(0)
วัดใจเคาะเดียวครับ สมเด็จหลังยันต์ห้า หลวงพ่อนิดวัดทับมา สภาพสวย หลังไม่ปั๊มเลข หายากกว่าธรรมดาแน่นอนครับ มวลสารผงพรายกุมารมากครับ







ชื่อพระเครื่องวัดใจเคาะเดียวครับ สมเด็จหลังยันต์ห้า หลวงพ่อนิดวัดทับมา สภาพสวย หลังไม่ปั๊มเลข หายากกว่าธรรมดาแน่นอนครับ มวลสารผงพรายกุมารมากครับ
รายละเอียดสมเด็จหลังยันต์ห้า หลวงพ่อนิดวัดทับมา สภาพสวย หลังไม่ปั๊มเลข หายากกว่าธรรมดาแน่นอนครับ มวลสารผงพรายกุมารมากที่สุดจนหลวงปู่ทิมทักว่าไม่ต้องใส่เยอะขนาดนี้ก็ได้ องค์นี้เด่นเมตตา โชคลาภ ประวัติชัดเจน รับประกันพระแท้ตามกฎ ศึกษาก่อนสะสมได้ครับพระเดิมลงจากหิ้งครับมวลสารชัดเจนแน่นๆครับ ท่านใดต้องการเชิญครับ รับประสองชั้นครับทั้งบัตรจากเวปและรับประกันความพึงพอใจทุกกรณีครับ(ท่านใดต้องการไปใช้เชิญครับ)
ประวัติของหลวงพ่อนิด วัดทับมา

หลวงพ่อนิด ญาณรังสี หรือ พระครูวิสุทธิณาณ อดีตเจ้าอาวาสวัดทับมา ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นพระอาจารย์ผู้แก่กล้าวิชา เปี่ยมด้วยเมตตา พระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ล้วนมีอภินิหารมาแล้วมากมาย และชาวสวนในระยองนับถือท่านมาก
ความเป็นมาของวัดทับมา เดิมมีชื่อว่า วัดหัสดรคูหาคงคาล้อม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง มีอายุการสร้างหลายร้อยปี โบสถ์นั้นก็สร้างมาหลายโบสถ์แล้ว สมัยนั้นจะเป็นโบสถ์เล็กๆ เดิมทีนั้นใกล้วัดนี้ มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง มีม้าอาศัยอยู่สองตัว ตัวหนึ่งสีขาวปลอดรูปร่างใหญ่โตมาก อีกตัวหนึ่งสีเทา พอถึงหน้าแลงม้าทั้งสองตัวก็จะพากันออกมาจากถ้ำมาวิ่งเล่นใกล้ๆวัด และบางคราวก็มีม้าอีกหลาบสิบตัวมาวิ่งและกินหญ้าในทุ่งใกล้วัด พอเย็นพลบค่ำม้าสองตัว สีขาว-เทาก็เข้าไปในถ้ำ ส่วนม้าอีกหลายตัวก็ไปนอนเชิงเขา ชาวบ้านได้สังเกตและติดตามม้าฝูงใหญ่และม้าสองตัวนั้นไป เป็นที่แปลกใจอย่างมากที่ม้าสองตัวใหญ่อยู่ในถ้ำ เมื่อชาวบ้านหลายคนเข้าไปดูในถ้ำนั้นก็ไม่พบม้าเลยสักตัว และต่อมาไม่นานนักถ้ำนั้นก็ปิดลงอย่างอัศจรรย์จากนั้นได้เกิดสำนักงานสงฆ์ แต่เดิมนั้นวัดทับมาได้รกร้างไปเป็นเวลาช้านาน ในสมัยสงครามระหว่างไทยกับพม่า และในช่วงนั้นมีไข้ป่าชุกชุม ผู้คนตายไปจากโรคร้ายและพระสงฆ์ที่เดินธุดงค์มาพักก็ป่วยไข้และเป็นไข้ป่ามรณภาพ จนชาวบ้านร่วมใจพร้อมกันนิมนต์ หลวงพ่อหอม แห่งวัดชากหมาก หรือวัดป่าเลไลย์ ที่ทุกคนรู้จักดี ก่อนท่านจะมีชื่อเสียงให้มาช่วยก่อสร้าง และท่านก็ได้รับการถ่ายถอดวิชาอาคมขลังจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ด้วย เมื่อหลวงพ่อหอม มาช่วยก่อสร้างได้ระยะหนึ่ง ก็มาถึง หลวงพ่อชื่น ตอนหลังท่านไปอยู่วัดมาบข่า และเคยมาเรียนวิชาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ และช่วยก่อสร้างด้วย การก่อสร้างสมัยก่อนนั้นไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบันนี้ การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก พอเป็นวัดขึ้นมาก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงสมัยของ หลวงพ่อขาว พระอาจารย์ที่แก่กล้าวิชาอาคมขลังรูปหนึ่งในระยอง สมัยนั้นก็มีหลวงพ่อหนิด หรือ พระครูหนิด แห่งวัดท่ากง หลวงพ่อปั้น แห่งวัดทะเลน้อย อาจารย์ของหลวงปู่คร่ำ หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก หลวงพ่อวงษ์ วัดบ้านค่าย พระอาจารย์ที่เอ่ยนามมานี้ล้วนแต่ดังๆทั้งนั้น มีเพียงหลวงปู่ขาว รูปเดียวที่คนทั่วไปไม่รู้จัก นอกจากคนในท้องถิ่นเท่านั้นเองหลวงพ่อนิด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2436 ตรงกับวันเสาร์ ปีมะเส็ง บ้านคลองยาว ปัจจุบันเป็นบ้านแหลมทองหลาง ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยองมีพี่น้องทั้งหมด 9 คน พ่อแม่ของท่านมีอาชีพทำนาทำไร่ ด้วยท่านเป็นลูกคนที่ 8 จึ่งได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากบรรดาพี่ๆ เมื่อเติบโตขึ้นมาก็เข้าเรียนหนังสือที่วัดทับมา สมัยนั้นมีหลวงพ่อยอด แห่งวัดกรอกยายชา และหลวงพ่อขาว เป็นพระอาจารย์สอนระหว่างวัดกับบ้านก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่ เดินเพียงเดี๋ยวเดียวก็ถึง เมื่อเล่าเรียนจบก็ช่วยเหลือพ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพทำนา ทำไร ต่อไป ชีวิตในวัยหนุ่มของท่านนั้น ขยันตั้งหน้าทำงาน ไปไหนก็ไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อนมาให้พ่อแม่พี่น้องต้องทุกข์ใจ กลับสนใจทางไสยศาสตร์ พยายามเสาะหาจากพระอาจารย์ต่างๆ แต่ไม่ได้อะไรมากมายนัก แต่ความพยายามไม่สิ้น ท่านก็มอบตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทอง วัดหนองน้ำคอกเก่า ที่เก่งมาก หลวงพ่อทองรูปนี้ ท่านรู้อดีตและอนาคตจึงสอนให้มีทางแคล้วคลาด ทางคงกระพันชาตรี ทางป้องกันอันตราย และสอนการปฏิบัติกรรมฐาน การภาวนาให้จิตใจสงบ ซึ่งเป็นหนทางให้บังเกิดอภินิหารและชีวิตนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก หลวงพ่อนิดสมัยนั้นยังเป็นหนุ่ม บางครั้งก็ไปช่วยหลวงพ่อทองทำงานที่วัด ช่วงไหนที่อยู่บ้านเวลาพระสงฆ์เดินธุดงค์ผ่านมาปักกลดพัก ท่านก็จะได้สนทนาอยู่ด้วยจนมืดค่ำ บางครั้งก็อยู่จนดึกหรือค้างอยู่กับพระธุดงค์ด้วยก็มี จนบางคนว่าท่านจะเป็นบ้าไปแล้ว แต่เปล่าเลยท่านหาไม่ได้เป็นอย่างนั้น ท่านกลับชอบความสงบหลวงพ่อนิด กับหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ ท่านสนิทสนมกันมาก เคบเรียนแลกเปลี่ยนวิชากัน แต่หลวงปู่ทิมท่านได้สร้างพระเครื่องไว้มากในเวลาต่อมา