(0)
พระขรรค์สาลิกา เนื้อเหล็กน้ำพี้








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระขรรค์สาลิกา เนื้อเหล็กน้ำพี้
รายละเอียดพระขรรค์สาริกา เนื้อเหล็กน้ำพี้ ขนาด 5 เซนติเมตรปลุกเสกโดยลูกศิษย์หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทองอุตรดิตถ์ ( เจ้าของเดิมบอกมาจำชื่อไม่ได้พระบ้านๆเหมามาครับ) มาดูมวสาร เหล็กน้ำพี้ ตำนานเหล็กน้ำพี้ของดีตระกูลเหล็กไหลของ ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาตินั้นโบราณจารย์ได้กล่าวเรียกไว้หลายอย่างที่คุ้นหู คือ สิ่งที่เรียกว่า กายสิทธิ์ แต่นอกจากของกายสิทธิ์แล้วยังมีของศักดิ์สิทธิ์ ตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ทนสิทธิ์ ของทนสิทธิ์นั้นมีกล่าวไว้ในตำราพิชัยสงคราม หมายถึง วัตถุตามธรรมชาติที่มีอำนาจทางคงกระพันโดยมิต้องผ่านการปลุกเสกสมัยโบราณนั้นธาตุเหล็กถือว่าเป็นธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว และสำหรับธาตุเหล็กน้ำพี้นั้นยิ่งถือว่าเป็นเหล็กพิเศษ เพราะเป็นของทนสิทธิ์มีอานุภาพ มีระบุไว้ในตำราพิชัยสงครามชัดเจนว่าเหล็กน้ำพี้เป็นของทนสิทธิ์ไม่เสื่อม มีอานุภาพทางความคงกระพันชาตรี ทำลายอาถรรพณ์ทั้ง ปวงเพื่อเป็นที่เกรงกลัวของภูตผีปีศาจป้องกันมนต์ดำ คุณไสย ลมเพลมพันทั้งปวง มีอำนาจทางมหาราชตบะเดชะ เป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั้งปวง ธาตุทนสิทธิ์ นั้นถือเป็นของหายากตามธรรมชาติ ในอดีตต่างมีผู้แสวงหากันอย่างมากมาย แต่ผู้ที่จะได้ไว้นั้นมีน้อยคนเหลือเกินเพราะเป็นของสำหรับผู้ที่มีบุญวาสนา เหมือนดั่งกับเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ หรือปรอทสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของตามตำนาน มีเรื่องเล่าขานกันมานานนับหลายชั่วอายุคน เหล็กน้ำพี้จากอำเภอทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ธาตุทนสิทธิ์ที่มีเรื่องเล่าขานตำนานนับร้อยพันปี และยังแสดงอิทธิอานุภาพให้ปรากฏจนถึงทุกวันนี้ เหล็กน้ำพี้ถือว่าเป็นธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ เหล็กน้ำพี้ คือ เหล็กที่เหนือกว่าธาตุเหล็กใดๆ ในโลกยกเว้นเหล็กไหล แต่โดยภาพรวมแล้ว เหล็กน้ำพี้ก็ถือได้ว่าเป็นเหล็กอัศจรรย์ตระกูลเหล็กไหลอย่างหนึ่ง ที่มีพลานุภาพเป็นน้องๆ ขององค์เหล็กไหลชั้นยอดขึ้นไป เหล็กน้ำพี้ถือว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตมีเทพยดารักษาไว้ เป็นของคนมีบุญเท่านั้น การหาเหล็กน้ำพี้แม้ว่าไม่ได้เกิดการตัดเช่นเดียวกับการตัดเหล็กไหล