พระขุนแผนผงพรายกุมาร "รุ่นสากหัก" แต่คนมักจะนิยมเรียกว่า "พระขุนแผนสากหัก" จัดสร้างปี 2546 จัดสร้างในนามมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ.วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตามคำชักชวนของลุงแมง(หนึ่งในศิษย์ผู้รับใช้ใกล้ชิดลป.ทิม และเป็นผู้กดพิมพ์พระขุนแผนผงพรายกุมารฯ ในยุคนั้น) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2546 เพื่อนำเงินที่ได้สมทบทุนสร้างศาลาอเนกประสงค์ ชื่อ "ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ" แบ่งออกเป็นพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กคราวนี้เราจะมาลงรายละเอียดถึงประวัติการสร้างกันครับ สำหรับชื่อ รุ่นสากหัก นั้นมาจากการที่ขณะตำผงครกแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2546 พอผงกำลังเข้าที่พร้อมจะนำมากดพิมพ์ได้สากหินที่กำลังใช้ตำผงนั้นเกิดหักกลางอย่างมหัศจรรย์ทันทีมีผู้เห็นกันหลายคน ผงพรายกุมารที่ใช้ทำพระขุนแผนรุ่นนี้ได้มาจากบรรดาศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม ซึ่งต่างเก็บไว้คนละเล็กคนละน้อยเพราะทุกคนรู้ดีว่าผงพรายกุมาร ของ หลวงปู่ทิม อาจารย์ของพวกตนนั้นเป็นผงที่หาผู้ทำให้ขลังและศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ นั้นหายากมาก แต่หลวงปู่ทิมท่านก็ทำสำเร็จจนพระขุนแผนผงพรายของท่านโด่งดังไม่แพ้พระขุนแผนเก่าๆที่ขุดออกมาจากกรุทั้งในด้านราคาและความศักดิ์สิทธิ์ พระขุนแผนสากหัก ถอดแบบจากเค้าโครงเดิมของพระขุนแผนรุ่นแรกของหลวงปู่ทิม แต่มีการแต่งพิมพ์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก แบ่งตามวรรณะของสีเนื้อออกเป็น 3 สี คือ สีขาว สีแดง และสีดำ โดยพิมพ์ใหญ่สร้าง 5,556 องค์ พิมพ์เล็กสร้าง 6,996 องค์ โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่นั้นแบ่งออกเป็นสองแบบใหญ่คือแบบฝังตะกรุด และแบบไม่ฝังตะกรุด เฉพาะแบบฝังตะกรุดจะสามารถแบ่งแยกตามตัวตะกรุดออกได้ดังนี้ - พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองคำ 96 องค์ - พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดเงิน 256 องค์ - พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองแดง 356 องค์ นอกนั้นจะฝังอย่างอื่นแทน เช่น พลอยเสก (ปกติ) พระขุนพลจิ๋ว (พิเศษ) เป็นต้น แต่ในส่วนของพิมพ์เล็กไม่ได้ฝังตะกรุดและพลอยเสก จึงทำให้การเล่นหาไม่สับสนครับ ในเรื่องการอธิษฐานจิตนั้นได้รับการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระครูธรรมรังษี(หลวงปู่ธรรมรังษี ) วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ แล้วยังได้นำพระชุดนี้ทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากการแจกผู้ร่วมงานทอดกฐินในวันดังกล่าวแล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่วัดละหารไร่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 อีกวาระหนึ่ง เพื่อให้พระเกจิฯผู้ทรงคุณประจุพลังพุทธาคมให้เพิ่มขึ้นอีก โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม นั่งปรกปลุกเสก คุมทิศทั้งสี่ มีดังนี้ 1.หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ พระผู้ทรงอภิญญาแห่งเมืองอีสานใต้ 2.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำบางปะกง 3.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยอง 4.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง พระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกรูปเดียวของหลวงปู่ทิม อิสริโก ขณะนี้ขุนแผนสากหักได้รับความนิยมมากและราคาก็ทำท่าจะไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะรุ่นสากหักนี้เป็นขุนแผนรุ่นที่ใส่ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมลงไปมากที่สุด องค์นี้แก่ผงพรายครับ เพราะออกจากมูลนิธิที่เก็บเอาไว้ กดพิมพ์กันเอง เอาไว้ใช้เอง เลยใส่ผงพรายกันแบบไม่อั้นครับ *ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลจากเพื่อนสมาชิกครับ |
|