(0)
ตะกรุดหลวงพ่อเทียม เนื้อตะกั่ว วัดกษัตราธิราช ยาว 2.7 นิ้ว ปี 2515-2522 พร้อมบัตร G และบัตรสมาคม ฯ







ชื่อพระเครื่องตะกรุดหลวงพ่อเทียม เนื้อตะกั่ว วัดกษัตราธิราช ยาว 2.7 นิ้ว ปี 2515-2522 พร้อมบัตร G และบัตรสมาคม ฯ
รายละเอียดตะกรุดหลวงพ่อเทียม เนื้อตะกั่ว วัดกษัตราธิราช ยาว 2.7 นิ้ว ปี 2515-2522 พร้อมบัตร G และบัตรสมาคม ฯ

"เจ้าของตำนานตะกรุดประจำตระกูล ให้บูชาประจำบ้น หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช"

สมญานามตะกรุดมหาระงับพิสดาร หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา

"หลวงปู่เทียม" นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณที่รู้จักกันดีของชาวพระนครศรีอยุธยามาช้านานแล้ว และยอมรับว่าท่านเป็นผู้สำเร็จ "ตำราพิชัยสงคราม" ของ "สมเด็จพระนพรัตน์ วัดป่าแก้ว" ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ "พระมหากษัตริย์ยอดนักรบไทย" ซึ่งก็คือ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ผู้ทรงคุณอันประเสริฐและยิ่งใหญ่ในแผ่นดินไทย และเหตุที่บอกว่า "หลวงปู่เทียม" สำเร็จ "ตำราพิชัยสงคราม" ก็เพราะท่านนับเป็นผู้ที่มีความเพียรพยายามศึกษา "ตำราพิชัยสวคราม" ซึ่งสืบทอดมาจาก "สมเด็จพระนพรัตน์ วัดป่าแก้ว" ที่ตกทอดมาถึง "วัดประดู่ทรงธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา"

เพราะเป็นวัดที่มีสำนักเรียนตำราพิชัยสงครามสืบทอดมาแต่ครั้งกรุงเก่าซึ่งมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ สำเร็จการศึกษาพระเวทวิทยาคมอันเป็นส่นหนึ่งของตำราพิชัยสงคราม (ตำราที่ว่าด้วยความมีชัยชนะในการต่อสู้ และการต่อสู้ในที่นี้หมายถึงการต่อสู้ในราชการสงคราม) มากมายหลายท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงปู่น้อย วัดธรรมศาลา" โดยเฉพาะ "หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา" ท่านเคยบอกต่อศิษย์เอกของท่านผู้หนึ่งที่มีตำแหน่งเป็น "ผู้พิพากษา" แต่สนใจในเรื่องของวิทยยาคมและวัตถุมงคลที่เคยเรียนถามท่านว่า "เมื่อสิ้นหลวงพ่อน้อยแล้วจะมีพระคณาจารย์รูปใดอีกที่พอจะพึ่งพาด้านวิทยาคมบ้าง" หลวงพ่อน้อยก็ตอบว่าให้ไปหา "หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช" และต่อมาท่านผู้พิพากษาก็เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทียมตามคำแนะนำของหลวงพ่อน้อยหลังจากที่ท่านสิ้นแล้ว

อนึ่ง ชื่อเสียงของ "หลวงปู่เทียม" ท่านเลื่องลือมาก โดยเฉพาะในปี 2506 ในพิธีหล่อพระที่ "วัดประสาทบุญญาวาส" จัดสร้างพร้อมนำ "แผ่นจารอักขระ" ของ "คณาจารย์จากทั่วประเทศ" มาหล่อหลอมด้วยไฟแรงสูงเพื่อเทหล่อสร้างพระของวัดประสาท ฯ ปรากฎว่า "แผ่นจารอักขระ" ของคณาจารย์อื่น ๆ ล้วนหลอมละลายหมดยกเว้นของ "หลวงปู่เทียม" เท่านั้นที่ไม่ยอมหลอมละลายเลย จึงสร้างความอัศจรรย์ใจให้ผู้อยู่ในเหตุการ์ณครั้งนั้นทั่วหน้า

<<<หลวงพ่อเทียม ทูลเกล้า ฯ ถวายตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร>>>

ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้ากฐินส่วนพระองค์ ณ วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2517 "หลวงพ่อเทียม" ท่านได้มอบให้รองเจ้าอาวาสวัดกษัตรา ณ ขนาดนั้น นำรูปจำลองของท่านพร้อมด้วยตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร ลงตามตำรับเดิมของวัดประดู่ทรงธรรม เป็นโลหะตะกั่วถักด้วยด้ายและลงรักปิดทอง ยาว 12 นิ้ว ขึ้นทูลเกล้าถวายแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

<<<ประวัติความเป็นมาของตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร>>>

"โอมระงับมหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน โอมชิดมหาชิด โอมปิดมหาปิด สิทธิสวาหะฯ"