ตามแต่ก่อนที่จะทำการหาได้นั้น ต้องทำการบวงสรวง บอกกล่าวต่อเหน้าที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า เจ้าพ่อบ่อเหล็ก ถือเป็นเทพยดาที่ทรงมหิทธิฤทธิ์ดูธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้อยู่ ส่วน ที่เรียกว่า เหล็กน้ำพี้ เป็นธาตุทนสิทธิ์นั้น เนื่องจากว่าคำว่า ทนสิทธิ์ เป็นการเรียกสิ่งบางอย่างในโลกที่มีพลังงานบางอย่างในตัวที่มีอานุภาพทางคง กระพัน และล้างอาถรรพณ์เสียดจันไรทุกชนิด ป้องกันภูตผีปีศาจ เหล็กน้ำพี้จัดเป็นธาตุที่มีเตโชธาตุในตัวสูงอย่างยิ่งรัศมีของเหล็กน้ำพี้ จึงเป็นที่เกรงกลัวของบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลายด้วยความร้อนแรงแห่งเตโชธาตุภายใน บุคคลที่มีลุฌานสมาธิได้ตาในจากการนั่งกรรมฐาน จะแลเห็นรัศมีของเหล็กน้ำพี้เป็นสีแดงสด บ่งบอกอำจากทางการคุ้มครองชั้นสูง และอำนาจจากเตโชธาตุ ที่ส่งผลในทางตบะเดชะ สนับสนุนดวงชะตาชีวิตให้เป็นเจ้าคนนายคน และอำนาจจากเตโชธาตุนี้เองที่ยังเป็นตัวล้างอาถรรพ์ทั้งปวงจากคุณไสยมนต์ดำ เตโช ธาตุ คือ ธาตุไฟ ครูบาอาจารย์ต่างกล่าวว่า ธาตุไฟในโลกนี้มีอำนาจในทางสร้างมายาอย่างหนึ่ง และสามารถทำลายอาถรรพ์จากเวทย์มนต์ พลังจิตทุกชนิด ล้างอาถรรพ์ได้ด้วยธาตุไฟแถมยังเป็นสิ่งที่ให้พลังแก่ชีวิตเราด้วย ดังนั้นพลังงานนี้จะทำให้ร่างกายของผู้ที่ได้รับเกิดความแข็งแรงกระชุ่ม กระชวย หากทำการรับพลังงานจากแร่เหล็กน้ำพี้เสมอๆ จะทำให้แก่ช้า และยังได้ความคงกระพันด้วย บางท่านสื่อพลังเหล็กน้ำพี้ไปนานวันจะเกิดตบะเดชะ เส้นผมจะกลายเป็นสีเหล็กหรือสีทองแดง เมื่อตายไปแล้วกระดูกก็กลายเป็นทองแดงตามไปด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งทั้งนี้เกิดขึ้นจากอำนาจของกระแสพลังงานของเหล็กน้ำพี้ไปปรับธาตุขันธ์ ให้ร่างกายให้กลายเป็นทนสิทธิ์ตามตัวของมันไปด้วย ซึ่งผู้ซึมซับพลังงานของเหล็กน้ำพี้จนถึงขั้นที่เส้นผมเป็นสีเหล็กหรือสีทอง แดง จะมีความคงกระพันชั้นเลิศแก่ช้า มีอายุยาวนานปราศจากโรคภัยทั้งปวง เมื่อนำมาตีหล่อเป็นพระขรรค์หรือดาบ เหล็กน้ำพี้ ซึ่งเชื่อว่าสามารถแก้อาถรรพ์ต่างๆ ได้ จนมีชื่อเรียกว่า "พระขรรค์และดาบล้างอาถรรพ์"แต่ทั้งนี้ ต้องหมั่นทำสมาธิบำเพ็ญภาวนา โดยอาศัยการนำเหล็กน้ำพี้ไว้ในมือ ดูดรับกระแสพลังงานจากเหล็กน้ำพี้เอาไว้ให้มาก และบ่อยๆ ก็สามารถกลายร่างเป็นทนสิทธิ์ได้ การสืบทอดมรดกประเพณีการตีดาบและพระขรรค์ที่มีมาแต่โบราณให้สืบทอดต่อไป
• เชื่อว่าเป็นบ่อเหล็กศักดิ์สิทธิ์ มีเจ้าพ่อปกปักษ์รักษา
• เชื่อว่าถ้าใครมีเหล็กน้ำพี้ จะอยู่ยงคงกระพัน
