยังเป็นพระปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณโด่งดัง ท่านรับนิมนต์มานั่งปรกที่วัดหลวงปู่ทิมด้วยความยินดี เพื่อช่วยให้กริ่งบรมครู ๓๒ ดังสุดๆอีกครั้งหนึ่ง
ทิศทักษิณ (ทิศใต้) ท่านเจ้าหรีด หรือพระครูบุญญาภินันท์ วัดปาโมกข์ จ.พังงา ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์สายใต้องค์หนึ่งซึ่งกำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ท่านนั่งปลุกเสกประจำทิศใต้ ท่านนั่งปลุกเสกมีดหมอรุ่นไหว้ครู (๑พฤษาคม๒๕๔๙) ต่อหน้ารูปหล่อหลวงปู่ทิม อิสริโก ที่มูลนิธิฯ คู่กับพระอาจารย์สาคร จนน้ำมนต์หมุนให้เห็นกันจะจะมาแล้ว และเหรียญรุ่น ๑ ของท่านเจ้าหรีดก็กำลังดังมีคนถูกยิงแล้วไม่ระคายผิว
เมื่อวันเททองหล่อ พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ นอกจากฝนฟ้าจะว่างเว้นให้อย่างอัศจรรย์ ๒ วัน ๒ คืน ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ทิม ตลอดจนเทพพรหมมากันมืดฟ้ามัวดิน จนบดบังแสงอาทิตย์ที่กำลังแผดกล้า แล้วยังมีเหตุอัศจรรย์ที่จะเรียกว่าอภินิหารหรือปาฏิหารย์ก็เห็นจะไม่ผิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรบรมครู ๓๒ ท่ามกลางสายตาผู้เข้าชมการเททองพระกริ่งนับพันคน การเททองหล่อพระพุทธรูปเป็นภูมิปัญญาของไทยเรามาแต่โบราณ จนถึงยุครัตนโกสินทร์ก็มีบ้านช่างหล่อ มีตระกูล วงศ์ช่างหล่อ แต่ปัจจุบันการสร้างพระปฏิมากรขนาดเล็กแบบพระกริ่ง มีการทำกันอยู่ ๒ ลักษณ์ คือ สร้างด้วยดินไทย และ สร้างด้วยดินฝรั่ง การสร้างด้วยดินฝรั่งเป็นการดัดแปลงเอาวิธีการของฝรั่งมาใช้ในการสร้างพระพุทธรูปขนาดเล็ก โดยเอาวัตถุที่ใช้พอกหุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อทำจิวเวอรี่ หรือหล่อวัตถุต่างๆอันได้แก่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาดัดแปลงเป็นการหล่อพระที่เรียกว่า เหวียง แทนที่จะใช้ ดินไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั่งเดิมของบรรพบุรุษ
การเททองแบบดินไทยต้องใช้ขี้วัวเป็นวัตถุดิบสำคัญ และต้องใช้ขี้วัวสดๆ ที่ถ่ายออกมาใหม่ๆ ผ่านกรรมวิธี เป็นดินพอกหุ่น
พราหมณ์ซึ่งเป็นเจ้าพิธีการมาแต่ครั้งโบราณถือว่า ของที่บริสุทธิ์และเป็นมงคลตามธรรมชาติที่จะต้องนำมาใช้ในงานพิธีสำคัญๆไม่ว่าจะเป็นงานของชาวบ้านหรืองานพระราชพิธีของพระมหากษัตริย์ มีอยู่ ๒ สิ่งคือ หอยสังข์ และ มูลโค หรือขี้วัว หอยสังข์ใช้เป่าในงานพระราชพิธีต่างๆถือว่าเป็นของบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์โดยธรรมชาติ ส่วนมูลที่โคถ่ายออกมาก็ถือว่าเป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติ เพราะโคไม่เคยเบียดเบียนใคร กินแต่หญ้ามาโดยตลอด มูลโคจึงถือเป็นของบริสุทธิ์ บรรพบุรุษของเราจึงเอามาเป็นวัสดุสำคัญในการหล่อพระ
การหล่อพระกริ่งชินบัญชรบรมครู ๓๒ ตั้งใจทำด้วยความบริสุทธิ์ เอาสิ่งที่ถือว่าบริสุทธิ์ที่เกิดเองมาหล่อ เพื่อให้ท่านที่เคารพนับถือหลวงปู่ทิม มีของมงคลของบริสุทธิ์ไว้ใช้ และคงเป็นความบริสุทธิ์ใจของคณะผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ขณะเททองประการแรกเมื่อได้ฤกษ์เททอง ๑๒.๓๙ น. อันเป็นราชาฤกษ์ เมื่อฆ้องประกาศฤกษ์ลั่นขึ้นพระอาทิตย์เวลาเที่ยงวัน ซึ่งกำลังส่องแสงอันแรงกล้าปราศจากเมฆหมอก ความร้อนจากแสงอาทิตย์กำลังแผดกล้า(หลังฝนตกหนักติดต่อกันมาแล้ว ๒ วัน เพราะดีเปรสชั่นเข้ามาทางภาคตะวันออก) ถ้าใช้มือป้องสายตามองขึ้นไปจะเห็นพระอาทิตย์กำลังทรงกลด
