(0)
++ เหรียญพระประจำวันทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ปางวันจันทร์ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ปี 2495






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง++ เหรียญพระประจำวันทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ปางวันจันทร์ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ปี 2495
รายละเอียดปางพระประจําวันเกิดและคาถาบูชา

เหตุที่เกิดพระประจําวัน เพราะว่าชีวิตทุกชีวิตย่อมมีวันเกิด การเกิดต้องรู้จักว่า เกิดมาทําไม อยู่เพื่ออะไร ตายแล้วจะไปไหน พระประวัน คือการศึกษาชีวิตที่แท้จริงของมนุษย์ ซึ่งเกิดมาไม่รู้จักวันเกิดของตัวเองว่าเกิดมาเพื่ออะไร
พระพุทธรูปปางวันอาทิตย์ (ปางถวายเนตร)
นิรภัยทุกทิศ : ห้ามกาม ห้ามกาย ห้ามเกิด
ถ้าต้องการห้ามได้ต้องไปศึกษาพระประจําวันจันทร์
๑ วันอาทิตย์ (ธาตุไฟ) มนุษย์เราเกิดจากกามเป็นปางถวายเนตร คือให้มีดวงตาเห็นธรรมเห็นว่า มนุษย์ทุกชีวิตเกิดจากกาม โดยพุทธลักษณะท่านจึงประทับยืนและทํามือประสานไว้เบื้องหน้า เพื่อปิดทวารแห่งการเกิดของชีวิต เพราะทุกชีวิตเกิดจากทวารแห่งการเกิดกาย และไม่เกิดชีวิต ผู้เห็นแจ้งโลกย่อมเห็นภัยในการเกิดเป็นทุกข์ แก่เป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ และตายเป็นทุกข์
ที่มา : เมื่อพระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ทรงประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ที่ร่มมหาโพธิ์ ๗ วัน หลังจากนั้นพระองค์ทรงเสด็จออกจากร่มไม้มหาโพธิ์ ไปประทับยืนกลางแจ้งทางทิศเหนือของต้นมหาโพธิ์ ทรงทอดพระเนตรต้นโพธิ์โดยไม่กระพริบพระเนตร ด้วยอิริยาบถดังกล่าวถึง ๗ วัน สถานที่เสด็จประทับยืนด้วยออริยาบถนั้น นับเป็นนิมิตรมหามงคล เรียกว่า "อนิมิสสเจดีย์" พระพุทธจริยาที่ทรงจ้องพระเนตรดูไม้มหาโพธิ์ โดยมิได้กะพริบพระเนตรถึง ๗ วันนั่นเป็นที่มาแห่งตํานานการสร้างพระพุทธรูปปางนี้ เรียกว่า "ปางถวายเนตร"
พระพุทธรูปปางวันจันทร์ (ปางห้ามสมุทร) หรือ (ปางห้ามญาติ)
ห้ามใจ (กุศล อกุศล) ถ้าต้องการห้ามได้ต้องไปศึกษาพระประจําวันอังคาร
๒ วันจันทร์ (ธาตุดิน) ปางห้ามสมุทร สมุทร คือทะเล เป็นที่เกิดแห่งชีวิตเรา เรียกว่า ทะเลทุกข์ คือการเวียนว่ายตายเกิดของจิตใจ ไม่มีจิตในโลกนี้ก็ไม่มีชีวิต ไม่มีชีวิตในโลกนี้ก็ไม่มีทะเลทุกข์ การห้ามสมุทร คือการห้ามที่ยิ่งใหญ่ การห้ามญาติยังห่างไกล ที่ใกล้ตัวต้องห้ามตัวเราเองได้ การห้ามตัวเราเอง คือการห้ามที่ยิ่งใหญ่กว่ามหาสมุทร จันทร์ คือใจ ใจของเราเองมีสุข มีทุกข์ ห้ามสมุทร คือห้ามใจ ห้ามทั้งสุขและทุกข์ในตัวเรา จึงจะพันธนาการทั้งหลาย
ที่มา : ครั้งหนึ่งได้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองไพศาลี มีประชาชนล้มตายเป็นจํานวนมาก กษัตริยลิจฉวีเจ้า ผู้ครองเมืองจึงได้กราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้เสด็จมาโปรดชาวเมืองพระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระอานนท์เจริญรัตนสูตร และประพรมนําพระพุทธมนต์รอบพระนครจนต่อมาภายหลังโรคร้ายก็หายสิ้นไปจากพระนครด้วยพุทธานุภาพ จึงเรียกว่า "ปางห้ามญาติ หรือปางห้ามพยาธิ"

พระพุทธรูปปางวันอังคาร (ปางนิพพาน หรือปางไสยาสน์)
วางกาย วางใจ คืนสู่โลก
๓ วันอังคาร (ธาตุลม) ปางไสยาสน์ (นิพพาน) ว่างจากเครื่องร้อยรัด อังคาร คือชีวิต คือการต่อสู้ มนุษย์เกิดมาเพื่อต่อสู้กับความทุกข์ ต่อสู้กับการเป็นอยู่อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม เป้าหมายจุดสุดท้ายของมนุษย์ คือพ้นจากเครื่องร้อยรัด คือกายและใจ(ตาย)ก็พ้นแล้ว แต่เราจะทําอย่างไร? ต้องศึกษากายและใจ เพื่อให้พ้นการยึดมั่นถือมั่นตั้งแต่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องคิดถึงความตาย ทุกลมหายใจเข้าออก เพื่อมิให้หลงโลก หลงธรรมหลงกาย หลงใจ และหลงชีวิต
ที่มา : สมัยหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน ในกรุงสาวัตถี ครั้งนั้นอสุรินทราหูจอมอสูร ซึ่งสําคัญว่ามีร่างโตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม พระพุทธเจ้าทรงหวังจะลดทิฐิจอมอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้โตกว่าจอมอสูรในท่าประทับนอนและแสดงธรรมโปรด จนในที่สุดจอมอสูรจึงละทิฐิยอมอ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ จึงเรียกว่า "ปางนิพพาน" หรือ"ปางไสยาสน์" หรือ"ปางโปรดอสุรินทราหู"
พระพุทธรูปปางวันพุธ (กลางวัน)(ปางอุ้มบาตร)
เป็นผู้ช่วยเหลือโลก สอนให้เป็นผู้รู้จักเสียสละ คือผู้รู้ ผู้ช่วยผู้อื่น (ช่วยโลก)
๔ วันพุธ (กลางวัน)(ธาตุน้ำ) ปางอุ้มบาตร พุทธะ คือจิตผู้รู้แจ้งโลกต้องโปรดสัตว์ ช่วยเหลือผู้อื่น อุ้มบาตร คืออุ้มโลก ช่วยโลก คือการเสียสละเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่น วันพุธ ธาตุนํา ธรรมชาติของนําต้องไหลไปทางตํา เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่ยังตํากว่า ถ้าได้รับแสงสว่าง คือความร้อนก็ขึ้นที่สูงได้เป็น พุธกลางวันจึงเป็นผู้รู้
ที่มา : ครั้งหนึ่ง หลักจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมโปรดพระพุทธบิดา และหมู่พระญาติทั้งหลาย บรรดาพระประยูรญาติต่างมีความแช่มชื่นโสมนัสจนลืมกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้มารับภัตตาหารเช้าในพระราชวัง ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเสด็จออกรับบิณฑบาตรจากประชาชนทั่วไปในกรุงกบิลพัสด์ นับเป็นครั้งแรกที่ชาวกรุงกบิลพัสด์ได้เฝ้าชมพระบรมศาสดาทรงอุ้มบาตร เสด็จพระพุทธลีลาโปรดสัตว์ เพิ่มพูนความปิติยินดียิ่งจึงเรียกว่า "ปางอุ้มบาตร"

พระพุทธรูปวันพุธ (กลางคืน)(ปางป่าเลไลยก์)
