| ชื่อพระเครื่อง | พระขุนแผนพรายอุดมโชค พระครูปืน วัดลาดชะโด อยุธยา |
| รายละเอียด | ขุนแผนพรายอุดมโชค
เคล็ดวิชา ผงพรายกระซิบ
ต้องบอกตรงๆว่า หลังจากที่อาจารย์ได้ชวนไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ พรายกระซิบ ก็รู้สึกฉงนใจตลอดว่ามันคืออะไร เพราะไม่เคยได้ยินวิชานี้จริงๆ หลังจากทำบุญเสร็จมีโอกาสจึงได้ถามว่า อาจารย์ พรายกระซิบ คืออะไร ท่านตอบว่า เป็นวิชาทำผงพราย จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้ซักไซ้ไล่เลียงด้วยความอยากรู้ สรุปได้ว่า
วิชานี้อาจารย์เรียนมาจากหลวงตาเล็ก สมัยอยู่ที่วัดชัยพฤกษ์มาลา กรุงเทพฯ ในตำราบอกว่าเป็นวิชาของท่านอาจารย์ชม (ตำราบอกไว้แค่นั้น)
ในตำรากล่าวไว้ว่า ให้นำหัวกระโหลกผีตายพรายมา แล้วเซ่นสรวงให้ดีเสียก่อน จากนั้นนำแป้งหอมพอกหัวกระโหลกนั้น แล้วขูดผงแป้งออกนำมาใส่ถ้วยเสกด้วยคาถาหัวใจผีดิบ เมื่อเวลาอยากรู้เรื่องอะไร อยากให้ช่วยเรื่องอะไร ให้ยกถ้วยขึ้นถามแล้วแนบหูฟัง อีกทั้งยังช่วยคอยเตือนถึงเหตุเภทภัยที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ ให้คอยระมัดระวังรักษาตัวให้ดี
ข้าพเจ้าฟังแล้วก็ได้แต่คิดตามว่า เป็นวิชาที่แปลกประหลาดพิศดารมาก จึงได้ถามต่อไปว่า แล้วทีนี้อาจารย์จะนำหัวกระโหลกผีพรายมาจากไหน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า
สมัยที่พระครูวิมลโชติวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดฤาไชย มีพวกนักดำน้ำล่าสมบัติที่ตกในแม่น้ำ ดำได้หัวกระโหลกมาหลายหัว ไม่รู้จะทำอะไร จึงนำมาขายให้ท่าน ท่านก็ซื้อไว้ทั้งหมด เมื่อท่านมรณภาพไป ก็ไม่มีใครรักษาไว้ จึงนำมารักษาไว้ เห็นว่าอยู่เฉยๆคงไม่ได้กุศลอะไร ใครเห็นก็จะรังเกียจบ้าง เกรงกลัวบ้าง จึงได้บอกกล่าวท่านพรายทั้งหลายได้มาร่วมทำบุญ ทำกุศลด้วยกัน เมื่อไปช่วยเหลือคนสำเร็จสมปรารถนาแล้ว เขาก็จะได้ทำบุญให้
ข้าพเจ้าฟังแล้วก็ได้แต่ว่า สาธุ เป็นบุญของพรายทั้งหลายแล้ว ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา กฏการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ หากวิญญาณตนใดตายพราย ไม่ได้ถึงเวลาไปเกิด ไม่มีบุญกุศลก็เร่ร่อนหิวโหย บางตนมีฤทธิ์มาก ก็คอยแกล้งผู้คนให้เดือดร้อน เป็นบาปเป็นกรรมไม่รู้จักจบสิ้น ไม่ได้ไปผุดไปเกิด หากแต่ว่าการช่วยเหลือคนในครั้งนี้เป็นไปด้วยกุศลเจตนา ทั้งอาจารย์ยังได้นำปัจจัยที่ทุกท่านร่วมบูชาวัตถุมงคลครั้งนี้ไปทำกุศลสาธารณะ ให้พรายทั้งหลายได้สร้างกุศล
หากท่านทั้งหลายประสบผลสำเร็จตามเจตนา อย่าลืมทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน กรวดน้ำอุทิศให้พรายทั้งหลายด้วย หากพรายทั้งหลายจะทรงฤทธิ์มหิทธานุภาพเพราะบุญที่กระทำถึง และยังไม่ได้ไปเกิดในภพภูมิของตนตามกาลเวลา ก็คงจักช่วยท่านทั้งหลายที่บูชาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ผงพรายกุมาร
หากจะกล่าวถึงตำนานพรายกุมารอันลือลั่น คงหนีไม่พ้น ผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง เรื่องกรรมวิธีคงไม่ต้องพูดถึงมากมาย แต่ที่แน่ๆพระเครื่องของหลวงปู่ทิมนั้น ถูกลอกเลียนแบบมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้
วัตถุมงคลต่างๆของหลวงปู่ทิมนั้น อาจารย์เพียรวิทย์ ผู้เป็นลูกศิษย์ดูแลปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ตลอดชีวิตบอกไว้ว่า หลวงปู่นั้น ท่านพิถีพิถันในการทำวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหามวลสาร การพลี จนนำมาเป็นมวลสารต้องถูกต้องตามตำรา กล่าวกันว่าในขณะที่ตำมวลสารอยู่นั้น ไฟลุกครกเลยก็มี จนลูกศิษย์ต้องอาราธนาหลวงปู่ทำน้ำมนต์เพื่อดับไฟที่ลุกขึ้น และเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ที่อาจารย์เพียรวิทย์ได้ประสบพบเห็นทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงปู่
หลังจากที่หลวงปู่มรณภาพลง อาจารย์เพียรวิทย์เป็นผู้รวบรวมผงทั้งหมด ตลอดจนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ไว้ ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่าผงพรายกุมาร และผงพุทธคุณต่างๆของหลวงปู่ เป็นของรักของหวงของท่านอาจารย์เพียรวิทย์มาก เพราะเป็นผงที่เหลือจากการทำพระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่นชุดนั้น โดยหลวงปู่ทิมเป็นผู้ผสมเอง ปัจจุบันรวบรวมจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ จ.ชลบุรี สามารถเข้าไปชมกันได้
หลังจากที่ท่านอาจารย์เพียรวิทย์ได้ทราบว่าอาจารย์พระครูปืนจะสร้างวัตถุมงคลเพื่อสาธารณประโยชน์ จึงปวารณาถวายผงพรายกุมารและผงพุทธคุณต่างๆ เพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ด้วย ให้เกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ สามารถช่วยเหลือผู้บูชาได้
อีกประการหนึ่ง อาจารย์เพชร สำนักพ่อครูหมอเฒ่า ผู้สืบสายวิชาเขาอ้อ ยังได้ถวายผงต่างๆตามฉบับเขาอ้ออีกด้วย
นับได้ว่าวัตถุมงคลชุดนี้ สร้างตามรอยครู ตามตำรับตำราแบบแผนที่วางไว้ อนึ่ง หากบุญกุศลใดๆที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขอน้อมถวายกุศลนั้นแด่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผู้เป็นบูรพาจารย์แห่งบูรพาทิศ ตลอดจนพรายกุมารทั้งหลาย ที่ได้ร่วมกันสร้างบุญกุศลในครั้งนี้ |
| ราคาเปิดประมูล | 50 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 04 ธ.ค. 2566 - 01:52:47 น. |
| วันปิดประมูล | - 06 ธ.ค. 2566 - 18:23:41 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | keetee (197)    
|
