| ชื่อพระเครื่อง | พระผงจตุคามรามเทพ กลมใหญ่สีชมพูโอโรส รุ่น ๒ ปี ๒๕๔๘ |
| รายละเอียด | พระผงสุริยัน ปี 2548 สีชมพู เนื่องจากมีข้อสงสัย และมีการสอบถามกันมาก ในเรื่องของพระผงสุริยัน จันทรา พิมพ์ใหญ่ ที่สร้างในปี 2548 มีพระอยู่จำนวนหนึ่งเป็นสีชมพูอมส้ม ถูกบรรจุกระจายอยู่ในกล่อง พระสุริยันสีขาว และเป็นที่เสาะหาของผู้ที่ได้สั่งจองพระชุดนี้ โดยไม่ทราบว่าพระสีนี้ มีความเป็นมา และมีความพิเศษอย่างไร ทราบแต่เพียงว่า สีสวย แปลก มีสีเหมือนพระนำฤกษ์ รุ่น ปี 30 และมีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนพระทั้งหมด ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีสาระ และมีความพิเศษ นอกจากมองด้วยตาจากภายนอกแล้ว ยังมีความพิเศษที่อยู่ภายในเนื้อพระด้วย จึงขอนำรายละเอียดมาบรรจุไว้ ใน " มุมวิชาการ " อีกเรื่องหนึ่ง ในเบื้องต้น ไม่มีใครทราบว่า พระชุดนี้มีความเป็นมาอย่างไร แม้กระทั้งคณะกรรมการจัดสร้าง ก็มาทราบในภายหลัง จากผู้สั่งจองพระชุดสุริยัน ปี 2548 ที่มาเล่าให้ฟังว่า มีพระผงสุริยันสีชมพู อมส้ม ปะปนแทรกอยู่ในกล่องพระสุริยันสีขาว จำนวนหนึ่ง และได้เกิดปรากฎการณ์อย่างหนึ่งขึ้น นั่นคือ ผู้ที่ได้สั่งจองพระชุดนี้ ต่างพากันลุ้น ในการเปิดกล่องพระสุริยันสีขาว เพื่อที่จะได้พบพระสีชมพู อมส้ม ซึ่งต่อมาบางคนเรียกว่า สีโอลด์โรส ผู้สั่งจอง หรือ ซื้อพระต่อจากคนอื่น แบบยกกล่อง บางคนถึงกับไม่ยอมรับพระทีถูกแกะกล่องแล้ว เพราะเขาบอกว่า ต้องการลุ้น เผื่อฟลุค ได้พระสีชมพูอมส้ม ดังกล่าว เมื่อเวลาผ่านไป นานพอสมควร เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่สงสัยว่า พระชุดนี้เกิดเป็นสีแปลกกว่าเนื้อสีขาวธรรมดา ได้อย่างไร จึงได้มีการสอบถามเพื่อหาข้อเท็จจริง จากผู้รับจัดทำพระชุดนี้ อย่างจริงจัง จึงได้ทราบว่า ในการผสมเนื้อพระครั้งแรก เจ้าหน้าที่ได้ผสมผงที่ทางคุณสมชาติ มอบให้ ลงไปจำนวนมาก ในจำนวนผงต่าง ๆ นั้น มีอยู่ 1 ถุง ที่เป็นผงสีแดง ได้ใส่ลงไปจนเกือบหมดถุง ซึ่งในถุงดังกล่าว คุณสมชาติ บอกว่า ประกอบไปด้วย 1. พระผงพระพุทธสิหิงค์ สีแดง ปี 30 จำนวน 30 กว่าองค์ 2. พระผงสุริยัน จันทรา ปี 30 พิมพ์ใหญ่ เนื้อขาว จำนวน 5 องค์ 3. พระผงสุริยัน จันทรา ปี 30 เนื้อว่าน จำนวน 1 องค์ ทั้งหมดนำไปบดเป็นผงจนละเอียดเป็นแป้ง แล้วผสมลงไปในถุงเดียวกัน เนื่องจากมีพระพุทธสิหิงค์สีแดง จำนวนมาก จึงทำให้ผงออกเป็นสีแดง และเมื่อถูกน้ำ ในการผสมกับผงปูน สีก็จะเจือจางออกเป็นสีชมพู ประกอบกับผงดอกไม้ จึงทำให้กลายเป็นสีชมพู อมส้ม เนื้อพระชุดนี้ กดพิมพ์พระออกมาได้ จำนวน 300 กว่าองค์ ผู้รับทำพระชุดนี้ บอกว่า เขาจำได้แม่นยำว่า สีของพระไม่เป็นไปตามที่สั่ง คือสีขาว จึงได้แยกพระชุดนี้ออกไว้ต่างหาก ต่อมาภายหลังเห็นว่า ไหน ๆ ก็พิมพ์ออกมาเป็นองค์พระแล้ว จะทิ้งไปก็เสียดาย และก็รู้อยู่ว่า ประกอบไปด้วยผงวิเศษอย่างมากมาย จึงได้บรรจุแทรกไปในกล่องพระเนื้อขาว มากบ้าง น้อยบ้าง ในแต่ละกล่อง ใครโชคดีก็ได้ไป เพราะฉนั้น ผู้ที่เสาะหาพระชุดนี้จากกล่อง จึงไม่ได้ทำไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าจะไม่รู้ถึงความเป็นมาก็ตาม เพราะถ้าได้ ก็คือได้พระที่มีผง ปี 30 แบบเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีทั้งเนื้อของพระพุทธสิหิงค์ และ พระผงสุริยัน ปี 30 รวมกัน เหมือนกับมีองค์เดียว ได้ถึง 3 คือ พระพุทธสิหิงค์ 30 พระผงสุริยัน 30 และพระผงสุริยันรุ่น 2 ปี 48 เรื่องที่ตามมาก็คือ ผงเหลือน้อย ทางผู้จัดทำจึงขอมาอีก ทางคุณสมชาติ จึงได้จัดเพิ่มเติมไปให้ ต่อมาการผสมเนื้อพระ จึงต้องใช้วิธีตวงให้เฉลี่ยกันไป จึงสามารถแน่ใจได้ว่า พระชุดนี้มีส่วนผสมของผงวิเศษ ทุกองค์ ยังมีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมคุณสมชาติ ถึงได้ใจถึง ขนาดนี้ ที่ยอมเสียสละพระรุ่นเก่าที่มีราคาแพง ให้ผสมลงไปในการสร้างพระจำนวนมาก เรื่องนี้ต้องยอมรับว่า คุณสมชาติ ใจถึงจริง ๆ ไม่เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น แต่มอบของดีให้ผสมในการสร้างพระทุกรุ่น โดยที่ไม่เคยอวดอ้าง และ โฆษณา (ข้อความนี้เป็นของคุณสุวัฒน์ เหมอังกูร) แสดงว่าสีนี้มีน้อยมากๆ |
| ราคาเปิดประมูล | 1,600 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 1,650 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 15 ก.ย. 2566 - 22:23:03 น. |
| วันปิดประมูล | - 24 ก.ย. 2566 - 11:32:51 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | มีเงินมีทอง (5.8K) (2)    
|
(