(0)
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช 100 พระชันษา วัดบวรนิเวสวิหาร ปี 2556 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวย พร้อมกล่องเดิม บูชาเป็นสิริมงคล สำเร็จ เจริญ รุ่งเรือง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช 100 พระชันษา วัดบวรนิเวสวิหาร ปี 2556 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวย พร้อมกล่องเดิม บูชาเป็นสิริมงคล สำเร็จ เจริญ รุ่งเรือง
รายละเอียดเหรียญรูปไข่ 100 พระชันษา สมเด็จพระสังฆราช ญาณสังวร วัดบวรนิเวสวิหาร ปี 2556 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวย พร้อมกล่องเดิม บูชาเป็นสิริมงคล สำเร็จ เจริญ รุ่งเรือง

'เรื่องจริง'ในเรื่องเล่า'เรียกฝนดับไฟ'พระเมตตา'สังฆราช' | เดลินิวส์
„สกู๊ปหน้า1 'เรื่องจริง'ในเรื่องเล่า'เรียกฝนดับไฟ'พระเมตตา'สังฆราช' บ้างเล่าว่า... สมเด็จฯ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) เอาจีวรสะบัดครั้งเดียว ไฟก็ดับได้แล้ว บ้างก็ว่า... ทรงเรียกเมฆฝนให้มาตกบริเวณนี้ วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 เวลา 6:30 น. ...บ้างเล่าว่า... สมเด็จฯ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) เอาจีวรสะบัดครั้งเดียว ไฟก็ดับได้แล้ว บ้างก็ว่า... ทรงเรียกเมฆฝนให้มาตกบริเวณนี้ เพื่อให้สายฝนช่วยดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ เรียกได้ว่า... ต่างคนก็ต่างเล่ากันไป...“ ..นี่เป็นเสียงจาก พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร ที่บอกเล่าให้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” รับฟัง เกี่ยวกับเรื่องเล่า เกี่ยวกับ เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ชุมชนตรอกบวรรังษี ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 20 พ.ค. 2534 หรือกว่า 24 ปีล่วงมาแล้ว ...แต่ก็ยังมีเรื่องเล่าสืบต่อมาจนถึงวันนี้... เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่ง ’ตำนานเล่าขาน“ เรื่องเล่า-เรื่องราว ’การเรียกฝนดับไฟ“ เรื่องจริง-เรื่องนี้...วันนี้ ’มีข้อมูลมาเล่าสู่“ ... ทั้งนี้ ’ตำนานเรียกฝนดับไฟ“ ที่ยึดโยงองค์ สมเด็จพระสังฆราชฯ นั้น เรื่องนี้ได้มีการเผยแพร่ มีการบอกเล่ากันต่าง ๆนานา ในเชิงปาฏิหาริย์-ในมุมชวนทึ่ง ซึ่ง ชุมชนตรอกวัดบวรรังษี นั้น เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ด้านหลัง วัดบวรนิเวศวิหาร โดยในปัจจุบันชุมชนแห่งนี้ไม่มีอยู่แล้ว ซึ่งสำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้เมื่อกว่า 24 ปีก่อนนั้น จากที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ในยุคนั้น มีการระบุไว้ว่า... ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 20 พ.ค. 2534 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นโดยมีต้นเพลิงมาจากบ้านหลังหนึ่งในชุมชน ด้วยความที่มีการปลูกบ้านเรือนอยู่อย่างหนาแน่น ประกอบกับพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นซอยแคบ ๆ ทำให้ เพลิงลุกลาม...ขยายวงอย่างรวดเร็ว!! เหตุการณ์ในคืนนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้เล่าให้ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ฟังว่า... คืนนั้น เวลาประมาณตี 2 ที่ชุมชนตรอกวัดบวรรังษี ซึ่งอยู่ติดกับด้านหลังของวัดบวรฯ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีเพียงรั้วสังกะสีเท่านั้นที่กั้นระหว่างชุมชนและวัด โดย พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ นั้น เมื่อทราบเหตุก็รีบวิ่งไปยังตำหนัก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งก่อนเกิดเหตุพระองค์ท่านบรรทมอยู่ในตำหนัก ก็รีบวิ่งไปยังตำหนัก เข้าไปด้านใน เพื่อจะนำพระองค์เสด็จไปหลบเพลิงไหม้ ณ ตำหนักอีกหลังหนึ่งที่มีการจัดเตรียมไว้ ทว่า... หลังทูล สมเด็จพระสังฆราชฯ เพื่อจะให้พระองค์เสด็จไปประทับ ณ ตำหนักอีกหลัง พระองค์ทรงตรัสถามว่า... เหตุเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นที่จุดไหน? และสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง? โดยพระองค์ปฏิเสธที่จะเสด็จไปหลบภัยเพลิงไหม้ยังตำหนักหลังที่มีการจัดเตรียมไว้ ซึ่งหลังจาก สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงทราบเหตุการณ์ และทรงสวมจีวรเรียบร้อยแล้ว พระองค์ได้เสด็จไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นบริเวณด้านหลังของวัด โดยทันที ...