• เชื่อว่าเหล็กน้ำพี้แก้อาถรรพ์ได้
• เชื่อว่าเป็นของสูง เป็นเหล็กที่ใช้ทำพระแสงของพระเจ้าแผ่นดิน
• เชื่อว่าเป็นอาวุธที่ซุกซ่อนในร่างกายแล้วศัตรูมองไม่เห็น
• เชื่อว่าป้องกันภูตผีปีศาจ และเวทย์มนต์คาถาได้
• เชื่อว่าดาบน้ำพี้ ๑ เล่ม ขายได้ราคามากกว่าข้าวเปลือก ๓เกวียน ฯลฯ
กล่าวกันว่าพิธีกรรมในการน้ำเหล็กน้ำพี้มาตีหล่อเป็นพระขรรค์และดาบนั้นผู้ที่จะทำต้อง นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลอย่างน้อย ๗-๑๕ วัน ระหว่างนั้นจะต้องงดเว้นจากการเบียดเบียนไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ดื่มสุราเมรัย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเสพกาม ไม่พูดเพ้อเจ้อ หรือกล่าวคำเท็จ เป็นต้น สรุปคือจะต้องรักษาศีล ๘ให้สมบูรณ์อย่างเคร่งครัดนั่นเอง เมื่อครบกำหนดแล้วจะต้องดูฤกษ์ ดูยาม หาวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อทำพิธีบวงสรวง เจ้าที่เจ้าทางปกปักษ์รักษาบ่อแร่เหล็ก เป็นการบอกเล่าเก้าสิบกับให้รู้ หรือขออนุญาตเจ้าของเขาเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นผู้ที่ไปขุดอาจได้รับเภทภัยอย่างไม่คาดคิด จากนั้นก็ทำพิธีที่เรียกว่า “ล้อมแร่” อีกครั้งหนึ่ง เป็นการป้องกันแร่ธาตุหนี ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าไม่ล้อมแร่ไว้ก่อน ถึงจะขุดไปอย่างไรก็จะไม่พบแร่ธาตุเหล็กที่ต้องการ จะพบก็แต่แร่เหล็กที่ไม่มีคุณภาพ ที่อาจเรียกว่าขี้เหล็กก็ได้ และถ้านำมาหลอมมาตีเป็นดาบ ดาบนั้นจะเปราะ ไม่แข็งแรง แตกหักได้ง่าย การขุดตัดแร่เหล็กนี้นี้ไม่ต่างไปจากการตัดเหล็กไหลเท่าใดนัก เพราะเชื่อว่าอยู่ในตระกูลเดียวกันกับเหล็กไหล ซึ่งจะต้องตั้งศาลบวงสรวงขออนุญาตจากเจ้าที่ที่ดูแลปกปักษ์รักษาเสียก่อน จึงจะทำการขุดหรือตัดได้ ข้อสำคัญประการหนึ่งที่จะละเลยไม่ได้คือ จะต้องทำพิธีตัดกันในวันดับ ซึ่งถ้ากล่าวตามโหราศาสตร์ ก็คือวันแรม ๑๕ค่ำ เป็นวันที่ดวงจันทร์โคจรมา ที่บ่อเหล็กน้ำพี้แห่งนี้ ได้มีแร่เหล็กที่มีตำนานเล่าขานหลายร้อยปี ว่ามีคุณภาพสูง เป็นที่เลื่องลือ นับแต่อดีตได้นำมาถลุงทำเป็นอาวุธต่อสู้กับศัตรูจนรักษาเอกราชมาได้ เช่น พระยาพิชัยดาบหัก ดาบของพระนาราย พระแสงของ้าวของพระนเรศวร เป็นต้น อยู่ในราศีเดียวกับดวงอาทิตย์ ทำให้แสงแห่งดวงจันทร์ไม่ปรากฏ จึงเรียกวันนั้นเป็นวันดับ ซึ่งมีเฉพาะวันนี้วันเดียวที่เชื่อว่าจะได้เหล็กที่มีคุณภาพสูง ธาตุอาถรรพ์-ของประสม เมื่อตัดแร่เหล็กน้ำพี้มาแล้ว ก่อนที่จะนำมาหลอมตีเป็นดาบได้ตามตำรากล่าวว่าจะต้องเสาะหาธาตุเหล็กที่มีพลังอานุภาพมาหลอมประสมลงไปด้วย หลายอย่างสำคัญๆ คือ เหล็กแกนจากยอดเจดีย์หัก , เหล็กตะปูตอกโลงศพจาก๗ ป่าช้า จะต้องเป็นตะปูที่ตอกโลงศพผีตายทั้งกลมเท่านั้น เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งของพลังจิตวิญญาณให้แก่ดาบ ส่วนผสมนี้ มีกล่าวถึงในเสภาเรื่อง”ขุนช้างขุนแผน” ฉบับหอสมุดแห่งชาติ เล่ม ๑ พ.ศ. ๒๕๑๓ หน้า๓๕๖-๓๕๘ เตรียมการตีดาบ หลังจากที่ได้เหล็กน้ำพี้และธาตุอื่นๆ มาครบแล้ว ผู้ที่จะตีดาบน้ำพี้จะต้องทำพิธีบวงสรวงทวยเทพจนจิตวิญญาณที่รักษาธาตุเหล็กเหล่านั้นอยู่ แล้วจึงนำธาตุทั้งหมดมาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมนำไปตีเป็นดาบและพระขรรค์ต่อไป ซึ่งต้องมีการเตรียมการอีกเช่นเดียวกัน จะตีดาบและพระขรรค์อย่างธรรมดาอื่นๆ ไม่ได้ โดยจะเริ่มต้นที่การก่อตาจะหลอมเหล็ก เพื่อให้เนื้อเหล็กอ่อนสามารถขึ้นรูปได้ตามประสงค์ เรื่องนี้ได้รับการบอกเล่าว่า ก่อนที่จะก่อเตาเพื่อตีพระขรรค์และดาบน้ำพี้ จะต้องทำพิธีบวงสรวงหรือบูชาครูตีดาบกันเสียก่อน แล้วจึงลงมือก่อเตาได้ และเตาที่ก่อนั้นจะต้องไม่อยู่ในที่ร่มหรือในโรงเรือน โรงตีเหล็ก ต้องก่อเตาในที่โล่งแจ้ง ไม่มีหลังคาปิดบังเป็นร่มเงากั้น และต้องดูฤกษ์เพื่อหาวันทำวิธีบูชาครูดาบ แล้วจึงลงมือตีได้ โดยปกติถ้าจำทำให้ถูกต้องตามตำราโบราณ จะต้องทำการตีเหล็กกันในคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ถ้าตีวันอื่นประสิทธิภาพของดาบด้านความขลังจะมีพลังน้อย สู้ตีคืนวันเพ็ญไม่ได้ และขณะที่ตีดาบ คนตีดาบต้องว่าคาถากำกับไปพร้อมกับการตีอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะตีดาบเสร็จ หากการตีดาบน้ำพี้ไม่แล้วเสร็จภายในคืนเดียว ก็จะต้องเลื่อนไปตีในคืนวันเพ็ญต่อไป ทำอย่างนี้จนกว่าจะแล้วเสร็จ สำหรับพระขรรค์ขนาดประมาณ3นิ้วสร้างตามหลักพิธีโบราณ ขุดเหล็กน้ำพี้ขึ้นมาจากบ่อ นำมาหล่อตีเป็นพระขรรค์ และนำไปให้ พระลูกศิษย์ หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง ปลุกเสก หายากนะครับสังเกตุพระขรรค์ที่ทำกับมือรูปร่างไม่สวยเพราะกระบวนการหล่อ แกะพิมพ์จากชาวบ้านมีอันเดียวเนื้อออกเก่าหน่อยนะครับเจ้าของเดิมใช้มานาน
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 18 ก.พ. 2564 - 14:37:09 น.
วันปิดประมูล - 19 ก.พ. 2564 - 20:49:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลlerdlit (2.7K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     300 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    thelexton (228)

 

Copyright ©G-PRA.COM