พระยันต์นี้ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยต้นตำหรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ได้ผูกพระยันต์เป็นตะกรุดถวายแต่สมเด็จพระนเรศวร สะพายคู่พระวรกายออกศึกชนะทัพหงสาวดีที่ทุ่งหนองสาหร่าย ตำหรับวิทยาการต่าง ๆ ตกทอดจากอดีต ถูกเก็บรักษาไว้ ณ วัดประดู่ทรงธรรม จวบจนกระทั่ง "หลวงพ่อเทียม" ได้หยิบขึ้นมาจัดทำจนเป็นที่โด่งดั่างเลื่องลือมาแล้วในอดีต

อุปเทห์การใช้ตะกรุดมหาระงับพิสดารตามใบฝอยของวัด ระบุไว้ว่า "สามารถระงับภัยต่าง ๆ เช่น โจรภัย, อัคคีภัย, และปีศาจ ระงับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นภายในบ้าน และให้อธิษฐานทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่มและอาบ ระงับคดีความได้"

ราคาทำบุญจากวัด ดอกละ 1,000 บาท นับว่าเป็นตะกรุดของท่านที่แพงที่สุดที่ออกให้ทำบุญในสมัยนั้นก็ว่าได้ (ราคาทองสมัยนั้นบาทละ 350 บาท ตะกรุด 1 ดอก แลกกับ ทอง 3 บาท) นับว่าเป็นตะกรุดที่แพงที่สุดในยุคนั้น

อิทธิฤทธิ์ และอานุภาพของยันต์ : ยันต์นี้วิเศษยิ่งนัก เป็นมหาจังงัง มหาระงับแก่คนทั้งหลาย ป้องกันอันตรายทุกอย่าง ยิง ฟัน แทง ไม่เข้า หากมีสมาธิจิตที่แน่วแน่จริง ๆ ท่านว่าสามารถทำให้หายตัวได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : appgeji.com
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน5,400 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 09 พ.ย. 2563 - 18:52:07 น.
วันปิดประมูล - 10 พ.ย. 2563 - 19:02:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลnunthikorn (278)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 09 พ.ย. 2563 - 18:52:25 น.



1


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 09 พ.ย. 2563 - 18:52:51 น.



หลวงพ่อเทียมท่านเป็นศิษย์สายวัดประดู่ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักตักศิลาแห่งสยามประเทศมาตั้งแต่โบราณ

ปกิณกะและเรื่องเล่าเกี่ยวกับแรงครู
** พ่อเฒ่ารอดเสือ วัดประดูทรงธรรม **

#ความเป็นของวัดประดู่ทรงธรรม
ขอกล่าวถึงความเป็นมาของ #สำนักวัดประดู่ทรงธรรม พอสังเขปให้ทราบว่าแต่เดิมนั้น สมัยกรุงศรีอยุธยามีวัดอยู่สอง คือ #วัดประดู่ กับ #วัดโรงธรรม ทั้งสองวัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กัน ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ท่านได้รวมสองวัดนี้เข้าด้วย และเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า #วัดประดู่ทรงธรรม ขอกล่าวย้อนไปว่า พระเจ้าทรงธรรม ท่านมีความศรัทธาในพระเถราจารย์ชาวรามัญของ วัดประดู่ทรงธรรม อย่างมาก ด้วยในคราวที่พวกนักสังหารชาวญี่ปุ่น ได้เข้ามาในพระราชวังหมายลอบทำร้ายพระองค์

คราวนั้น จู่ จู่ ก็ปรากฏว่ามีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมชาวรามัญ วัดประดู่ทรงธรรม จำนวน ๘ รูปเข้ามาในพระราชวังด้วยอาคม ท่านเข้ามาปรากฏกายขึ้นล้อมรอบองค์ พระเจ้าทรงธรรม ในขณะเดียวกับพวกนักสังหาร (นินจา) กำลังจะเข้าประชิดถึงพระองค์ พระสงฆ์รามัญได้ใช้อาคมตวาดออกไปด้วยเสียงอันดัง ทั้งเป่ามนต์ขลังใส่จนพวกนักสังหารจนยืนตกตะลึง มือไม้ก็อ่อนเปลี้ยอาวุธในมือหลุดตกลงพื้นจนหมดสิ้น พระอาจารย์ทั้ง ๘ รูปจึงใช้อาคมกำบังตาพา พระเจ้าทรงธรรม หนีรอดอันตรายคราวนั้นออกมาได้ แต่นั้นมาพระเจ้าทรงธรรมจึงเกิดความเลื่อมใสพระอาจารย์ในสำนักนี้มาตลอด

