(0)
วัดใจเคาะเดียว หลวงพ่อเณร (เศียรโล้น) หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี ของดีสุพรรณบุรี เนื้อผงจุ่มรัก






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องวัดใจเคาะเดียว หลวงพ่อเณร (เศียรโล้น) หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี ของดีสุพรรณบุรี เนื้อผงจุ่มรัก
รายละเอียดวัดใจเคาะเดียว หลวงพ่อเณร (เศียรโล้น) หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี ของดีสุพรรณบุรี เนื้อผงจุ่มรัก

หลวงพ่อเณร (เศียรโล้น) เนื้อผงจุ่มรักปิดทอง ยุคต้นๆ

สร้างโดยหลวงตาจวน ฐิติโก วัดไก่เตี้ย เกจิดัง อำเภอ ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี


ถิ่นกำเนิด

ท่านเป็นชาววังยางโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลู มีนามเดิมว่า จวน ดอกกุหลาบ ท่านเล่าด้วยอารมณ์ขำๆว่าหากใช้นามสกุลโยมพ่อต้องเป็น ทรงพินิจ แต่เนื่องจากโยมแม่อิ่ม ออกจะไม่ชอบใจที่โยมพ่อ มีภรรยาหลายคนจึงให้ท่านใช้ ดอกกุหลาบ ของโยมแม่แทน



อุปสมบท

เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท ณ พันธสีมาวัดเสาธงทอง ท่านเล่าว่า เป็นนาคที่วัดไก่เตี้ย เนื่องด้วยวัดไก่เตี้ยยังไม่มีอุโบสถ จึงต้องข้ามไปบวชที่วัดเสาธงทอง โดยมี

พระครูธรรมสารรักษา (หลวงพ่อพริ้ง) วัดวรจรรย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระปลัดหรุ่น พรหมสโร วัดเสาธงทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระอธิการแสน สุวัณโณ วัดไก่เตี้ย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๖ และกลับมาจำพรรษาที่วัดไก่เตี้ย

ผู้คนในสมัยก่อนนิยมบวชเรียนเพื่อศึกษาธรรม คำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้ากันอย่างจริงจัง ไม่บวช ๓ วัน ๗ วัน เหมือนคนสมัยนี้ จะเห็นได้ว่าคนรุ่นปู่ รุ่นตา จะบวชกัน ๒ ถึง ๓ พรรษา เป็นอย่างน้อย อาจจะเป็นเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันเป็นวิสัยของฆราวาส เมื่อ ๒๐ ปี่ก่อน ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี นำข้อคิด จารีตที่ดีงามของพระไปใช้เมื่อต้องการกลับไปสู่เพศฆราวาสอีกครั้งหนึ่ง วิธีที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนอกจากการศึกษาแล้ว “ธุดงค์” ที่เรียกว่า “รุกข์มูล” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พระในสมัยก่อนทำกันเป็นกิจวัตร



หลวงตาจวน ท่านได้ธุดงค์กับ หลวงพ่อหรุ่น พระกรรมวาจาจารย์ของท่าน แล้วได้ธุดงค์ไปตามที่ต่างๆทั่วทุกภาคของประเทศ จนกระทั่งรับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส ภาระมากท่านจึงหยุด



ไปศึกษาต่อที่วัดสวนหงส์

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ ท่านได้ย้ายไปเรียนนักธรรมที่วัดสวนหงส์ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี โดยสอบนักธรรมตรี และนักธรรมโท ได้ที่สำนักเรียนแห่งนั้น กลับมาอยู่วัดไก่เตี้ยท่านสอบได้ นักธรรมเอก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖

หน้าที่และผลงาน

พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย

พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย

พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็นเจ้าคณะตำบลมดแดง

พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร

เจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ “พระครูสุกิจวิจารณ์”

พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร

เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร

เจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม



หลวงตาจวน ท่านเป็นอริยะสงฆ์ ผู้เป็นพระอรหันต์ของชาวอำเภอศรีประจันต์ เป็นพระสงฆ์ที่ชาวอำเภอศรีประจันต์เคารพนับถือมาก ท่านใช้ชีวิตอย่างพระเรียบง่าย สะอาดบริสุทธิ์ สิ่งที่ท่านให้กับผู้คนที่มากราบไหว้ คือ ธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านจะสอนอบรมด้วยเมตตาบารมีที่คนรับรู้ได้ แต่นิสัยท่านพูดจริงทำจริง เป็นพระที่พูดตรงๆ ถ้าคนๆนั้นทำผิดจริงๆ ท่านก็จะด่าแบบตรงๆไม่อ้อมค้อม ท่านมักจะพูดเสมอว่า



"พระของกูไม่มีคุณวิเศษอะไรหรอก ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำไม่ดี ก็ไม่ดีไปเอง"



แต่ชาวศรีประจันต์จะรู้ดีว่าพระของท่าน มีคุณวิเศษรอบด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันเป็นยอด รถคว่ำรถชน รถพังเสียหายยับเยิน แต่ตัวคนขับไม่เป็นอะไรเลย ในคอมีพระของหลวงพ่อเพียงองค์เดียว เด็กๆถูกหมากัดก็ไม่เข้า ท่านมักจะพูดติดตลกว่า



" พระกูต่อให้ไปทิ่ม...หมา ก็ยังไม่เสื่อม "



วันไหนมีงานบุญที่วัดไก่เตี้ย แล้วหลวงตาจะแจกพระ จะมีคนไปร่วมงานกันมากมายจนล้นวัด พระที่เตรียมไว้แทบไม่พอแจก มีอยู่ครั้งหนึ่ง งานทำบุญอายุ ๘๖ ปีของหลวงตา ผู้คนต้องการธงห้อยหน้ารถของหลวงตากันมาก แต่ที่ทางวัดเตรียมไว้มีน้อย คนที่มาทำบุญทุกคนก็อยากได้ หลวงตาเลยพูดออกลำโพงให้ทุกคนทั้งวัดรับรู้ว่า



" ธงให้คนละผืนนะ ใครไม่ได้มา ก็ไม่ได้ คนที่ฝากมาทำบุญ ก็ไม่ต้องเอากลับไปให้เขา เอาไปแค่ของตัวเองคนละผืนเท่านั้น "



ทำให้ผู้คนที่เอาไปหลายผืน รีบนำมาคืนหลวงตาในทันที เพราะรู้ดีว่าหลวงตาท่านเป็นคนจริง พูดจริง แต่มีป้าอยู่คนหนึ่งอยู่แถววังน้ำซับ (ใกล้โรงพยาบาลศรีประจันต์) ไม่สนใจ เอาไปสองผืนเพราะมีญาติฝากมาทำบุญ จะเอาไปให้เขาด้วย ก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกจากวัดไก่เตี้ย ยังไม่เลยโค้งวัดถั่วเลยด้วยซ้ำ (ประมาณ ๓กิโลกว่าๆ) ปรากฏว่ารถกระบะมาจากไหนไม่รู้ ชนป้าคนนี้เข้าอย่างจัง รถมอเตอร์ไซด์ไม่เหลือชิ้นดี ไม่สามรถใช้งานได้อีกเลย เอาไปทำเศษเหล็กได้เท่านั้น แต่ตัวป้าคนนี้ไม่เป็นอะไรเลย รอยถลอกยังไม่มี นึกขึ้นได้ รีบให้กู้ภัยพากลับไปหาหลวงตา เอาธงไปคืนหนึ่งผืน ยังไม่ได้บอกอะไรหลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่ตายก็ดีแล้วไง ข้าบอกเอ็งแล้วเอ็งก็ไม่เชื่อข้า" ป้าคนนั้นก้มกราบหลวงตา น้ำตาไหลเลยครับที่รอดตายมาได้ เหตุการณ์นี้กู้ภัยหลายท่านรู้ดี เคยคุยกันเขาบอกว่าไม่รู้รอดมาได้ไง สภาพรถเละไม่เหลือชิ้นดีเลยครับ