แต่หลวงพ่อนิดท่านไม่ค่อยนิยมการสร้างพระเครื่องนัก นอกจากในวาระที่สำคัญๆเท่านั้น ผงพุทธคุณของท่านก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลวงปู่ทิมเลย พระเครื่องเนื้อผงของหลวงพ่อนิด จะเดินทางโชคลาภและแคล้วคลาดอันตราย พระเครื่องของท่านนั้นไม่ดังเหมือนอย่างของหลวงพ่อทิม ซึ่งมีประสบการณ์มาก ของหลวงพ่อนิดนั้นเรื่องแคล้วคลาดอันตราย เรื่องเมตตาสูงมาก พระเครื่องจะเป็นของหลวงพ่อรูปใดก็ตามที่เดินทางแคล้วคลาดอันตรายนั้นจะไม่ดัง เพราะคนที่ห้อยคอติดตัวจะไม่พบกับภัยร้ายอะไรเลยแม้แต่น้อย อย่างเช่นเดินทางขึ้นรถไป รถก็ไม่เกิดมีอุปติเหตุ ทำให้แคล้วคลาดไปจนหมด ไปไหนใครก็จะคิดร้ายก็ให้เลิกล้มความตั้งใจเปลี่ยนเป็นสงสารและหลีกทางไป จะติดต่อการงานค้าขายอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จได้อย่างดี ทำให้รู้ผลไวว่าจะติดต่อการงานอะไรหรือค้าขายอะไรได้ผลหรือเปล่าจะรู้เลย ไม่เหมือนคนที่พกพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่เดินทางในด้านคงกระพันชาตรี จะได้คนอยากลอกอยากตีอยากจะมีเรื่องด้วยเสมอๆหลวงพ่อนิด ท่านสร้างพระเครื่องเนื้อผงตำรับคล้ายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ไว้รุ่นหนึ่ง แต่ความนิยมและด้านราคานั้นสู้ไม่ได้ แต่ด้านพุทธคุณนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หลวงปู่ทิมท่านผสมผงพรายกุมาร แต่หลวงพ่อนิดท่านผสมผงพุทธคุณ ผงที่ลบจากยันต์ต่างๆเกือบร้อยกว่ายันต์ นะ 108 ที่เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน ว่านต่างๆ และยอดไม้มงคลต่างๆมาบดผสมแล้วปั้นเป็นแท่ง แล้วเขียนยันต์ นะ แล้วลบเอง ผงนั้นผสมทำพระเครื่องพอรวมกันได้มากๆ แล้วก็ปลุกเสกของท่านเพียงรูปเดียว จะแจกและมอบให้กับศิษย์และ ประชาชนที่ร่วมทำบุญในการบูรณะก่อสร้างเสนาสนะต่างๆในวัดทับมา หลวงพ่อนิดท่านเป็นพระที่ชอบความสงบ ใครจะไปหาก็ไป พระเครื่องของท่านนั้นถ้าใครขอถึงจะให้ ถ้าไม่ขอก็จะไม่ให้ นอกจากในช่วงที่ทำบุญ หรือจะมอบให้ใครอีกทีก็ตอนงานทำบุญของท่าน แล้วใครได้ไปติดตัวนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือเข้าไปในที่อันไม่ควร ดีไม่ดีพระเครื่องจะหายในเวลาต่อมา และอีกอย่างหนึ่งถ้าใครนำไปหาปลาฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พระเครื่องของท่านจะหายทันที แสดงถึงคุณวิเศษของท่านที่แผ่ลงไปในพระเครื่องนั้นสูงมาก
