(0)
เคาะเดียวครับ พระปิดตา พังพระกาฬ ใบมะขาม รุ่นสองแผ่นดิน วัดพระบรมธาตุ และ วัดนางพระยา หมายเลข 4 สวยเดิม








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะเดียวครับ พระปิดตา พังพระกาฬ ใบมะขาม รุ่นสองแผ่นดิน วัดพระบรมธาตุ และ วัดนางพระยา หมายเลข 4 สวยเดิม
รายละเอียดพระปิดตา พังพระกาฬ ใบมะขาม รุ่นสองแผ่นดิน วัดพระบรมธาตุ และ วัดนางพระยา
เหรียญ พระปิดตาพังพระกาฬ ใบมะขาม รุ่น สองแผ่นดิน
เนื้อเงิน มีโค้ด หมายเลข ยอดจัดสร้างน้อยค่ะ
ด้านหน้า เป็นรูป พระปิดตาพังพระกาฬ ทรงราหู
ด้านหลัง เป็นรูป จำลองรูปศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชครับ

สุดยอดงาน เทวประติมากรรมอันทรงคุณค่ะ
เหรียญสวย แกะพิมพ์ได้คมชัด พิธีดี ปลุกเสก โดยพระเกจิ คณาจารย์กว่า 1000 รูปถือเป็นพิธีปลุกเสก ที่ยิ่งใหญ่สุดในภาคใต้ก็ว่าได้ ไม่เคยมีการก่อน
พระเกจิ คณาจารย์ เรียกได้ว่า จากทั่วฟ้า เมืองไทยค่ะ มาปลุกเสก .. หายากแล้วค่ะตอนนี้.. พระชุดนี้ ยอดจัดสร้างไม่มากค่ะ และยังถูกแบ่งไปที่มาเลเซีย เพราะมีคนนับถือ จตุคามรามเทพ กันมากมายทีเดียว พระจึงเหลือหมุนเวียน ใน ไทย น้อยมากค่ะ ..

พิธีมหาจักรพรรดิเทวาภิเษกและพิธีนพเคราะห์เทวาภิเษก
(มหาพิธีครั้งแรกประวัติศาสตร์ฝากไว้ให้เป็นตำนานของสายจตุคามรามเทพ)
ณ วัดพระบรมธาตุและวัดนางพระยา วันที่ 1-2-3-4 ธันวาคม พ.ศ.2548
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 999 รูป พระเถระอธิษฐานจิต 108 รูป พระพิธีธรรม 16 รูป พระสวดนพเคราะห์หลวง 10 รูป
เพื่อสร้างวิหารประดิษฐานรูปหล่อจตุคามรามเทพองค์ใหญ่ ณ วัดนางพระยา และประเทศมาเลเซีย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการสร้างจตุคามรามเทพ ที่ได้มีการร่วมกันระหว่างฝ่ายไทยกับผู้มีจิตศรัทธาชาวมาเลเซียนำโดย พระอาจารย์จีนลู่ชินบุ๋น เจ้าอาวาสวัดจีนในเมืองอิโป และคณะศิษยานุศิษย์ ซึ่งมีความศรัทธาต่อองค์จตุคามรามเทพ ซึ่งถือว่าท่านเป็นพระเทวราชโพธิสัตว์องค์ห ทั้งนี้ได้มีการหล่อองค์จตุคามรามเทพ ขนาดหน้าตัก 1เมตร เพื่อไปประดิษฐานไว้ที่เมืองอิโป ประเทศมาเลเซีย เพื่อให้ชาวมาเลเซียได้กราบไหว้บูชา ซึ่งจะเป็นการเผยแผ่บารมีของจตุคามรามเทพให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในระดับชาติ เช่นเดียวกับพระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ได้ประกอบพิธีกรรมการจัดสร้างอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยเริ่มต้น ณ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดของตำนานการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช คือที่วัดนางพระยา ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในวันพิธีทางฝ่ายมาเลเซียก็ได้นำคณะมากว่า 50 คน ฝ่ายไทยมี หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือจ.กระบี่ ซึ่งเป็นชาวปากนคร พระครูสันติพัฒนาการ เจ้าอาวาสวัดนางพระยา พระอาจารย์วิฑูรย์ จากสงขลา พระครูภาวนาโสภณ วัดป่าธรรมโสภณ ลพบุรี และพระใบฏีกาปราณพ (หลวงหนุ่ย วัดคอหงษ์) ฯลฯ

