วันนี้ผมจะนำเรื่องราวเกี่ยวกับ
สีผึ้งต่างๆ จากอาจารย์เพียรวิทย์มาถ่ายทอดให้ฟังกันนะครับ
เมื่อสมัยที่วัดท่าเรือ อ.แกลง จ.ระยอง ได้ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลงานนี้ได้นิมนต์
หลวงปู่ทาบ และ หลวงปู่ทิม มาด้วย อิอิ...ตาโตกันเลยนะครับเพื่อนสมาชิกหนุ่มๆ ทั้งหลายใน
บ้านทิมภิรัตแห่งนี้ สำหรับหลวงพ่อทาบนั้น ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดกระบก ท่านมีวิชาดีเกี่ยวกับสีผึ้ง
ที่บรรดาหนุ่มหรือแก่ต่างอยากได้กันมาก โดยเฉพาะสีผึ้งสีเขียว เราๆ ท่านๆ ต่างก็รู้ใช่ไม๊ครับ อิอิ
เขาว่ากันว่า สีผึ้งสีเขียวนี้ถ้านำไปป้ายผู้หญิงต้องได้เป็นเมียทันที ซึ่งอาจารย์เล่าให้ฟังว่าเห็นจริง
จากลูกศิษย์หลวงพ่อทาบคนหนึ่งชื่อ พี่โยชน์ อยู่จันทบุรี อายุมากแล้วและก็มีเมียหลายคนด้วย
แต่เมียแต่ละคนต่างอยู่ร่วมกันในบ้านเดียวกันอย่างดีไม่ทะเลาะกัน ทราบว่ามีสีผึ้งหลวงพ่อทาบและ
แกก็หวงมากใครไปขอก็ไม่ให้
อาจารย์เล่าให้ฟังว่า หลังจากพิธีปลุกเสกงานดังกล่าวเสร็จแล้ว หลวงปู่ทิม และ
หลวงปู่ทาบก็นั่งสนทนากัน หลวงปู่ทิมได้ถามหลวงปู่ทาบว่า ท่านพี่ วิชาทำสีผึ้งมีวิธีทำและปลุกเสก
ด้วยคาถาบทไหน หลวงปู่ทาบบอกว่า อย่าให้ฉันเอามะพร้าวไปขายสวนเลย ท่านทำเป็นอยู่แล้วนี่
กล่าวจบหลวงปู่ทาบก็หยิบตลับเนื้อทองเหลืองฝาบาตรในย่ามท่านส่งให้หลวงปู่ทิมทั้งตลับ ซึ่งสีผึ้ง
ตลับนี้หลวงปู่ทิมได้มอบให้อาจารย์อีกทีและสั่งว่าอย่าให้ใครจะเข้าตัว แต่อาจารย์บอกว่าสีผึ้งตลับนี้
น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าบางปีสีผึ้งในตลับนี้จะงอกเต็มไปหมด บางปีก็เท่าเดิม อาจารย์
ได้ให้เพื่อนๆ ที่ขาดเมียนำไปใช้ก็เห็นว่าสมหวังกันทุกคน หลังๆ เพื่อนๆ มาขออยู่เรื่อยๆ อาจารย์
เลยเริ่มกลัวบาปกลัวกรรม ใจคอไม่ดีกะว่าจะเอาไปทิ้งทะเลจะได้ไม่เป็นภัยกับผู้หญิงต่อไป
(เดี๋ยวผมมีโอกาสจะถามมาให้นะครับว่า ท่านเอาไปทิ้งทะเลจริงไหม)
เพื่อนๆ คงจำได้ วิชาสีผึ้งนี้ หลวงปู่ทิมได้ไปเรียนกับฆราวาสสาย ที่บ้านส้อง จ.ปราจีนบุรี
ซึ่งสีผึ้งที่ท่านทำมี ๓ ชนิด
๑. สีผึ้งออกสีเขียวค่อนข้างดำ ใช้ดีทางผู้หญิง ท่านจะไม่ยอมให้ใครง่ายๆ
๒. สีผึ้งจะออกเหลืองแก่น้ำมัน ใช้ทางเมตตา มหานิยม เจรจาค้าขาย ติดต่อการงาน
๓. ชนิดนี้ท่านจะไม่ค่อยทำครับ เพราะส่วนผสมคือน้ำมันจากคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร
เฮี้ยนครับ หลวงปู่เคยใช้หลวงตาพูน (อดีตสัปเหร่อเก่า) นำสีผึ้งปิดปากผี ให้หลวงตาพูนไปหุงทีทาง
๓ แพร่ง โดยไม่ต้องจุดไฟหุงครับ โดยเอาขันใส่สีผึ้งปิดปากผีพร้อมฟืน ๓ ท่อนมาวางที่ทาง ๓ แพร่ง
เตรียมเครื่องเซ่นปลาพร่าปลายำ แล้วเรียกผีผู้ตายมากินเครื่องเซ่น แล้วเอาขันใส่สีผึ้งวาง
บนไม้ฟืน และกล่าวว่า เมื่อเอ็งกินอิ่มแล้วช่วยหุงสีผึ้งนี้ให้ด้วย พรุ่งนี้ข้าจะมาเอา แล้วก็รีบเดินไป
ข้างหน้าโดยไม่เหลียวหลังมามอง พอพรุ่งนี้เช้าไปดูจะเห็นสีผึ้งหุงสำเร็จโดยที่ไม้ฟืนยังอยู่เหมือนเดิม