ถึงแม้ว่าจะเป็นพระเครื่องที่มีชื่อว่า ขุนแผนก็ตามซึ่งถือว่าสุดยอดในด้านเมตตามหานิยม แต่ที่จริงแล้วในด้านป้องกันอันตรายนั้นสูงมาก ยิ่งด้านทางโชคภาลก็มีคนนิยมและกล่าวขานกันอยู่เสมอๆ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดระยอง บ้านค่าย ไปจนถึงแกลงก็นิยม พวกเขาเคยไปร่วมทำบุญร่วมสร้างเสนาสนะต่างๆในวัดแล้วได้รับพระเครื่องจากหลวงพ่อนิด ครั้งหนึ่งมีคนเดินทางไปหาหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งเป็นคนในตำบลทับมานั้นเอง เมื่อหลวงพ่อทาบ ท่านถามว่ามาจากไหน พอท่านรู้ก็จะบอกว่า อย่ามาเอาพระของฉันเลย ไปหาพระเครื่องที่วัดทับมานั่นเถอะ อยู่ใกล้ของดีแล้วไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักหา แต่ท่านก็ให้พระเครื่องชายคนนั้นที่เดินทางไปหาท่าน แล้วท่านยังยกย่องหลวงพ่อนิดอีกว่า ท่านเก่งทางเมตตา เขาเล่าว่าหลวงพ่อนิดสติไม่ค่อยดี เรื่องนี้ชาวบ้านหลายคนพูดกัน ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านเห็นว่าท่านพูดอยู่คนเดียวเหมือนพูดคุยอยู่กับใครก็ไม่รู้ จนเขาพูดกันว่าท่านสติไม่ดี เป็นบ้าไปกระมัง ท่านถึงชอบอยู่คนเดียว ในเวลาที่ว่างจากงานจากคนไปหาท่านนั่งอ่านหนังสือทำโน่นทำนี่ บางครั้งก็คุยคนเดียว มีคนไปเยี่ยมท่านและสอบถามท่านหลายอย่าง ศิษย์บางคนก็จะพาท่านไปหาหมอให้ตรวจว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านพูดว่า พวกมึงไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่เป็นไร แล้วศิษย์ก็พูดว่า แล้วหลวงพ่อคุยกับใครเสมอๆ เห็นคุยอยู่คนเดียว ท่านก็โพล่งตอบขึ้นมาว่า ก็พวกมึงมองไม่เห็น เขามาคุยกับกู กูก็คุยกับเขา ผีหรือเทวดาครับหลวงพ่อ ทั้งผีและเทวดามีทั้งนั้น พระสงฆ์ที่มีเทวดามาสนทนาด้วยนั้น บางครั้งคนจะคิดว่าท่านสติไม่ดี แต่ต้องดูด้วยว่า พระสงฆ์รูปนั้นพูดอวดอ้างให้ใครฟังหรือเปล่า เหมือนอย่างปัจจุบัน หลวงพ่อมหาสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี อายุ 92ปี แล้วร่างกายยังแข็งแรง ท่านก็สามารถพูดกับเทวดาได้ สมัยก่อนเมื่อหกเจ็ดปีนั้นท่านชอบความสงบ จะเห็นท่านพูดคุยอะไรของท่านเพียงลำพัง แต่ศิษย์ใกล้ชิดจะรู้เลยว่าท่านพูดอยู่กับใคร แต่เวลาสอบถามท่าน หลวงพ่อจะนิ่งเงียบและไม่ยอมบอกด้วยว่าคุยกับใคร แต่ปรากฏให้เห็นกับสายตาคนหลายคน ครั้งสมัยที่วัดหนองซ้ำซาก ท่านคุยกับเทวดาในโบสถ์ พอคนเข้าไปหาท่าน พบท่านเพียงรูปเดียวเท่านั้นเอง รู้แม้กระทั้งคนไปทำความผิดมา พอท่านเห็นหน้าก็จะรู้ทันที จะพูดหรือไม่เท่านั้นเอง นักการเมืองท้องถิ่นท่านหนึ่งสมัยนั้น ท่านถึงกับเตือนให้ละวางจากการเมือง ตอนแรกเขาจะไม่เลิกแทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอด ในที่สุดก็ต้องเลิกวางมือทางการเมือง หันไปประกอบอาชีพค้าขายในที่สุด ศิษย์ของท่านหลายรายด้วยกันในระยอง บ้านค่ายที่เปิดร้านค้าขายสินค้า ร้านทำผม กิจการก็ไม่ค่อยดี ไม่มีคนเข้าร้านหรือไม่มีคนมาทำมาซื้อของเลย พอไปหาหลวงพ่อนิดให้ท่านช่วย หลวงพ่อจะทำน้ำมนต์ให้ไปพรมหน้าร้าน ให้ผ้ายันต์ไปบูชา ในเวลาไม่นานคนจะมาเข้าร้านมาซื้อสินค้ากันเสมอๆ เรียกว่ากิจการที่จะขาดทุนนั้นไม่มี.