วาระสุดท้ายของชีวิต

หลวงตาจวนอาพาธด้วยโรคชรา แต่ก็ยังรู้สึกตัวและปฏิบัติสมณะกิจอย่างไม่ขาด ไม่ได้ล้มเจ็บแต่อย่างใด เพียงแต่อ่อนเพลียไม่มีแรงเหมือนคนแก่ทั่วไป

แต่ในวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. ท่านได้อาพาธเป็นลมหมดสติ พระสงฆ์และกรรมการวัดจึงนำท่านส่งโรงพยาบาล แพทย์บอกว่าไม่สามารถรักษาได้ และสมองของท่านไม่สั่งงานแล้ว เมื่อนำท่านกลับวัดไก่เตี้ย หลวงตาก็มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อ เวลา ๑๔.๐๐ น. สิริรวมอายุได้ ๘๗ ปี ๑๑ เดือน ๑๙ วัน



ที่มาของการสร้าง “พระหลวงเณร” (เศียรโล้น)

เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ มีคนลักลอบขุดใต้ฐานเจดีย์วัดไก่เตี้ย ท่านเห็นว่าจะรักษาไว้ไม่อยู่ จึงได้ขออนุญาตขุดกรุ ได้พระซุ้มปรางค์เนื้อชิน ๘๐ กว่าองค์, พระโมคคัลลาน์-สาริบุตร, พระปรกโพธิ์เนื้อชิน ส่วนมากผุกร่อนหมด ในกรุนั้นยังพบพระเนื้อชินองค์หนึ่ง เป็นพิมพ์เศียรโล้น จึงมีความเห็นกันว่าควรสร้างพระเศียรโล้นขึ้นมาทดแทน โดยนำพระเนื้อชินที่ผุกร่อนมาหล่อหลอมใหม่ โดยให้ชื่อพระนั้นว่า



"หลวงพ่อเณร" (เศียรโล้น) สร้างได้ประมาณ ๙๐ องค์ ด้านหลังหล่อเต็ม มียันต์อุณาโลม แต่บางองค์ก็ไม่มี



เวลาต่อมาสร้างรุ่น ๒ ด้านหลังเป็นแอ่งบุ๋ม ๑๐๐ องค์ และสร้างรุ่น ๓ ด้านหลังก็เป็นแอ่งบุ๋ม ๒๐๐ องค์แต่ปนดีบุกมากหน่อย แจกหมดในเวลาอันสั้น และมาสร้างรุ่น ๔ รุ่นนี้รูปองค์ท่านจะผอมกว่า คราวนี้สร้างมากหน่อย ประมาณ ๑,๘๐๐ องค์ แต่ก็แจกหมดภายในครึ่งวัน

ในเวลาต่อมาหลวงตาท่านเห็นว่าลูกศิษย์อีกมากมายที่อยากได้ คราวนี้สร้างเป็นพระเนื้อดินเผาขึ้นมาอีกประมาณ ๑๙ พิมพ์ ฯลฯ



**หมายเหตุ**

รุ่นแรกมี หลวงพ่อหรุ่น พรหมสโก วัดเสาธงทอง และหลวงตาจวน ปลุกเสก ต่อจากนั้นรุ่นหลังๆ หลวงพ่อจวนปลุกเสกเอง



ข้อมูลจากหนังสือพระเมืองสุพรรณ ฉบับหอการค้าเมืองสุพรรณ

โดย คุณมนัส โอภากุล
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 08 ธ.ค. 2563 - 16:32:04 น.
วันปิดประมูล - 09 ธ.ค. 2563 - 19:16:39 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลthaiindy (622)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     120 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    chai479 (776)

 

Copyright ©G-PRA.COM