ในพิธีบวงสรวงเทวดาบูชาฤกษ์และบอกกล่าวองค์จตุคามรามเทพ ใช้เครื่องสังเวยบูชาเป็นอาหารมังสวิรัตทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังมีเครื่องทองน้อยบูชากษัตริย์ เมื่อพิธีกรรมการบวงสรวงเสร็จสิ้น ก็ได้มีบรรดาผู้มีจิตศรัทธาฝ่ายมาเลเซียนำทองคำรูปพรรณ เช่น แหวน กำไล สร้อย ต่างหูฯลฯ จำนวนรวมแล้วเกือบร้อยบาทและเงินบริสุทธิ์อีกจำนวนหลายกิโลกรัมใส่ลงในเบ้าหลอมโลหะที่จะเทหล่อองค์จตุคามรามเทพองค์ใหญ่และองค์นำฤกษ์ "รุ่นสองแผ่นดิน"

เมื่อได้เวลาเททองหล่อ ก็ได้บังเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือมณฑลพิธี ต่อหน้าทุกคนที่ร่วมอยู่ในพิธีเป็นที่อัศจรรย์ โดยเฉพาะฝ่ายมาเลเซียที่มีความปิติดีใจมาก เนื่องจากไม่เคยเห็นหรืออยู่ร่วมในพิธีกรรมลักษณะนี้มาก่อน ถึงกับกล่าวว่า"พิธีศักดิ์สิทธิ์จริงๆ" โดยในช่วงกลางคืนก่อนพิธีก็บังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกลดให้เห็นเช่นกัน

หลังจากนั้นเป็นพิธีนพเคราะห์เทวาภิเษกวัตถุมงคลรูปหล่อและน้ำตาลแว่นที่ระลึกในการประกอบพิธี"เททองสองแผ่นดิน" โดยมีการอัญเชิญเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9และองค์จตุคามรามเทพสถิตย์ในวัตถุมงคล
หลวงพ่อจำเนียร จุดเทียนชัย
พ่อท่านนวล วัดไสหร้า ดับเทียนชัย
มีพระเถระนั่งปรกสายเขาอ้อและนครศรีธรรมราชจำนวน16รูป อาทิเช่น
หลวงพ่อเนียม วัดบางไทร
หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน พัทลุง
หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง
หลวงหนุ่ย วัดคอหงษ์ หาดใหญ่
หลวงพ่อช่วง วัดควน ปันตาราม พัทลุง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ผังพลังจักรวาล ที่เป็นศาสตร์ที่ชาวตะวันตกต่างมีความเชื่อถือกันมาอย่างเป็นสากลนับเป็นพันปี..

การที่ผู้สร้างได้มีการหยิบยกเอาผังของศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งว่าด้วยตำแหน่งการเดินของดวงดาวที่ได้ตำแหน่งมาตราฐานหรือการมีอยู่ของหมู่ดาวที่มีความสำคัญ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบแก่โลกมนุษย์และสรรพสิ่งทุกชนิดและทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกแห่งเดียวกันนี้ซึ่งน่าจะถือได้ว่านี่คือปรากฎการณ์ครั้งแรกก็ว่าได้ที่ถือว่าเป็นการผนวกรวมของศาสตร์ทั้งสองสิ่ง ให้เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ด้วยความหมายของศาสตร์ผังพลังจักรวาลที่ว่า สรรพสิ่งบนโลกแห่งนี้รวมถึงมนุษย์ทุกผู้ทุกนามต่างก็อยู่ภายใต้พลังอำนาจของพลังจักรวาลโดยสิ้นเชิง ความร้อน ความหนาวความแห้งแล้งและความชุ่มชื้น และการก่อกำเนิดของทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นมาที่เราสัมผัสได้ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลที่เวียนมาปรากฎการณ์ตลอดจนภัยธรรมชาติต่างๆที่เกิดขึ้นมานั้นย่อมมาจากอิทธิพลของการเดินของดวงดาวหรือดาวพระเคราะห์ ที่โคจรในห้วงจักรวาลที่ส่งคลื่นพลังมายังโลกของเราทั้งสิ้น.. เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าทุกท่านก็คงอยากจะทราบแล้วว่าผังพลังจักรวาลที่ได้มีการจำลองมาลงไว้ ด้านหลังจตุคามรามเทพ ไม่ว่าจะเป็น รุ่น 72 พรรษามหามงคล, ชนะมาร, เททองสองแผ่นดิน, สองแผ่นดิน, สรงน้ำราชาโชค, และสมบัติจักรพรรดิ์ฯนั้นอันมีที่มาของดวงดาวและความหมายอย่างไร..