เหรียญรุ่นแรก ของหลวงพ่อนิดสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2509 ด้านหน้าเป็นรูปของท่านครึ่งองค์ห่มจีวร ลดไหล่พาดสังฆาฏิ มีภาษาไทยเขียนไว้ว่า ที่ระลึกในงานผูกพัทธ์สีมา วัดทับมา 2509 ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อขาว ครึ่งองค์ เหนือศรีษะเขียนว่า หลวงพ่อขาว ใต้รูปท่านมีตัวหนังสือบาลี อ่านว่า ยะอะอุ
หลวงพ่อนิด วัดทับมา ท่านเป็นศิษย์น้องของหลวงปู่ทิม อิสริโกครับพระสมเด็จรุ่นนี้ยังมีสมเด็จนางพญาและขุนแผนไข่ผ่าทำขึ้นเพื่อแจกในงาน แซยิด 84 ปี ของท่านในปี 2517 โดยการนำผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมเป็นมวลสารหลัก ผสมผงวิเศษต่างๆ แล้วคุณชินพร ได้นำไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสก ตอนแรกหลวงปู่ทิมไม่เสกให้ ท่านบอกว่าเอาไปให้ท่านนิดปลุกเสกก็ได้เหมือนกัน คุณชินพร จึงบอกว่ามีผงพรายกุมารของท่านเป็นมวลสารหลัก ท่านจึงยอมปลุกเสกให้ครับ หลังจากนั้นก็นำมาให้หลวงพ่อนิดปลุกเสกเพื่อเพิ่มพุทธคุณด้านโชค ลาภ อีกที่ครับ จำนวนการสร้างน้อยมากนี้ทำขึ้นเพื่อแจกในงาน แซยิด 84 ปี ของท่านในปี 2517
หลวงพ่อนิด ท่านได้จากไปด้วยความสงบท่ามกลางความดูแลพยาบาลอย่างดีของพระสงฆ์ในวัด รวมทั้งหลานๆ ของท่าน หลังจากสิ้นท่านแล้ว ทรัพย์สมบัติของท่านไม่มีอะไรเลย ท่านไม่ชอบการสะสมนอกจากมีแต่ให้อย่างเดียว ท่านจากไปเมื่อ พ.ศ. 2523 ยังความอาลัยเป็นอย่างยิ่งของชาวระยอง และศิษย์ทุกคน เหลือไว้แต่คุณงามความดีและชื่อเสียงของท่านเท่านั้นเอง
ราคาเปิดประมูล3,989 บาท
ราคาปัจจุบัน5,219 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 23 ก.ค. 2565 - 21:21:57 น.
วันปิดประมูล - 24 ก.ค. 2565 - 22:14:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลFamous (1.6K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     5,219 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Dig_tut_959 (366)

 

Copyright ©G-PRA.COM