(0)
ยาจินดามณี จำนวน 10 เม็ด หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา พุทธคุณสุดยอด แถมได้ทำบุญด้วยครับ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องยาจินดามณี จำนวน 10 เม็ด หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา พุทธคุณสุดยอด แถมได้ทำบุญด้วยครับ
รายละเอียดยาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จำนวน 10 เม็ด ราคาหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน เงินที่พี่บูชายาจินดามณีของผมนำไปจัดงานบรรพชาอุปสมบทบุตรของผมครับ ลองอ่านข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจนะครับ #ผงยาวาสนาจินดามณี #ตำรับหลวงปู่บุญ

ตำรับการสร้างยาจินดามณี หรือยาวาสนา ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดั้งเดิมนั้นเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์อย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยา แยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับยาพรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆ ในเบื้องต้นของของตำราว่า

“จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป้นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย ”

นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่าสมุนไพร ชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสาน สมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสัดส่วนว่าส่วนไหนใช้เท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วก็เอาเครื่องยามาประสม กันมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสตหนึ่ง

การจัดพิธี ท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยม ให้จัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วย ผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลง ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุ และฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกัน

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาจะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ภาวนาตลอดระยะเวลาการปั้นเม็ดยา และยาที่ปั้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์อีกอย่าง น้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี

ก่อนใช้ยาท่านให้เสกยาด้วยคาถาดังนี้

“ จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกมัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระสัง ปะโพตันจะ มหาราชา ตะวังมังโป สัตตุโนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิกิญจิ เทโว เยสักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวา ทัตวาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุเม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะธะนัง สัพเพชะนา พหูชะนา ปิยังมะมะ ”

นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ

สำหรับวิธีการใช้ได้กล่าวไว้ในส่วนท้ายตำรา ขอยกมาบางส่วนดังนี้

"ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรค หรือท้องเดิน ให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูแลน้ำปูนใสแล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป ดื่มรับประทานหายจากโรคแล"

"แก้โรคเสมหะดีขึ้น ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อนแล้วใส่ยาหอมจินดามณีฝนผสมลงไปรับประทาน"

"ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย “ เอกัง จินดามณีมันตัง ” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอาน้ำประพรมศีรษะแล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความ สิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง"

ให้มีปัญญาดี เสกด้วยพระคาถานี้ 3 จบ

“ ตะโตโส ปัณฑิโต ปีหิโล อัตถะ ทัสสีมะ โหสะโถ ” แล้วอมยา จะเล่าบ่นมนตร์คาถา สารพัดวิชาจำได้สิ้นที่ลืมหลงก็จะรำลึกได้แล

ให้เสกด้วย “เอกัง จินดามณี นาคา มันตัง” ไปในที่ไหน ๆ งูมิกัด

ให้ภาวนาด้วย “อุ อา กะ สะ” ทำไร่ทำนาทำการงานมิรู้เหน็ดเหนื่อยแล

ให้ภาวนาด้วย “บทยันทุนนิมิตตัง อามังคะ สัญจะ ๆ” จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้จะกลับลางนิมิตร้ายให้กลายเป็นดีแล

ให้อมเม็ดยาเอาไว้แล้วนั่งเหนือลม ภาวนาว่า “อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ”หญิงคนรักจะรักและหลงเรามิหนีห่างกายไปไหนได้เลยแล

เมื่อจะเดินทางไปสารทิศไหน เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำมนต์สระหัว อมเม็ดยาและภาวนาว่า “สัตถาเทวะมนุสานัง พุทโธภะคะวาติ” 7 ครั้ง ผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางแล

ถ้าเผอิญด้วยหมู่ศัตรูคิดร้ายให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า “พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ” 8 คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง 8 ตำลึงทองแล
ราคาเปิดประมูล200 บาท
ราคาปัจจุบัน220 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 11 มี.ค. 2565 - 17:43:10 น.
วันปิดประมูล - 21 มี.ค. 2565 - 01:04:26 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลVipupak (960)(1)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 11 มี.ค. 2565 - 17:44:20 น.