การจำลอง ผังพลังจักรวาลดังกล่าว ที่ปรากฎให้เห็นนั้นมาในรูปของจักรราศีอันสื่อความหมายถึงปริมณฑลกลมในท้องฟ้าแบ่งออกเป็น 12 ราศี ซึ่งแบ่งซอยออกโดยรอบได้ 108 ส่วนส่วนหนึ่งเรียกว่าหนึ่งนวางค์ๆละ3 องศา 20 ลิปดาซึ่งในความเชื่อของนักโหราศาสตร์(ไทย)นั้น มีความเชื่อกันว่า แต่ว่าละนวางค์จะมีเทวดานพเคราะห์ เป็นเจ้าของประจำและรักษานวางค์ๆละองค์เรียงตามลำดับเรียกว่าตัวเกษตร

เริ่มต้นจากราศีเมษไปจนถึงราศีมีนซึ่งในราศีหนึ่งจะแบ่งซอยย่อยออกเป็น 9 นวางค์ รวม4 นวางค์เข้าเป็น 1 ฤกษ์รวมทั้งหมดมี 27 ฤกษ์ แบ่งเป็นฤกษ์ใหญ่ได้ 9 ฤกษ์ อันได้แก่ฤกษ์ทลิทโท(คนจน) , มหัทธโณ(เศรษฐี) , โจโร(โจร) , ภูมิปาโล(ผู้ครองแผ่นดิน) , เทศาตรี(หญิงแพศยา), เทวี(พระนางเจ้า) , เพ็ชฌฆาต(ผู้ฆ่าคน) , ราชา(พระเจ้าแผ่นดิน) และฤกษ์สมโณ(ผู้สงบ)..ทั้งในจักรราศียังได้มีการแบ่งราศีธาตุออกเป็น ธาตุไฟ, ดิน, ลม และน้ำเรียงตามลำดับไปจนครบนวางค์ 108 ลูก ในจักรราศีเป็นที่สิ้นสุดทั้ง 12 ราศีรวมเป็น 360 องศา...

ส่วนบริเวณรอบนอกของจักรราศี ได้มีการจำลองกลุ่มดาว ทั้งหมด 27กลุ่มดาว รายล้อมจักรราศีไว้เริ่มต้นจากราศีเมษไล่เรียงไปโดยรอบจนสิ้นสุดที่ราศีมีนซึ่งเริ่มตั้งแต่กลุ่มดาวม้า, กลุ่มดาวแม่ไก่, กลุ่มดาวลูกไก่, กลุ่มดาวจมูกม้า, กลุ่มดาวศีรษะเนื้อ, กลุ่มดาวฉัตร, กลุ่มดาวเรือชัย, กลุ่มดาวปุยฝ้าย,กลุ่มดาวแมว, กลุ่มดาวแข่งม้า, กลุ่มดาวเพดานหน้า, กลุ่มดาวเพดานหลัง, กลุ่มดาวฝ่ามือ, กลุ่มดาวจรเข้, กลุ่มดาวกระออมน้ำ, กลุ่มดาวกระบือ, กลุ่มดาวหมี, กลุ่มดาวแพะ, กลุ่มดาวช้างน้อย, กลุ่มดาวปากนก, กลุ่มดาวครุฑ, กลุ่มดาวหลักชัย, กลุ่มดาวตา, กลุ่มดาวมังกร, กลุ่มดาวราชสีห์ตัวผู้, กลุ่มดาวราชสีห์ตัวเมีย และกลุ่มดาวปลาตะเพียน..

สำหรับ ผังพลังจักรวาลที่ได้มีการนำมาใส่ไว้ในด้านหลังของ จตุคามรามเทพ ในรุ่นที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นในบางรุ่นก็ได้มีการลงพระคาถาแม่ธาตุ,หรือหัวใจพระคาถากำกับจักรราศีไว้อีกด้วย ถือว่าเป็นการเรียกหนุนธาตุตามคติความเชื่อของชาวพุทธอีกด้วย..

ส่วนตำแหน่งของดาวมาตราฐาน ที่ผู้สร้างได้เลือกนำมาลงไว้ในแต่ละราศีของจตุคามฯที่มีการจัดสร้างออกมานั้น ที่พอจำแนกได้มีดังต่อไปนี้..จตุคามรามเทพ รุ่น 72 พรรษามหามงคล ตำแหน่งของดาวมาตราฐานที่ได้มีการลงไว้นั้นได้แก่ตำแหน่งของดาวมหาอุจจ์ อันหมายถึงดวงดาวที่ส่งผลเด่นทางด้านเกียรติยศชื่อเสียง อำนาจราชศักดิ์ และมากไปด้วยบารมี..

จตุคามรามเทพรุ่น ชนะมาร, เททองสองแผ่นดิน, สองแผ่นดิน, และสรงน้ำราชาโชค(เฉพาะโค๊ตหลักเมือง) ได้มีการลงตำแหน่งของดาวเกษตรอันหมายถึงดวงดาวที่ส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรืองที่หนักแน่นเป็นปึกแผ่นและมั่นคงในทุกๆด้าน..