#พ่อเฒ่ารอดเสือ
ปรมาจารย์ของสำนัก วัดประดู่ทรงธรรม รุ่นเก่าที่พอสืบค้นได้ ทั้งเป็นที่เคารพนับถือสืบต่อกันมา ท่านมีนามว่า พ่อเฒ่ารอด แต่ผู้ฅนมักเรียกขานนามท่านจนติดปากกันว่า #พ่อเฒ่ารอดเสือ ซึ่งคำว่าเสือนี้มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า พ่อเฒ่ารอด ท่านมีนิสัยดุดันและเด็ดขาดมาก เวลาสอนศิษย์ท่านจะสอนแบบปากว่ามือถึงเพราะ ท่านขี้โมโหและอารมณ์ร้าย ก่อนสอนศิษย์ท่านจะเข้าไปนั่งในกรง แล้วสั่งให้ลงกลอนจากด้านนอก เพื่อขังท่านไว้ในกรงนั้น เพราะหากไม่ขังท่านไว้ เมื่อศิษย์ฅนใดทำไม่ถูกใจอาจโดนท่านตีจนบอบช้ำหนักได้ (คล้ายกับหลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด) ด้วยความดุและน่ากลัวนี้เอง เขาจึงเติมคำว่า #เสือ ท้ายชื่อท่านจนกลายเป็น #พ่อเฒ่ารอดเสือ ด้วยเหตุนี้ ทราบว่า พ่อเฒ่ารอดเสือ เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ให้ความเคารพมากและเคยกล่าวถึงให้ศิษย์ฟังไว้ แต่ไม่แน่ชัดว่าท่านได้พบกับ พ่อเฒ่ารอดเสือ โดยตรงเลยหรือได้รับตำราสืบต่อมาอีกที

#แรงครูวัดประดู่ทรงธรรม
มีเรื่องราวหนึ่งที่ หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม เคยเล่าให้ศิษย์ฟังถึง #แรงครูและวิญญาณของพ่อเฒ่ารอดเสือ ว่าในคราวหนึ่ง ท่านอาจารย์จาบ สุวรรณ อาจารย์ฆราวาสผู้สอนกรรมฐานของ วัดประดู่ทรงธรรม ได้ดำริว่าจะหาทุนเพื่อสร้างโบสถ์ถวาย วัดกล้วย จ.อยุธยา จึงได้สร้าง #ตะกรุดมหาระงับ ตำราวัดประดู่ทรงธรรม โดยใหญ่เหล่าศิษย์ของ ท่านก๋งจาบ เช่น หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ฯ, หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม, หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์ ฯลฯ ช่วยกันจารอักขระยันลงในแผ่นโลหะ ด้วยช่วยกันม้วนถักตามตำรา

เมื่อได้ตะกรุดตามจำนวนที่ต้องการแล้วก็นำเข้าทำพิธีปลุกเสกภายในโบสถ์ วัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งในการปลุกเสกคราวนั้น หลวงพ่อกี๋ กับ หลวงพ่อเทียม ท่านได้นำเอามีดอาคมเข้ามาวางร่วมในพิธีด้วย เมื่อได้เวลาอันสมควรพระอาจารย์ต่าง ๆ รวมถึงท่านก๋งจาบ ต่างเข้าสมาธิปลุกเสกวัตถุมงคลกันตามตำรา แต่เมื่อพิธีดำเนินไปได้เพียงครู่เดียว จู่ จู่ หลวงพ่อเทียม ก็เกิดความผิดปกติ ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มแล้วค่อย ๆ สั่นแรงขึ้น แรงขึ้น มีเสียงออกมาจากลำคอคล้ายเสียงฅนแก่คราง ฮือ ฮือ !! หายใจหอบแรงดัง ฟืดฟาด .. ฟืดฟาด ... หายใจหอบ ถี่ ๆ ยาว ๆ อยู่ระยะหนึ่งก็สงบลง

ครู่หนึ่งก็แสดงท่าทางคล้ายผู้สูงวัย หลังค้อมเล็กน้อยน้ำเสียงแบบผู้ชราภาพ แล้วบอกว่าตัวของท่านคือ #พ่อเฒ่ารอดเสือ พูดจบท่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ถาดใส่มีดอาคมีที่วางไว้ในพิธี ท่านยกถาดขึ้นแล้วสาดมีดในถาดออกไปนอกหน้าต่างทั้งหมด แล้วท่านจึงหันมาดุเหล่าพระอาจารย์ในพิธี ว่าห้ามนำมีดอาคมเสกร่วมกับของอย่าอื่น แล้วท่านก็ตักเตือนอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงออกจากร่าง หลวงพ่อเทียม เหตุการณ์นี้แสดงให้ทราบว่า ครูบาอาจารย์ในสายนี้ท่านยังไม่ไปไหนและรับรู้จริงดังเหตุการณ์ที่ปรากฏนี้

ขอขอบคุณบทความจาก "ฅนขลัง คลังวิชา"


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 09 พ.ย. 2563 - 18:53:08 น.



2


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 09 พ.ย. 2563 - 18:53:24 น.



3


ข้อมูลเพิ่มเติม 5 - 09 พ.ย. 2563 - 18:55:48 น.



4


 
ราคาปัจจุบัน :     5,400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ขุมทรัพย์บูรพา (2.5K)

 

Copyright ©G-PRA.COM