(0)
(177) พระกริ่ง - พระชัยวัฒน์ มังกรฟ้า ( พระกริ่งพิมพ์รอง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ) ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน สร้างน้อย หายากครับ ( มีจารทั้งพระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ )








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง(177) พระกริ่ง - พระชัยวัฒน์ มังกรฟ้า ( พระกริ่งพิมพ์รอง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ) ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน สร้างน้อย หายากครับ ( มีจารทั้งพระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ )
รายละเอียด(177) พระกริ่ง - พระชัยวัฒน์ มังกรฟ้า ( พระกริ่งพิมพ์รอง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ) ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน สร้างน้อย หายากครับ ( มีจารทั้งพระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์ ) พระกริ่งชุดนี้อยู่ในประเทศไทย จำนวนน้อยมาก หายากสุดๆ ส่วนใหญ่ไปอยู่กับลูกศิษย์ชาวต่างชาติเกือบหมด เก็บได้รีบเก็บน่ะครับหาไม่ได้อีกแล้ว

รายละเอียดการจัดสร้าง

พระกริ่งมังกรฟ้า ชุดนี้เป็นวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่พิศดูร่วมอธิษฐานจิตไว้ด้วยหลายวาระ จึงขออนุญาติยกมาแสดงไว้ในหน้ากระดานแห่งนี้ด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบในข้อมูล ที่สมควรนำเข้าบันทึกเอาไว้อย่างยิ่ง เพื่อการศึกษา.. ตามข้อมูลที่ผมพอทราบมา

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2549 จัดสร้างตามดำริของท่านครูบากฤษดา สุเมโธ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้สมทบทุนร่วมสร้างวิหารพระนอนและวิหารทานต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดง ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยท่านครูบาได้นำเอาชนวนมวลสารวัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านตั้งแต่การสร้างยุคแรกสมัยยังเป็นสามเณร(วิเศษ)จนถึงปัจจุบัน มาหลอมรวมในพระกริ่งมังกรฟ้านี้ ด้วยความปรารถนาที่จะให้ กระแสอานุภาพของวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างมารวมอยู่ในพระชุดนี้ทั้งหมด เรียกได้ว่าใส่องค์เดียวเหมือนมีวัตถุมงคลของท่านอยู่ด้วยทุกองค์ ทั้งยังได้ชนวนมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และจากครูบาอาจารย์ต่างๆอย่างคับคั่ง ทั่วทั้งแผ่นดินในหลายยุคสมัย ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะ จีน ธิเบตอันเป็นปฐมกำเนิดของตำนานพระกริ่ง ท่านได้รวมชนวนมวลสาร แร่ธาตุต่างๆทั้งหมด หล่อหลอมรวมอยู่ในพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าชุดนี้ล้วนๆ รวมทั้งประกอบพิธีหล่อหลอมชนวนทั้งหมดเป็นแท่งๆ และนำมาเสกตั้งธาตุปรับกระแสก่อน จึงนำมาเทเป็นองค์พระโดยกรรมวิธีเทหล่อแบบโบราณ โดยได้ควบคุมงานทุกอย่างด้วยองค์ท่านเองทั้งหมด
พระชุดนี้เดิมทีคณะศิษย์ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีเททอง คาดการกันว่ากระแสเนื้อขององค์พระจะต้องออกมาแบบวรรณะคล้ายเนื้อทองแดงหรือเนื้อนวะ แต่พอเทเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์แล้วกลับต้องแปลกใจไปตามกันหมด เนื่องจากกระแสเนื้อขององค์พระกลับออกเป็นสีทองอร่ามทุกองค์ มองเผินๆอาจคล้ายเนื้อทองเหลือง แต่หากสังเกตุดีๆแล้วจะทราบได้ชัดเลยว่าไม่ใช่..!! เพราะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พระชุดนี้กระแสนั้นออกคล้ายเนื้อทองมหาสัมฤทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า เนื้อทองสัมฤทธิ์ม้าฬ่อ (โล่โก๊ะแตก) ซึ่งเป็นเนื้อสูตรเดียวกันกับพระกริ่งจีนนอก สมัยราชวงศ์ถัง แต่จะแตกต่างกันตรงที่ว่า เนื้อของพระกริ่งมังกรฟ้าจะมีความแข็งแกร่งมีน้ำหนักมาก และมีวรรณะอยู่หลายกระแสนั่นเอง ตามที่ท่านครูบาท่านได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน " ให้พระกริ่งชุดนี้บังเกิดมีฉัพพรรณรังสี " ที่สำคัญที่สุดพระกริ่งมังกรฟ้านี้จะเกิดฉัพพรรณรังสีให้เห็นได้ตามผิวขององค์พระ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง

สำหรับวัตถุมงคลชุดนี้ได้ชื่อว่าพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าก็เนื่องมาจาก เป็นอีกสมญานามหนึ่งของท่านครูบากฤษดา ที่พระบูรพาจารย์และผู้ศรัทธาชาวจีน ฮ่องกง เรียกขานท่านในนามพระเถระมังกรฟ้า(เทียนหล่งซีฝู) และท่านก็ยังมีสำนักอยู่ที่ฮ่องกง ที่ลูกศิษย์รู้จักกันดีในชื่อ "สำนักมังกรฟ้า" เพราะฉะนั้นพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์รุ่นนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าเปรียบเสมือนองค์แทนของท่านครูบากฤษดา อีกนัยยะหนึ่งมังกรยังเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีบุญญาธิการสูง เช่นพระเจ้าจักรพรรดิ์ และมังกรฟ้ายังเป็นสิ่งคู่บารมีขององค์พระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้ที่ได้ก้าวล่วงเข้าสู่ความเป็นพระอริยะมหาโพธิสัตว์ขั้นปรมัตถบารมี(บารมีเต็ม) อาทิ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม พระมหาไภสัชยคุรุพุทธ เป็นต้น ซึ่งท่านเหล่านั้นล้วนแต่มีคุณสมบัติของพระมหาจักรพรรดิ์ทั้งสิ้น ก็อาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า พระกริ่งมังกรฟ้า เป็นพระกริ่งสมบัติมหาจักรพรรดิ์ หรือพระกริ่งมหาจักรพรรดิ์นั่นเอง

และพระกริ่งชุดนี้ท่านครูบายังได้ตั้งใจอธิษฐานจิตทุกวันยาวนานเป็นพิเศษกว่า 3 ปีเต็ม ในระหว่างนั้นเมื่อท่านมีกิจนิมนต์เข้าพิธีที่ไหนท่านก็จะนำไปร่วมพิธีนั้นๆด้วย เพื่อให้บังเกิดความหลากหลายในอิทธิมหาพุทธานุภาพอย่างเปี่ยมล้นเป็นที่สุด (จริงๆแล้วท่านครูบาเวลาเสกพระนั้นใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียวก็เกินพอแล้ว แต่ชุดนี้ตั้งใจทำให้พิเศษจริงๆ) และเวลาที่ท่านครูบามากราบเยี่ยมองค์หลวงปู่พิศดูที่วัดเทพธารทองท่านยังได้นำพระกริ่งชุดนี้ติดมาด้วยแทบทุกครั้ง เพื่อขอบารมีองค์หลวงปู่ร่วมอธิษฐานฝากกระแสเอาไว้ด้วยอีกหลายวาระ และเมื่อคราวที่วัดเทพธารทองได้จัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ท่านครูบาก็ยังได้นำพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า และล็อกเก็ตรุ่นพระธรรมธาตุ เข้าพิธีเปิดโลกธาตุมหาพุทธาภิเษก พร้อมกันในตลอดราตรีของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 อีกด้วย โดยมีองค์หลวงปู่พิศดูเป็นองค์ประธาน อัญเชิญบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยะสาวกทั้งหมดทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาล และเหล่าพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย มาร่วมกันอธิษฐานส่งพลังอานุภาพมหาบารมีธรรมครอบวัตถุมงคลทั้งหมดนี้ พร้อมด้วยท่านครูบากฤษดาเป็นผู้ร่วมสวดพุทธมนต์พระธัมจักรกัปปวัตตนสูตร พระบารมี 30 ทัศน์ และสวดพุทธมงคลคาถาสำคัญต่างๆ ซึ่งจะช่วยหนุนนำส่งเสริมกันกับองค์หลวงปู่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ในพิธีเปิดโลกธาตุมหาพุทธาภิเษกกระทำอย่างเรียบง่ายที่สุด แต่อลังการด้วยม่านพลังอย่างแน่นหนาที่สุด โดยหลวงปู่ท่านได้ตั้งสมาบัติอย่างเต็มกำลังตลอดพิธีการ และเป็นครั้งแรกที่องค์หลวงปู่ท่านได้ตั้งใจใช้สายสิญจน์ในการประกอบพิธีอธิษฐานจิต ราวกับเป็นการเชื่อมโยงสายใยแห่งสายธารธรรมคู่กับองค์ท่านครูบา

พุทธลักษณะของพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า มีอยู่ด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ
พิมพ์พระกริ่งใหญ่ มีลักษณะอิ่มเอิบสมบูรณ์ เหมาะมากสำหรับไว้แช่ในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ ขนาดความสูง 4.6 ซ.ม.

พระกริ่งพิมพ์รอง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ครับ องค์นี้สำหรับใช้บูชาติดตัว เพราะขนาดกำลังพอเหมาะ

ส่วนอีกพิมพ์หนึ่งเป็นพระชัยวัฒน์ ขนาดความสูง 1.4 ซ.ม. ขนาดองค์เล็กมากเหมาะสำหรับสุภาพสตรี เด็ก และผู้ที่ชอบพกพระชุดเล็ก
จำนวนสร้าง ทั้งหมด รวมกันทั้งสามพิมพ์เพียง 900 องค์เศษ

และเมื่อคราวที่วัดเทพธารทองได้สร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารีขององค์หลวงปู่พิศดู ท่านครูบากฤษดาก็ยังได้เมตตามอบชนวนพระกริ่งมังกรฟ้านี้ให้มาเป็นชนวนในการหล่อหลอมอีกด้วย..

เพราะฉะนั้น ชุดพระกริ่งมังกรฟ้า และชุดพระกริ่งธัมมะจารี จึงอาจกล่าวได้ว่าสุดยอดทุกประการไม่มีที่ติครับ องค์ครูบาอาจารย์ทั้งสองท่าน ในสายอรหันต์ปัจเจกภูมิและสายพุทธภูมิได้ ร่วมกันสรรค์สร้างสุดยอดศิริมงคลวัตถุที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งยุค ซึ่งยากยิ่งนักที่จะทำได้เป็นครั้งที่สอง ยังให้บังเกิดผลสูงสุดทั้งในทางโลกและทางธรรม มีคุณครอบจักวาล ด้วยอิทธิบารมีมหาพุทธานุภาพที่เปี่ยมล้น ปรากฏเป็นผลงานที่ดีที่สุด เป็นวัตถุสมบัติทางพระศาสนา เพื่อมวลมนุษยชาติไว้กราบไหว้บูชาสักการะหมายเป็นที่พึ่งทางกายและใจ กาลภายหน้านั้นจักหาได้ยากยิ่งนัก เพราะการสร้างผลงานเหล่านี้ ล้วนมีความหมายนัยยะซ่อนไว้เสมอ ผู้ที่มีวาสนาเท่านั้นจึงได้ทราบความก่อน ต่อไปก็จะปรากฏผลให้ได้ประจักษ์ทราบชัดโดยทั่วกันครับ



บรรยาการแห่งราตรีกาลในครั้งนั้น ดังจะขอหยิบยกข้อเขียนของพี่สุขโขทัย มาประกอบเพิ่มเติมข้อมูลครับ..

ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ ในพิธีนั้นมีพระกริ่งมังกรฟ้าอยู่ด้วย และอยากจะบอกว่าเป็นพิธีที่ทั้งหลวงปู่และครูบาต่างก็ยืนยันว่า พระอุปคุตเจ้ามหาเถร และพระมหาไภสัชยคุรุ ท่านก็มาประสิทธิ์ด้วยตนท่านเอง และมีหลายคนเห็นแสวงสว่างปกคลุมทั่ววัตถุมงคลในห้องหลวงปู่ อีกทั้งยังสาดส่องไปทั่วบริเวณ ขณะที่ฝนตกฟ้าคำรามดังกึกก้องกัมปนาททั่วเขาคิชฌกูฏ สอดแทรกด้วยเสียงสวดมนต์ธรรมจักรแบบธรรมล้านนา และความนิ่งสงบเยือกเย็นแฝงไปด้วยบารมีธรรมอันนุ่มลึกไหลลงสู่วัตถุมงคล จนวัตถุมงคลเต็มเปี่ยมด้วยคุณแห่งพระรัตนตรัย ตลอดจนคุณงามความดี บารมีธรรม ขององค์หลวงปู่ที่เป็นที่เคารพรักยิ่งเป็นที่สุด