คุณไพศาล ช่างการบินไทย ซึ่งพาภรรยามาร่วมพิธีด้วย เล่าให้ฟังภายหลังว่า ได้สะกิดให้ภรรยาซึ่งนั่งอยู่ในเต้นท์ที่อยู่ในประรำพิธีแหงนหน้าขึ้นไปมองพระอาทิตย์ มีเมฆหมอกมาบังให้ร่มเย็นอย่างอัศจรรย์ แต่ภรรยาซึ่งก็กำลังมองท้องฟ้าอยู่บอกว่า อย่ามากวนใจกำลังมีความสุจ ซึ่งอธิบายหลังพิธีว่า มองขึ้นบนท้องฟ้า เห็นรัศมีขาวใสดุจประกายเงินประกายทองของเทพ พรหม ครูบาอาจารย์เต็มไปหมด และโปรยปรายประกายเงินประกายทองลงมาในพิธี
ขณะนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องว่า น้ำทองกระโดด จึงหันหลังกลับไปดูการเททอง นายสมบัติ ชัยยะ ซึ่งเป็นช่างเททองของโรงหล่อ ขุน-ชิน ลูกศิษย์สายตรงของอาจารย์ มาลี พัฒนากร ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่สายพระกริ่ง ขณะที่ช่างสมบัติ ชัยยะ กำลังตักน้ำทองออกจากเตาหลอมเพื่อเทลงในเบ้าพระกริ่ง น้ำทองโลหะที่กำลังละลายเป็นน้ำเหลวๆมีอุณหภูมีกว่า ๔,๕๐๐ องศา เกิดระเบิดขึ้นมาจากเบ้า แตกกระเด็นมาถูกเสื้องานกริ่งบรมครู ๓๒ สีขาว(ด้านหลังมียันต์๕) ตรงต้นแขนด้านขวา ความร้อนของโลหะที่ละลายเป็นน้ำถูกเสื้อขาดเป็นรู แทนที่น้ำทองร้อนๆจากโลหะจะเจาะทะลุเข้าไปโดนเนื้อจนถึงกระดูกแล้ว กลับไหลเป็นน้ำตกลงไปยังพื้นทรายเททองรองรับไว้ ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่เฝ้าชมการเททองนับร้อยๆคน จากนั้นต่างคนต่างวิ่งไปขอบูชาเสื้อตัวละ ๓๐๐ บาทซึ่งเหลือไม่กี่ตัวไปจนหมด ผู้ที่บูชาเสื้อไม่ได้ต่างขอบูชาต่อจากผู้ที่ได้ไป จนบางคนโก่งราคาถึงตัวละ ๑,๐๐๐ บาท ก็ยังมีผู้บูชาไป
ส่วน กัปตันมานิตย์ รุธีรยุทธ ซึ่งมีซิกเซ้นต์ มาร่วมงานกับคุณพิมพ์กานต์แฟนสาว บอกผู้เขียนก่อนเริ่มการเททองให้หาอาสนะไว้ที่หนึ่ง ปูรองด้วยใบตองและหญ้าคา เพราะหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านได้นิมนต์พระเถระผู้ใหญ่มาร่วมพิธด้วย กัปตันบอกว่าน่าจะเป็น สมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว ปรมาจารย์เจ้าของตำรับการสร้างพระกริ่ง หรือพระชัยฉลองพระเดชพระคุณที่ผมได้มาจากกุฏิสุนทรภู่ วัดเทพธิดาราม เรื่องที่เล่านี้เป็นความเชื่อของผู้ที่เคารพนับถือหลวงปู่ทิมที่มาร่วมงาน
การสร้าง พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ หรือ รุ่นทองกระโดด ครั้งนั้นจะสร้างแบบโบราณด้วยการเข้าหุ่นด้วยดินขึ้วัวหรือดินไทยแบบโบราณ โดยถอดแบบพระกริ่งชินบัญชร รุ่นแรกปี ๒๕๑๗ แล้วยังจะคงไว้ซึ่งของเก่าๆ สมัยหลวงปู่ทิม ยังมีชีวิตอยู่ และมอบให้ผู้เขียนไว้ โดยจะบรรจุผงอุดก้นด้วยมวลสาร
แต่เมื่อเสียงฆ้องตีบอกฤกษ์ดังขึ้น ท้องฟ้าซึ่งขณะนั้นพระอาทิตย์กำลังส่องแสงอันร้อนแรงเพราะปราศจากเมฆหมอกมาบดบัง พลันเมฆหมอกจากที่ไกลๆก็พากันเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ท้องฟ้าครึ้มลง มีร่มเงาเกิดขึ้น อากาศเย็นสบาย
www.mahalap34.com
มีหลายรายการเปิดวัดใจ เชิญชวนร่วมทำบุญ
http://www2.g-pra.com/auction/searchuser.php?strsearch=mahalap&type=0&cate=999 |
ราคาเปิดประมูล | 3,333 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 3,344 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 11 บาท |
วันเปิดประมูล | - 21 ม.ค. 2556 - 09:36:21 น. |
วันปิดประมูล | - 22 ม.ค. 2556 - 10:01:55 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | mahalap (5.1K)(1)
|