ประวัติ หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา

1.ชาติภูมิ
พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) นามเดิม ทองอยู่ นามสกุล โชตะมังสะ นามฉายา อตฺตทีโป นามโยมบิดา ขุนศรีบรรณสาร (ทูป โชตะมังสะ)
นามโยมมารดา นางเพิ่ม โชตะมังสะ
ชาติกาล วันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 ปีวอก ตรงกับวันที่ 17 มกราคม พุทธศักราช 2439 ณ บ้านหมู่ 2 ตำบลท่าไม้ ำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
2.สถานะเดิม
นายทองอยู่ โชตะมังสะ ต่อมาได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น ศรีบรรณสาร การศึกษาจบมัธยมชั้นปีที่ 3 จากโรงเรียนบุญรังสฤษดิ์ วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พ.ศ.2453 การทำงานได้รับราชการเป็นสมุห์บัญชี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายทองอยู่ ศรีบรณสาร ได้สมรสกับ นางอาบ ศรีสุพรรณ มีบุตร 3 คน คือ
1. นายสมพงษ์ ศรีบรรณสาร ถึงแก่กรรม
2. นาวาเอก สมพันธ์ ศรีบรรณสาร รน. ถึงแก่กรรม
3. นายสมเผ่า ศรีบรรณสาร รับราชการตำแหน่งผู้ช่วยกรมป่าไม้ จังหวัดนครสวรรค์ ถึงแก่กรรม
3.บรรชาอุปสมบท
พระทองอยู่ ฉายา อตฺตทีโป บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2476 ณ วัดนางสาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี
1.พระครูถาวรสมณศักดิ์ (หลวงพ่อคง) วัดหงอนไก่ เป็นพระอุปัชฌาย์
2.พระเพี้ยน จนฺทสโร วัดนางสาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์
3.พระสุนทร คุณชารี วัดนางสาว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
4.การศึกษาธรรม
พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) ศึกษาจนสอบได้นักธรรมตรี โท และเอก มีความสามารถพิเศษทางพิมพ์ดีด
พ.ศ.2479 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักวัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
พ.ศ.2480 พระครูสมณศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน ทำหนังสือรายงาน เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร จัดส่งพระทองอยู่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสา พระทองอยู่ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณะวัดท่าเสา ซึ่งแต่เดิมเป็นวัดร้างต่อมาได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมาเพื่อสร้างอุโบสถ
พ.ศ.2482 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน หลังคามุงสังกะสีแต่หาผู้ที่จะมาเป้นครูสอนยาก พระทองอยู่ต้องทำหน้าที่สอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 – 4
พ.ศ.2485 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ครูใหญ่โรงเรียนวัดท่าเสา
5.งานด้านการปกครอง
พ.ศ.2480 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสา ตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร เกิดที่บ้านท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

อุปสมบทที่ วัดนางสาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน มีพระครูถาวรสมณศักดิ์ (คง) วัดหงอนไก่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเพี้ยน จันทสโร วัดนางสาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสุนทรคุณธารี วัดนางสาว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อยู่จำพรรษาที่วัดนางสาว

จนปี พ.ศ.2480 พระครูถาวรสมณศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน ได้ส่งหลวงพ่อทองอยู่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสา ซึ่งเป็นวัดร้าง และหลวงพ่อทองอยู่ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณปฏิสังขรณ์จนเจริญรุ่งเรืองมาเป็น ลำดับ

ในด้านสมณศักดิ์ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูอาทรธรรมนิเทสก์ หลวงพ่อทองอยู่ มรณภาพลงเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2531 อายุได้ 92 ปี

หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ท่านเป็น เกจิชื่อดังแห่งสมุทรสาคร พระผงยาวาสนาจินดามณี รุ่นแรก ท่านโด่งดังทางด้านยารักษาโรค #เรื่องยาจินดามณีของท่านนั้นเป็นที่เชื่อกันว่าใช้ตำรับเดียวกันกับของวัด กลางบางแก้ว อาราธนาแช่น้ำมนต์รักษาโรคได้

เปิดดูไฟล์ 5525251 หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยและยังเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับ ลป.เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว แต่ถ้าศึกษากันอย่างลึกซึ้งแล้วจะพบว่าท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของลป.บุญครับ เพียงแต่ท่านออกจะเก็บตัวแต่คนพื้นที่รู้จักท่านเป็นอย่างดี เหตุที่บอกว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องก็เพราะว่าท่านเดินทางไปร่ำเรียนวิชา ต่างๆ จาก ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว ไว้หลายอย่าง ทั้งแพทย์แผนโบราณ พุทธาคม และที่เป็นหัวใจสุด ๆ ก็คือ "การทำผงยาจินดามณี" เรียกได้ว่าเป็นสายตรงของวัดกลางบางแก้วเช่นเดียวกัน

ประสบการณ์สามารถใช้แทนของลป.เพิ่มได้ ผงยาจินดามณี อันมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นของวัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม โดยหลวงปู่บุญได้ทำขึ้นจากตำรับเก่าแก่ของวัดกลางบางแก้ว ที่สืบทอดมาแต่ครั้งสมเด็จพระพนรัตน์ แห่งวัดป่าแก้ว สมัยอยุธยา ซึ่งเป็นผงยาที่ประกอบขึ้นจากตัวยาสมุนไพรมากมาย ดังในบทกลอนที่กล่าวถึงตัวยาต่างๆ ว่า

"จินดามณีโอสถอันพิลาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์ เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยาน โกฏสอ โกฏเขมา น้ำทองประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่าๆ กัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้งรวงรัง กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขื่อขื่นคั้น ผสมเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนาเลิศล้ำตำรา ในโลกแดนดิน ผู้ใดได้กินจะสวัสดิโสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทอง จักพูนกูนกองกว่าโลกหญิง ชาย นำมาบูชา อภิวาทบ่วาย ระงับอันตรายทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก ถึงจักมรณา โทษน้อยถอยคราเคลื่อนคลายหายเอย"