ตั้งแต่ได้ลงข้อมูลประวัติการสร้างแต่พอสังเขป ก็มีผู้สอบถามผมมาหลายท่าน และแต่ละท่านก็อยากทราบข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามลงข้อมูลในสิ่งที่พอจะจำได้ เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบเพื่อกรณีศึกษาครับ..

รายละเอียดปลีกย่อยนั้น เท่าที่ทราบมา ชนวนมวลสารรุ่นนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนที่สุด ซึ่งถ้าจะให้กล่าวคงบรรยายไม่หมดแน่..เท่าที่พอจำได้ มีชนวนหลายอย่าง ที่เป็นของเก่าแก่ ทุกยุค หลายสมัย ซึ่งของบางอย่างเป็นสมบัติประจำตระกูลที่ตกทอดกันมา บางอย่างเป็นของสูงผู้ที่มีบารมีไม่พอไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ จึงมีผู้นำมาถวายให้กับท่านครูบากฤษดาเพื่อใช้ในการสร้างวัตถุมงคล ประกอบกับชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากวัดต่างๆที่โด่งดัง อาทิ เหรียญพระคณาจารย์ทั้งเก่า-ใหม่รวมทั้งเหรียญองค์เทพเหรียญยันต์ต่างๆ ทั้งไทย จีน อินเดีย ธิเบต ฯลฯ นับหมื่นๆเหรียญ เรียกได้ว่าวัดไหนมีเกจิอาจารย์ หรือมีการสร้างวัตถุมงคลขลัง ก็นำมาใส่ลงไปในวัตถุมงคลชุดมังกรฟ้านี้ทั้งหมดไม่มียั้ง ซึ่งเหรียญพระคณาจารย์บางเหรียญ หากนับราคาเล่นหากันในปัจจุบัน ราคาเรือนแสนก็มี อาทิ เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , ครูบาเจ้าศรีวิชัย...ฯลฯ รวมทั้งแผ่นชนวนโลหะ ตะกรุด ที่ท่านครูบาได้สะสมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งที่มีลูกศิษย์นำมาถวาย และที่ท่านครูบาได้จารสะสมและเสกเอาไว้แบบว่ารวมสรรพวิชาที่ได้ศึกษาเอาไว้ทั้งหมดเลยรวมกันแล้วนับหลายพันแผ่น เหล็กยอดพระมหาธาตุเจดีย์เก่าแก่ แผ่นทองจังโก้หุ้มพระธาตุทางภาคเหนือหลายที่ ตะปูสังฆวานร ชิ้นส่วนพระพุทธรูป พระบูชา พระกรุสมัยต่างๆ และแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายหลายอย่าง... ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่อาจประเมินคุณค่าได้เลย

เคยสอบถามท่านครูบาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการสร้าง เสกวัตถุมงคลว่า การที่ได้นำเอาชนวนมวลสารต่างๆมากมายหลายสำนักมาหล่อหลอมรวมกัน จะทำให้พลังสับสนปนเปกันหรือไม่ อย่างไร?? ท่านครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านเมตตาตอบว่า.. การที่นำชนวนมวลสารมาใส่รวมไว้ ณ ที่เดียวกันนั้น จริงๆแล้วถือเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะจะได้ความหลากหลายในกระแสพลังจากเหล่าครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เสมือนหนึ่งรวมกำลังอิทธิจิตของท่านเหล่านั้นไว้เป็นหนึ่ง แต่ผู้ที่ทำการเสกนั้นต้องเก่งจริงและสำเร็จเรื่องธาตุ(กสิณ) จึงจะสามารถปรับกระแสพลังทั้งหมดให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการนั้นๆได้ หรือที่เรียกว่าการ ตั้งธาตุ หนุนธาตุ เพราะธาตุหรือกสิณนั้นเป็นปัจจัยให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ต่างๆ ส่วนมากพระโพธิสัตว์เจ้าที่ทรงบารมีสูงๆจะกระทำได้ เพราะท่านเป็นผู้ที่ต้องศึกษา(มาหลายภพชาติ)เพื่อเป็นบรมเอกครูของโลก ยิ่งได้รับการปลุกเสกจากผู้รู้จริงมีพลังจิตแก่กล้าและถ้าท่านได้อริยะสมบัติด้วยแล้ว ของนั้นจะเป็นของกายสิทธิ์ ถึงกับสามารถล่องหนไป-มาได้คล้ายกับพระธาตุเสด็จนั้นเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถอำนวยผลให้บังเกิดความเป็นศิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ผู้บูชา และที่สำคัญไม่มีเสื่อมถึงแม้ว่าจะตกไปอยู่ในที่อันเสื่อมทรามเพียงไรก็ตาม ของนั้นก็ยังมีคุณานุภาพดังเดิม ดุจดังทองคำบริสุทธิ์ ที่แม้ว่าจะอยู่ ณ สถานอันใดก็ยังคงความ สุก สดใส สิ่งมลทินทั้งปวงก็ไม่อาจจะกระทำความเศร้าหมองแก่ทองบริสุทธิ์นั้นได้เลย(ทองคำเป็นธาตุโลหะที่ไม่เป็นสนิม)

ผมเองยังจำภาพเหตุการณ์ที่ท่านครูบากฤษดาได้นำพระกริ่งมังกรฟ้านี้มาถวายให้องค์หลวงปู่เพื่อเป็นที่ระลึก พอองค์หลวงปู่ได้รับพระกริ่งนั้นมาแล้ว หลวงปู่ท่านได้กำพระกริ่งนั้นไว้ในมือนานมาก แล้วท่านก็นอนจำวัดหลับไปเลย ตื่นมาอีกทีก็ยังกำพระนั้นไว้อยู่ ดูท่านชอบเป็นพิเศษ ท่านครูบาบอกว่า "หลวงปู่ท่านใช้พระกริ่งมังกรฟ้าปรับธาตุขันธ์ร่างกายของท่าน"
เพราะฉะนั้นพระกริ่งมังกรฟ้านี้ ย่อมมีอานุภาพเด่นอีกเรื่องหนึ่งก็คือ สามารถใช้ปรับธาตุในร่างกายได้(อย่างที่องค์หลวงปู่ท่านทำ) นอกจากจะปรับธาตุขันธ์ได้แล้ว ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการใช้เจริญพระกรรมฐานให้จิตสงบ สะอาด สูงยิ่งๆขึ้นได้ดีอีกด้วย เพราะพระชุดนี้เป็นของสูงมาก โดยได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เป็นพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญ และพระอริยะโพธิสัตว์มากล้นด้วยมหาบารมีที่ได้บำเพ็ญธรรมเพื่อความบรรลุพระโพธิญาณ อีกทั้งยังใช้เป็นสื่อถึงครูบาอาจารย์ต่างๆทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต คล้ายกับเป็นเครื่องมือหรือสะพานให้มีโอกาสได้พบพระอริยะเจ้าผู้ทรงคุณธรรมองค์ต่อๆไปได้อีกด้วย หากได้บูชาด้วยความเคารพยิ่งแล้ว จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตไม่ขาดสายเลย อธิษฐานได้ดังแก้วมณีสารพัดนึก มีคุณครอบจักรวาล ท่านครูบาท่านบอกว่า.. กาลข้างหน้าจะได้พึ่งพาอาศัย จะปรากฏผลให้ได้ประจักษ์ทราบชัดโดยทั่วกัน ต่อไปพลิกแผ่นดินหาก็ไม่มี
ราคาเปิดประมูล25,177 บาท
ราคาปัจจุบัน25,277 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 06 ส.ค. 2555 - 22:37:32 น.
วันปิดประมูล - 15 ส.ค. 2555 - 18:36:24 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsabd11 (3.4K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 06 ส.ค. 2555 - 22:38:06 น.



รูปพระชัยวัฒน์


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 06 ส.ค. 2555 - 22:38:27 น.



รูปพระชัยวัฒน์


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 06 ส.ค. 2555 - 22:38:42 น.



รูปพระชัยวัฒน์


 
ราคาปัจจุบัน :     25,277 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    gleaa (116)

 

Copyright ©G-PRA.COM