(0)
เคาะเดียว ไม่ต้องวัดใจ มังกรเจ้าสัว หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์ เนื้อทองทิพย์ปอกลูกปืน no.1420 พระใหม่ มาแรงสุดๆ จัดสร้าง ปี พ.ศ.2562








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะเดียว ไม่ต้องวัดใจ มังกรเจ้าสัว หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์ เนื้อทองทิพย์ปอกลูกปืน no.1420 พระใหม่ มาแรงสุดๆ จัดสร้าง ปี พ.ศ.2562
รายละเอียดเหรียญที่จะเป็นตำนานต่อไปแน่นอน เริ่มหายากแล้วครับ

หลวงปู่หา สุภโร ปัจจุบันท่านมีสิริอายุ 97 ปี

ประวัติคร่าวๆ พระเทพมงคลวชิรมุนี (หลวงปู่หา สุภโร หรือหลวงปู่ไดโนเสาร์) ท่านมีนามเดิมว่า หา ภูบุตตะ เกิดวันศุกร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลู ที่บ้านนาเชือก ตำบลเว่อ (ปัจจุบันเป็นตำบลนาเชือก) อำเภอยางตลาด (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมือง) จังหวัดกาฬสินธุ์ บิดาชื่อ นายสอ ภูบุตตะ มารดาชื่อ นางบัวลา ภูบุตตะ มีพี่น้องรวมกัน ๗ ท่าน

ท่านถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านนาเชือก ซึ่งอพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มีฝูงวัวมากกว่า ๓๐ ตัว มีที่นากว่า ๖๐ ไร่ มารดาเลี้ยงหม่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะมั่นคงที่สุดในแถบนั้น เมื่อท่านเป็นฆราวาส ท่านมีความขยันหมั่นเพียร และความอุตสาหะ ท่านช่วยโยมบิดามารดาทำงานทุกอย่าง ท่านได้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดบ้านนาเชือกเหนือ ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

ท่านอุปสมบท เมื่ออายุย่างเข้า ๒๑ ปี ที่สิมน้ำ ณ วัดสว่างนิวรณ์นาแก ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีหลวงปู่ลือ เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย เมื่อท่านบวชแล้วก็มาอยู่ที่วัดสุวรรณชัยศรี ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ในปี พ.ศ.
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศว่า พระอุปัชฌาย์สังกัดนิกายอะไรผู้บวชก็ต้องสังกัดนิกายนั้น พระครูประสิทธิ์สมณญาณ จนฺโทปโม เจ้าอาวาสวัดสุวรรณชัยศรี (ศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สมัยท่านจำพรรษาอยู่แถบจังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านจึงได้ขึ้นไปอบรมการเป็นพระอุปัชฌาย์ของคณะธรรมยุต ต่อมาเมื่อท่านอายุ ๒๒ ปี ท่านได้ญัติติเป็นธรรมยุต ที่สิมน้ำ ณ วัดบ้านหนองโจด (ปัจจุบันเป็นที่นาชาวบ้าน) ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อ วันที่ ๒๑ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยมีพระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูปลัดอ่อน ขนฺติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระใบฎีกาทองสุข สุจิตฺโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายา ว่า “สุภโร” แปลว่า “ผู้เลี้ยงง่าย”
เมื่อท่านยังเป็นพระนวกะ (ผู้บวชใหม่) ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้จำพรรษาที่วัดสุวรรณชัยศรี จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี และ ในปีพ.ศ. ๒๔๙๕ สอบได้นักธรรมชั้นโทที่วัดขวัญเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ และในปีพ.ศ. ๒๔๙๗ ได้มีโอกาสศึกษาต่อที่วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพมหานคร จนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก ท่านได้มีโอกาสอุปัฏฐากท่านเจ้าประคุณสมเด็จมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต) และด้วยความที่ท่านมีนิสัยใฝ่เรียนรู้ ท่านจะเรียนบาลีเป็นประจำทุกวัน เมื่อเว้นว่างจากการเรียนบาลีแล้ว ท่านก็จะเดินทางด้วยเท้าเปล่าเพื่อไปเรียนกรรมฐานจากพระธรรมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร) วัดธรรมมงคล และพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร) ที่วัดบรมนิวาส

เมื่อเรียนไปได้สักระยะหนึ่ง ท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคดีซ่าน การเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติจึงได้ระงับไว้ก่อน เมื่ออาการหนักมากจนถึงขั้นต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ถึง ๓ เดือน โดยไม่มีท่าทีว่าจะหาย หรือดีขึ้นเลย ท่านจึงทอดอาลัยในชีวิต แล้วตั้งความปรารถนาขอใช้ชีวิตที่เหลือในการรับใช้พระศาสนาให้สมกับที่เป็นผู้อุทิศตนต่อชาวโลก โดยท่านได้ตั้งสัตยาธิษฐาน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต) ว่า “หากข้าพเจ้าจะมีชีวิตในการบวช ขอให้โรคหาย ถ้าหากจะไม่มีชีวิตแล้ว ขอให้ตายกับผ้าเหลือง” ท่านมีความคิดว่าหากได้บวชอยู่นานๆ จะได้ทำประโยชน์ในพระศาสนาให้สมกับที่เป็นผู้อุทิศตนต่อชาวโลก จากนั้นท่านจึงเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อตั้งต้นดำเนินภารกิจดังที่ตั้งปณิธานไว้ และได้ตั้งสัตยาธิษฐานอีกครั้งหนึ่งว่า “ขอให้ได้อยู่ป่าทำความสงบสบายทางจิต”
ปฏิหารหลวงปู่ : ขณะที่หลวงปู่ท่านเข้าปฏิสัลลี ได้นิมิตเห็นสัตว์คอยาว ตัวใหญ่กว่าช้าง เท้าใหญ่เท่ากระบุง เดินไปเดินมาในบริเวรภูกุ้มข้าวกินยอดไม้ เล่นน้ำ และล้มลงตาย จากนั้นก็มีเสียงบอกว่า จะมาขออยู่ด้วย "ผมจะมากับฝน" วันต่อมาฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท่านได้กางร่มเดินมาตรวจบริเวณนั้น ลมพัดจนร่มจนหักและปลิวไปกับลม บริเวณวัดมืดไปหมด ท่านจึงนั่งตรงที่เห็นสัตว์นั้นตายในนิมิต ฝนตกกว่า 3 ชม.จึงเริ่มซา จากฟ้าที่มืดก็ปรากฏแสงสว่างขึ้นมา ดินโดนน้ำเซาะออกจนเผยให้เห็นกระดูกชิ้นใหญ่หลายสิบชิ้น ท่านจึงส่งข่าวไปยังนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ จนกลายมาเป็น พิพิธภัณฑ์สิรินธร จนถึงปัจจุบัน ศิษยานุศิษย์ และลูกหลานจึงถวายฉายานามให้หลวงปู่ว่า "หลวงปู่ไดโนเสาร์"
ราคาเปิดประมูล3,080 บาท
ราคาปัจจุบัน3,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 02 พ.ค. 2565 - 01:01:31 น.
วันปิดประมูล - 03 พ.ค. 2565 - 09:39:21 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลVechvespa (314)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 02 พ.ค. 2565 - 01:02:29 น.

ลิงค์ในกลุ่มเฟสบุค :
https://www.facebook.com/groups/324173171582686/?ref=share


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 02 พ.ค. 2565 - 01:03:53 น.



.


 
ราคาปัจจุบัน :     3,100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Nopsiamu (8K)(10)

 

Copyright ©G-PRA.COM