ทั้งนี้ ทาง พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ได้เล่าไว้ว่า... ’หลังทราบว่ามีเหตุเพลิงไหม้ ทรงถามว่า...ที่ไหน ยังไง โดยหลังเสด็จลงจากตำหนักไป ท่านก็เข้าไปยังพื้นที่ใกล้ ๆ กับบริเวณที่ไฟกำลังไหม้อยู่ทันที เมื่อไปถึง ทรงบอกให้ลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในบริเวณนั้นช่วยกันทุบสังกะสีที่ทำเป็นรั้วกั้นไว้ออกให้หมด เพื่อเปิดเป็นทางสำหรับประชาชน เพื่อเป็นเส้นทางให้ประชาชนได้ใช้เป็นเส้นทางหนีไฟเข้ามาหลบภายในวัดบวรฯ ซึ่งบริเวณด้านหลังวัดนั้น ปกติจะไม่มีทางเข้า-ออก นอกจากนั้นท่านยังบอกให้ทุกคนเร่งช่วยกันทำสะพานชั่วคราวขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนใช้ในการขนของหนีไฟได้สะดวกขึ้น และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางเพื่อเข้าไปดับไฟได้ด้วย“ ...เป็น “คำบอกเล่า” จากหนึ่งในบุคคลที่อยู่ข้างพระวรกายสมเด็จฯ และ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ยังเล่าถึงรายละเอียดให้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ฟังอีกว่า... คืนนั้น ตัวท่านเป็นผู้หนึ่งที่เดินตาม สมเด็จพระสังฆราชฯ โดยหลังจากความพยายามที่จะโน้มน้าวให้พระองค์เสด็จออกจากพื้นที่เกิดเหตุไม่เป็นผล ก็ได้แต่เดินถือไฟฉายตามเสด็จ สมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งเรื่องนี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ยังระบุว่า... ถ้าใครเคยเห็น “ภาพข่าวในอดีต” ของเหตุการณ์นี้ ก็คงจำได้ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ รวมถึงลูกศิษย์ที่ตามเสด็จ เนื้อตัวและอังสะ เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ... เป็น “น้ำดับไฟ” จากหัวฉีดดับเพลิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ บอกว่า... เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จถึงกุฏิหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นกุฏิของรองเจ้าอาวาส ทรงพิจารณา และบอกกับทุกคนว่า... จะพยายามหาวิธีช่วยให้กุฏิหลังนี้รอดจากเพลิงไหม้ให้ได้ โดยทรงบอกให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันช่วยดับไฟ ซึ่งทรงอยู่ให้กำลังใจทุกคน ณ จุดนั้น ทรงอยู่ร่วมกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดยไม่ยอมเสด็จไปไหน ที่สุดก็สามารถสกัดกั้นเพลิงในส่วนนั้น เพลิงไม่ไหม้กุฏิ ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ได้มีผู้คนนำไปบอกเล่าต่อ ๆ กันไปมากมาย... ’เหตุการณ์นี้ มีคนนำไปเล่ามากมาย จนกลายเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ แต่อาตมาเอง...วันนั้นอาตมาไม่เห็นมีฝนตก มีแต่น้ำที่ถูกฉีดจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นกับความเชื่อส่วนบุคคล คงจะห้ามไม่ได้” ...เป็นการระบุถึงจุดที่เป็นที่มา เกี่ยวกับ ’ตำนานเรียกฝนดับไฟ“ ที่ผู้คนเล่าต่อ ๆ กัน ที่ถึงแม้จะผ่านมากว่า 24 ปีแล้ว เรื่องนี้ก็ยังมีการเล่ากันอยู่ ทั้งนี้ ทาง พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวกับ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ด้วยว่า... เหตุการณ์คืนนั้น ที่ท่านเองสัมผัสได้ คือเรื่อง “ความสงบเยือกเย็น” ของ สมเด็จพระสังฆราชฯ ท่านไม่เพียงไม่ทรงตื่นตระหนก แต่ยังทรงให้คำแนะนำกับผู้คนที่อยู่ในอาการตื่นตกใจจากเหตุเพลิงไหม้อีกด้วย ทำให้ประชาชนที่ต่างพยายามหนีเอาตัวรอด มีสติ และหันมาร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันดับไฟ การที่ทรงไม่เสด็จหนีไปไหน แต่ปรากฏพระองค์ในสถานที่เกิดเหตุตลอด ช่วย “เรียกขวัญ” ให้ผู้คนที่กำลังตื่นตกใจกับเหตุเพลิงไหม้ จะมีฝนตกหรือไม่??...ก็ ’ทรงเป็นกำลังใจให้ผู้คน“ ’พระเมตตาของพระองค์นี้...เหนือกว่าสายฝน“.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/366712
ราคาเปิดประมูล80 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 14 ส.ค. 2563 - 02:13:40 น.
วันปิดประมูล - 21 ส.ค. 2563 - 02:13:40 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลthanwa777 (7.8K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     80 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM