(0)
ประสบโชคลาภ และความสำเร็จปรากฎให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน ... เหรียญวังโบราณ ลานสะกา บันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ลานสะกา (ขุนพันธ์จัดสร้าง ปี46)








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องประสบโชคลาภ และความสำเร็จปรากฎให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน ... เหรียญวังโบราณ ลานสะกา บันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ลานสะกา (ขุนพันธ์จัดสร้าง ปี46)
รายละเอียดประสบโชคลาภ และความสำเร็จปรากฎให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน ... เหรียญวังโบราณ ลานสะกา บันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ลานสะกา (ขุนพันธ์จัดสร้าง ปี46) เนื้อทองแดง

ความเป็นมา จากตำนานพระเจ้าศรีธรรมโศกราชของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ว่าประมาณ พ.ศ. 1700 - 1800 เมืองนครศรีธรรมราชมีกษัตริย์ 3 พี่น้อง พระเชษฐาที่ครองราชย์ทรงพระนามว่า พระศรีธรรมโศกราช องค์รองชื่อ จันทรภาณุ ซึ่งเป็นพระนามฐานันดรตำแหน่งอุปราช องค์สุดท้ายทรงพระนามว่า พงษาสุระ (ทุกพระองค์เมื่อขึ้นครองราชย์จะใช้พระนาท พระศรีธรรมโศกราช) ในช่วงกษัตริย์สามพี่น้องขึ้นครองราชได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองมาก ทั้งทางอาณาจักร และศาสนจักรโดยได้ครอบครองเมืองต่างๆ ตลอดจนแหลมมาลายู ซึ่งเรียกว่า เมืองสิบสองนักษัตร และใช้รูปดอกบัวเป็นตราประจำเมือง นอกจากนี้พระเจ้าศรีธรรมโศกราชยังได้บูรณะเสริมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเดิมแบบศรีวิชัย ให้เป็นไปตามแบบลังกา โดยก่อสถูปแบบลังกาครอบเจดีย์เดิม เมื่อสิ้นสมัยกษัตริย์สามพี่น้องเมืองนครศรีธรรมราชและเมืองต่างๆ ในคาบสมุทรแหลมสุวรรณภูมิก็รวมตัวกัน มีพระราชาเป็นผู้ครอบครองประเทศ ต่อมาในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้ครองกรุงสุโขทัยประมาณ พ.ศ. 1815 - 1865 ได้มีการบูรณะและสร้างระเบียงรอบองค์พระบรมธาตุ การทำกำแพงรอบทั้ง 4 ด้าน การสร้างวิหารติดกับเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งเรียกว่าวิหารสามจอม และในเวลาต่อมาได้มีการสร้างพระพุทธรูปแทนองค์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช เพื่อประดิษฐานไว้ในวิหารสามจอม และมักเรียกวิหารหลังนี้ว่า วิหารพระศรีธรรมโศกราช ในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้เกิดไข้ห่าระบาดหนักหลายๆ ครั้ง พระองค์ต้องอพยพข้าราชบริพาร และผู้คนจำนวนหนึ่ง เพื่อหนีไข้ห่า ตามหลักฐษนปรากฎว่าได้เสด็จที่ลานสะกา และสถานที่ประทับคือ วังโบราณลานสะกาแห่งนี้ โดยพระองค์ได้คิดหาวิธีการกำจัดไข้ห่า โดยเอาปรอทมาหุงขัดยาทำเป็นหัวนอโมหว่านไปทั่วเมืองเพื่อป้องกันไข้ห่า จนสุดท้ายไข้ห่าหมดไปหรือน้อยมาก พระองค์จึงเสด็จกลับประทับที่เมืองนครศรีธรรมราชเป็นกาถาวร สถานที่ตรงนี้จึงก่อตั้งขึ้นเป็นวัดก็คือวัดน้ำรอบ (แห่งแรก) มีพระพุทธคำเพียร เป็นเจ้าอาวาส รูปแรกต่อมาพระรอด ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปสุดท้ายได้ย้ายวัดมาสร้างในสถานที่แห่งใหม่ ชื่อวัดโคกพูน เพราะสถานที่เดิมมีพื้นที่น้อยประกอบกับมีน้ำล้อมรอบ ไม่สามารถขยับขยายได้ สถานที่ตรงนี้จึงเป็นวัดร้าง ดังนั้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510 พระท่านครูขาบ ฐิตสํวโร เจ้าอาวาสวัดน้ำรอบ (แห่งที่ 2) ได้ร่วมกับคณะพุทธบริษัทของวัดได้บูรณะขึ้นมาใหม่โดยมี นายแนบ ขุนทรานนท์ได้นำพระพุทธรูปปูนปั้นจำลองของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช มาประดิษฐานไว้เมื่อ พ.ศ. 2514 ซึ่ง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้เล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่าได้มีผู้มีอันจะกินและผู้มีจิตศรัทธาจากในตัวเมืองนครศรีธรรมราชเป็นผู้สร้างถวายตามที่หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิตได้แนะนำโดยได้จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปพระเจ้าศรีธรรมโศกราชในวิหารสามจอม ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อต้องการให้บริเวณแห่งนี้เป็นอนุสรณ์เตือนใจสำหรับคนรุ่นต่อไปว่า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับ ของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ปี พ.ศ. 2518 สถานที่นี้ได้ประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ พระพุทธรูปพระเจ้าศรีธรรมโศกราชก็สูญหายไปกับอุทกภัยครั้งนั้นหลังจากนั้นเป็นต้นมาชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้พูดและกล่าวขานกันว่าพระเจ้าศรีธรรมโศกราชมาเข้าฝันแจ้งแก่ชาวบ้านว่าพระองค์จมอยู่ใต้น้ำนานแล้วขอให้ช่วยขุดค้นหาขึ้นมา ชาวบ้านที่เชื่อความฝัน ก็เริ่มใช้เสียม ใช้จอบขุด และหาวิธีต่างๆ ตามแต่ภูมิปัญญาของชาวบ้านจะหาได้แต่ก็ยังขุดค้นหาพบไม่ จนกระทั่ง วันที่ 14 มกราคม 2546 พระครูนิวิฐธรรมรักษ์ นายเอียด ศรีสุรางค์ นายชุม ศรีแฉล้ม และนายเลิศชัย ศรีแฉลิม ได้นัดประชุมราษฎรหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 6 ตำบลลานสะกา อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อปรึกษาหารือการขุดค้น ที่ประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ขุดค้นหาพระพุทธรูปพระเจ้าศรีธรรมโศกราช โดยในระยะแรก นายเลิศชัย ศรีแฉล้มได้ใช้งบประมาณส่วนตัวเป็นค่าจ้างรถแบคโฮ มาดำเนินการขุดค้นหาได้เกิดปรากฏการณ์ชี้นำหลายประการ นอกเหนือความคาดหมายต่อผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งได้พบชิ้นส่วนของพระพุทธรูปในตอนเย็นของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่งและมีผู้คนได้แห่กันมาชื่นชม แสดงความยินดีต่อผู้ปฏิบัติงานกันอย่างเนืองแน่น ทั่วทั้งบริเวณ

ในที่ประชุมครั้งต่อมาหัวหน้าคณะสงฆ์อำเภอลานสะกา หัวหน้าหน่วนราชการ ครูอาจารย์ชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาได้ลงมติให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมาใหม่ โดยมีหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 2.5 เมตร และจะจัดสร้างอาคาร เพื่อเป็นที่ประดิษฐานให้สมพระเกียรติ และบูรณะฟื้นฟูที่วังโบราณลานสะกาหมู่ที่ 6 ตำบลลานสะกา อำเภอลานสะกาจังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 1 กรกฎาคม 2546 เวลา 11.00 น. ได้ขุดค้นพบแทนศิลา ที่ประทับขนาดใหญ่ของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช (การขุดค้นพบแท่นศิลาที่ประทับนี้มาจากการเข้าฝัน) พร้อมกันนี้ท่านพล.ต.ต.ขันพันธรักษ์ราชเดช ได้มีเมตตาเข้ามาช่วยเหลือ รับเป็นประธานจัดสร้างพระพุทธรูปบูชาและวัตถุมงคล โดยได้รับมอบแผ่นยันต์ลงอักขระ และมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งที่ท่านได้สะสมไว้ตลอดชีวิตของท่านให้กับชาวลานสะกา ในอดีตท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้เข้ามาทำพิธีกรรมต่างๆ ในบริเวณสถานที่แห่งนี้เป็นประจำ จนมีความผูกพันเรื่อยมา วันที่ 7 สิงหาคม 2546 ชาวลานสะกา และผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกัน จัดงานสมโภชทองนำฤกษ์ที่พระวิหารหลวงวัดพระธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช และจัดขบวนแห่สู่วังโบราณลานสะกาเพื่อทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ วันที่ 8 สิงหาคม 2546 ได้ทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณพระเจ้าศรีธรรมโศกราช หลวงปู่ขาบ ฐิตสํวโร และทำพิธีเททองหล่อโดยมีพระครูเรวัต ศิลคุณ(หลวงปู่สังข์) วัดดอนตรอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์นั่งปรกแผ่เมตตาจำนวนมาก คณะกรรมการจัดสร้างได้ดำเนินการภายในคำแนะนำของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำพิธีบวงสรวงขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และครูบาอาจารย์การทำพิธีเททองที่วังโบราณลานสะกาอย่างยิ่งใหญ่ การช่วยกันหามวลสาร, ว่านยาที่สำคัญ, ผงภาชนะที่คนโบราณใช้สอยที่ขุดได้ในบริเวณวังโบราณลานสะกา นำมาประกอบเป็นมวลสาร เพื่อผสมทำวัตถุมงคล โดยมีขั้นตอนที่สำคัญ คือ การตำผงมวลสารมีพระสงฆ์ 9 รูป สวดพระพุทธมนต์ การเจิมแม่พิมพ์ การวางผงและการกดพิมพ์ ด้วยเหตุนี้การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้จึงต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน อันเนื่องมาจากการสรรหามวลสารที่ดีที่สุด การหาฤกษ์ยามที่ดีที่สุด การกำหนดสถานที่เพื่อประกอบพิธีโดยที่คณะกรรมการจัดสร้าง และชาวลานสะกา มีความตระหนักเพื่อปรารถนาที่จะให้ท่านผู้มีจิตศรัทธาและบริจาคทรัพย์ ได้รับวัตถุมงคลที่มีคุณค่าไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเคารพบูชาที่มากด้วยพุทธคุณ และความหมายความเป็นมาทางประวัติศาสตร์เป็นสำคัญ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลครั้งนี้ เกิดจากจิตใจของชาวลานสะกาที่มีความบริสุทธิ์ มีความผูกพันความศรัทธา ความกตัญญูต่อพระเจ้าศรีธรรมโศกราช จึงได้จัดสร้างเป็นพระพุทธรูปบูชา พระผง พระเหรียญ และตั้งชื่อวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า รุ่นบันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ลานสะกา เนื่องจากการที่มี ผู้เกี่ยวข้องได้ประสบโชคลาภ และความสำเร็จปรากฎให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 17 มี.ค. 2566 - 19:15:57 น.
วันปิดประมูล - 19 มี.ค. 2566 - 01:26:57 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลtomyum (8.1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     300 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    jatukarm2007 (274)

 

Copyright ©G-PRA.COM