อาจารย์เคยได้รับมาจากหลวงตาพูนตลับหนึ่งเคยอาราธนาพกติดตัวแล้วปรากฏว่าไม่มีใครทัก ได้ทราบ
ภายหลังจากเพื่อนๆ ว่าเห็นมีผู้หญิงสาวเดินตามแต่หน้าตาดูน่ากลัวเหลือเกินเป็นใครเหรอ จนอาจารย์
นึกเสียวสันหลังไปเลย
ทีนี่ผมจะมาเล่าการทำสีผึ้งของหลวงปู่ทิม ที่เรียนจากฆราวาสสายนะครับ วิชาสีผึ้งนี้มี
อำนาจเมตตาสูงมากครับ อาจารย์เพียรวิทย์เล่าว่า ฆราวาสสายได้ให้หลวงปู่เตรียม ดอกไม้ธูปเทียน,
ผ้าขาว ๑ เมตร, เงินค่าครู ๑๒ บาท ขนมต้มขาวขนมต้มแดง ฆราวาสสายได้สอนหลวงปู่ทิมอย่างมีขั้น
ตอน โดยเอา รังผึ้งร้าง, ขี้ผึ้งที่ซื้อมาจากสาวพรหมจารี มาฝานเป็นแผ่นบางๆ นำไปใส่ในขันสำริด ภาย
ในขันได้ลงยันต์ แล้วเติมน้ำมันน้ำมันหอม, น้ำมันมะพร้าวแท้ๆ ลงไป คนด้วยไม้พายที่ทำมาจากไม้รัก
ซ้อนหรือไม่ก็ไม้สาวหลง ผสมกันให้ดี เวลากวนให้ภาวนาคาถา
สัพเพชะนา พะหูชะนา ยะธาพุทโมนะ ธาพุทโมนะยะ พุทโมนะยะทา โมนะยะทาพุท
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ อะหังยาจามิ
ภาวนาไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าเข้ากันดีแล้วนำสีผึ้งไปตากแดด กะให้พระอาทิตย์อยู่ตรงหัว
พอดี เอาสายสิญจน์ขึงทั้ง ๔ มุม แล้วนั่งทำจิตให้นิ่งปลุกเสกด้วยคาถาด้วยใจให้เป็นสมาธิดังนี้
พระมารดาค้ำชู พระบิดาอุปถัมป์ พระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจาร พระอนุสาวนาจารย์
เป็นกำแพง ๗ ชั้น มากันโภคภัยอันตรายอุปัทวะทั้งหลาย มิให้เข้ามากร้ำกราย สัพพะรัตติงทิวัง
พุธธะนะเมตตา ธัมมังโมกรุณา สังฆังปราณี ยินดีเอ็นดู สัพพะรัตติงทิวัง พุธโธเม อัมหากังปการัง
ธัมโมเมอังหากังปการัง สังโฆเมอัมหากังปการัง สิทธิพุธธาชะนาจิตตัง สิทธิธัมมา ชะนาจิตตัง
สิทธิสังฆังชะนาจิตตังสิทธิเทวาชะนาจิตตัง สิทธิอินทราชะนาจิตตัง สิทธิพรหมมาชะนาจิตตัง
สิทธิอิสระราชะนาจิตตัง สิทธินารายณ์ชะนาจิตตัง สิทธินาคะชะนาจิตตัง สิทธิราชาชะนาจิตตัง
พุธธังสิทธิชะนาจิตตัง ธัมมังสิทธิชะนาจิตตัง สังฆังสิทธิชะนาจิตตัง สัพเพชะนา พะหูชะนา
โอมพะลังวา ราชกุมาโรวา ราชกุมารีวา อิตถีวา ปุริโสวา สมโณวา พรหมมะเถวา
โอมจิตตัง จิตตัง เอหิเอหิ สัพพะชัยยะ สิทธิสวาหะ สวาโหม
เมื่อภาวนาปลุกได้ที่แล้วจะเห็นเป็นนิมิตที่ดี ใจนิ่งจิตมั่น สีผึ้งนี้ก็ใช้ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควร
ปลุกเสก ๗ วันหรือ ๙ วัน เมื่อหลวงปู่รู้เคล็ดวิชาแล้วก็เดินทางไปทดสอบกับคณาจารย์ท่านอื่น อาทิ
หลวงพ่อโด่, หลวงพ่อโสม, หลวงพ่อปี่ ฯลฯ เพื่อดูว่าวิชาที่ท่านเรียนมานี้เป็นอย่างไร หลวงปู่ได้เล่าให้
อาจารย์ฟังว่า การจะทำอะไรถ้าจะให้มันแน่เห็นผลเร็วต้องเข้าผี มันถึงจะดี
เป็นไงครับ เคล็ดวิชาการทำสีผึ้งของฆราวาสสายที่สอนให้กับหลวงปู่ทิม ละเอียดขนาดนี้อาจารย์เพียรวิทย์ท่านได้ถ่ายทอดอย่างไม่หวงความรู้เลยนะครับ หวังว่าคงทำให้เพื่อนๆ ในบ้านทิมภิรัตคงเข้าใจมากขึ้นกันนะครับ |
|