ผงยาจินดามณีที่สืบทอดจากหลวงปู่บุญ ยังสืบตำนานอยู่ ณ วัดกลางบางแก้ว ต่อจากหลวงปู่บุญ คือหลวงปู่เพิ่ม ผู้เป็นลูกศิษย์ และพระอาจารย์ใบ และหลวงปู่เจือ ที่สืบสานต่อจากหลวงปู่เพิ่ม แต่ตำรับการสร้างผงยาจินดามณียังมีสืบสานต่อที่วัดท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีความเป็นมาเช่นใดกัน

ตำรับผงยาจินดามณีของวัดท่าเสาก็สืบสานมาจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพราะหลวงพ่อทองอยู่ อัตตทีโป มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่บุญ ได้มีโอกาสศึกษาวิชาการทำผงยาจินดามณีจากหลวงปู่บุญโดยตรง ซึ่งหลวงพ่อทองอยู่ได้ทำผงยาจินดามณีขึ้นมาทั้งในส่วนที่เป็นเม็ดยา และที่เป็นผงสร้างเป็นพระเครื่องเนื้อผงยาจินดามณี

หนึ่งในพระเครื่องเนื้อผงยาจินดามณีล้วนๆ ของหลวงพ่อทองอยู่ คือ พระพิมพ์ลีลาหนังตะลุง ที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรก รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ. 2525ที่นอกเหนือจากจะเป็นยาเลิศล้ำแล้ว ยังมีดีในด้านเมตตามหานิยม เล่าขานกันเป็นอันมากถึงพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ในวันที่ทำการปลุกเสกพระผงยาจินดามณีของหลวงพ่อทองอยู่ บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายภายในวันนั้น ต่างพากันเกี้ยวพาราสีกัน แม้กระทั่งผีเสื้อที่บินไปมาในวัด สมดังที่หลวงพ่อทองอยู่บรรยายสรรพคุณผงยาจินดามณีที่ท่านทำขึ้น ผูกเป็นคำกลอนว่า

"โอสถนามมี จินดามณี เลิศล้ำยอดยา ผู้ใดมีไว้ ใช้กิน ใช้ทา รุ่งเรืองวัฒนา ปรารถนาสมจินต์ เงินทองมากมาย หน้าตาสดใส จิตใจโสภิณ โทษหนักเท่าหนัก จักถึงชีวิน มิต้องแดดิ้นถึงสิ้นชีวา อยากให้ใครรัก จิตตั้งประจักษ์ เห็นในพริบตา มหานิยม สมเจตนา เขาจ๊ะจ๋า มาหาทันที

#แม้รับราชการเจ้านายโปรดปราน บริวารมากมี อธิษฐานเอาเถิดผลจะก่อเกิด ประเสริฐสุขี อาทรธรรมนิเทสก์ พระคุณปกเกศ บอกเลศยานี้ เจ้าตำรับเก่า พระครูเสา มาเนาว์นานปี อย่าได้ละทิ้ง ในสิ่งสวัสดี จินดามณียอดยานี้เอย"

ผงยาจินดามณีของหลวงพ่อทองอยู่ มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของหลวงปู่บุญเลย มีเรื่องเล่ากันว่า มีโยมผู้หญิงชื่อศรี คุณพ่อป่วยหนักเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเข้าห้องไอซียู และหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา ทางแพทย์ได้แจ้งให้ญาติของผู้ป่วยทราบ หลังจากหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว 2 ชั่วโมง ทางโรงพยาบาลจะฉีดยาศพ แต่ญาติได้ทักท้วงไว้เพราะคุณศรีซึ่งเป็นบุตรียังเดินทางมาไม่ถึง #พอคุณศรีมาถึงก็นึกถึงยาจินดามณีของหลวงพ่อทองอยู่ขึ้นมา ซึ่งมีติดตัวอยู่ประจำ จึงได้จุดธูปกลางแจ้งอธิษฐานจิตถึงหลวงพ่อทองอยู่ และอาราธนาบารมียาจินดามณี แล้วบดยากับน้ำกรอกใส่ปากและทาลำตัว #ไม่นานนักคนไข้เกิดการสะอึกขึ้นมาและหัวใจเต้นฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ แพทย์ทราบสาเหตุของการฟื้นก็พากันเล่าขานและมีคนที่เจ็บไข้พากันมาขอยาหลวง ปู่กันมากมาย


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 11 มี.ค. 2565 - 17:45:13 น.

เรียน พี่ ๆ สมาชิกทุกท่านครับ ผมจัดโปรโมชั่นให้นะครับ เงินต่างๆ ที่ผมได้จากการให้บูชาวัตถุมงคลทุกชิ้นเพื่อจัดงานบรรพชาอุปสมบทบุตรชายของผมครับ ท่านใดรับยาจินดามณี รายละเอียดดังนี้ครับ
10 เม็ด 220 บาท
50 เม็ด แถมให้ 5 เม็ด 1000 บาท
100 เม็ด แถมให้ 10 เม็ด 2000 บาท
200 เม็ด แถมให้ 25 เม็ด 4000 บาท
500 เม็ด แถมให้ 60 เม็ด 10000 บาท
ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ ราคานี้รวมค่าจัดเรียบร้อยครับ ยาจินดามณีอยู่ที่ผมอีกจำนวนไม่มากแล้วนะครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     220 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    phuttha (1.9K)

 

Copyright ©G-PRA.COM