จตุคามรามเทพรุ่นสรงน้ำราชาโชค(เฉพาะโค๊ตสรงน้ำราชาโชค)ได้มีการลงตำแหน่งของดาวราชาโชค อันหมายถึงดวงดาวที่ส่งผลถึงความมีเสน่ห์อันเป็นที่รักในหมู่ของกลุ่มคนตลอดจนโดดเด่นต่อหน้ามหาชนรวมถึงเป็นที่เมตตารักใคร่และอุปถัมป์ต่อผู้พบเห็น..

และจตุคามรามเทพรุ่นสมบัติจักรพรรดิ์ ได้มีการลงตำแหน่งของดวงดาวที่ได้มาตราฐานทั้งสามประเภทคือทั้งตำแหน่ง มหาอุจจ์, เกษตร, และราชาโชคไว้ในองค์เดียวกันซึ่งรุ่นนี้เมื่อครั้งที่ได้มีการเปิดให้จองและบูชากันในครั้งแรกจึงเป็นที่นิยมกัน ในหมู่ของเหล่าศิลปินดารานักร้องนักแสดงตลอดจนบุคคลที่ต้องทำงานในแวดวงวงการบันเทิงต่างก็เป็นที่เสาะแสวงหากันเป็นอย่างยิ่ง..
การดึงเอาหลักของธาตุทั้งสี่ที่ประกอบไปด้วย ธาตุดิน, น้ำ, ลม, และไฟซึ่งเป็นธาตุหลักในการก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งปวง กับความเชื่อที่ว่าผังพลังจักรวาลสามารถปรับสมดุลย์ภายในของร่างกาย ให้เกิดการสมดุลย์อยู่เสมอบุคคลที่มีปัญหาทางด้านโรคหัวใจ ความดันและความเครียดจึงน่าที่จะมีวัตถุมงคลที่มีผังพลังจักรวาลดังกล่าวติดตัว เพื่อปรับฟื้นสมดุลย์ของร่างกายซึ่งอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะช่วยผ่อนคลายอาการของโรคดังกล่าวให้ทุเลาหรือขาดหายไปได้ด้วยคติความเชื่อก็ลองนึกดูซิครับว่าขนาดแค่ดวงจันทร์ดวงเดียวยังมีอำนาจส่งผลถึงน้ำขึ้นน้ำลง และความร้อนความหนาวของโลก และถ้ารวมดวงดาวหรือผังพลังทั้งจักรวาลสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าคิด ในเมื่อมนุษย์ทุกผู้ทุกนามยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด และยังคงต้องอาศัยพลังของจักรวาล เพื่อการดำเนินอยู่ต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด..

พุทธคุณแห่งพระปิดตาพังพระกาฬ
พระโพธิสัตว์พังพระกาฬ หรือพระปิดตาพังพระกาฬ เป็นปริศนาเชิงปรัชญา นัยความหมายคือ ผู้อยู่เหนือกาลเวลา หรืออยู๋เหนือความมืดมิด (พระกาฬ) มีสมญานามว่า พญาพังพระกาฬ เป็นผู้มีฤทธิ์อำนาจสามารถแก้ไข ภัยอาเภทหรือโทษภัยร้ายจากดวงดาวที่ให้โทษต่อดวงชะตาได้

พระปิดตาพังพระกาฬ สร้างขึ้นอยู่ในรูปศิลปกรรมที่มีเอกลักษณ์และความหมายที่ลึกซึ้ง ในตำนานจตุคามรามเทพนั้น ยึดถือกันเป็นนิรมาณกายภาคหนึ่งของพระโพธิ์สัตว์ ที่มีอำนาจสูงมากสามารถทำลาย (พัง) ความมืดมิด (พระกาฬ, พระกาล) หรืออุปสรรคออกไปจากผู้ที่บูชาหรือใช้ในเรื่องของการแก้อาถรรพ์อัปมงคลทุกชนิด อุปมาความหมายคือ การบำเพ็ญเพียร ตามหลักพระพุทธศาสนา ลดละความโลภ โกรธหลง ปิดป้องจากกิเลส และภัยร้ายทุกชนิดได้
ราคาเปิดประมูล989 บาท
ราคาปัจจุบัน999 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 16 ต.ค. 2564 - 13:00:45 น.
วันปิดประมูล - 20 ต.ค. 2564 - 22:10:49 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลFamous (1.6K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     999 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    คุ้มเสมา (614)

 

Copyright ©G-PRA.COM