จิตคือพระพุทธ สอนกายคือ(ช้าง) สอนใจคือ(ลิง)
๔.๑ วันพุธ (กลางคืน)(ธาตุลม) คือผู้รู้ที่มีทิฐิมานะไม่เชื่อฟัง เพราะมีความมืดอวิชชาเป็นเครื่องกําบังติดอัตตาตัวตน สอนผู้อื่นไม่ได้ จึงต้องเข้าป่าไปสอนตัวเองดีกว่าเพราะตัวเองมีใจเป็นบริวาร คือลิง เป็นผู้รับใช้มี ช้างเป็นพาหนะไว้ขี่คอยรับใช้ มีจิตเป็นพุทธะคอยสั่งสอน ช้าง+ลิง ยังสอนได้ฝึกได้ถ้าหากฝึกคนไม่ได้เข้าป่าดีกว่า เมื่อสอนตนเองได้แล้ว จึงค่อยสอนผู้อื่นต่อไป
ที่มา : ในสมัยพุทธกาล เมืองโกสัมพี มีพระภิกษุ ๒ รูปคือ พระวินัยธร และพระธรรมธร (หรือพระธรรมกถึก) แต่ละรูปมีพระภิกษุเป็นบริวารรูปละ ๕๐๐ องค์ได้อาศัยอยู่วัดโฆสิตาราม เมืองโกสัมพี เกิดทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ พระพุทธเจ้าทรงทราบ และตรัสห้ามถึง ๓ ครั้ง แต่ทั้ง ๒ ฝ่ายไม่ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าจังเสด็จหนีออกไปจําพรรษาที่ป่ารักชิตวัน ซึ่งมีพญาช้างชื่อ "ป่าลิไลยกะ" และพญาลิง ถวายปรนนิบัติด้วย อาหาร ผลไม้ และป้องกันอันตรายต่างๆมิให้มายํากรายต่อพระพุทธเจ้า เมื่อปวารณาออกพรรษาแล้วพระอานนท์พุทธอุปัฏฐากได้มากราบทูลเชิญเสด็จไปเมืองโกสัมพี จึงเรียกว่า "ปางป่าเลไลยก์"
พระพุทธรูปวันพฤหัสบดี (ปางสมาธิ)
คือจิตที่สงบนิ่ง จึงจะสามารถรู้ความเป็นจริงของชีวิต สามารถ พูด หรือสั่งสอน จากความรู้จริง
๕ วันพฤหัส (ธาตุดิน) คือผู้รู้เป็นครู เพื่อฝึกหัดผู้อื่น การเป็นครูต้องเป็นผู้รู้จริง ต้องสอนจากประสบการณ์จริง ต้องพูดจากตัวรู้ มิใช่ตัวจําได้ อ่านได้ เรียนได้หรือสอนได้ ปางสมาธิ คือหยุดจากความวุ่นวาย มนุษย์หยุดนิ่งไซร้ความจริงย่อมเกิดถ้าท่านยังไม่หยุดท่านยังไม่มีโอกาสได้พบความจริง เป็นปางตรัสรู้ คือพูดจากตัวรู้จึงจะถูกต้อง ตัวรู้ คือจิต ตัวถูกรู้ คือใจเรา เรียกว่าความจํา
ที่มา : ภายหลังจากที่ประพุทธเจ้าได้กําราบพระยามารลงได้แล้ว พระองค์จึงได้ตั้งพระทัยเจริญสมาธิ จนได้บรรลุญาณขั้นต่างๆ และในที่สุดก็ได้บรรลุอนุตรสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเช้าตรู่ของวันเพ็ญขึ้น ๑๕ คําเดือน ๖ (วันวิสาขบูชา) จึงเรียกว่า "ปางสมาธิ"
พระพุทธรูปวันศุกร์ (ปางรําพึง)
คือจุดยืนของมนุษย์ อยู่เพียงความพอกาย และพอใจทั้งสิ้น
๖ วันศุกร์ (ธาตุน้ำ) ปางรําพึง เอามือทาบหน้าอกทั้งสองข้าง คือมือขวามาทาบหน้าอกซ้ายแล้วรําพึงว่า การกระทําทุกอย่างที่เป็นสุขล้วนแล้วแต่เกิดจากใจทั้งสิ้นมือซ้ายมาทาบที่หน้าอกข้างขวา คือใจที่อยู่กับกาย ถ้ารู้จักพอกายก็เป็นสุขทั้งสิ้น นี่คือจุดยืนของมนุษย์
ที่มา : ภายหลังจากที่ตรัสรู้ได้ไม่นานพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ใต้ต้นไทร ก็ได้ทรงรําพึงถึงพระธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นั้นว่า เป็นธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งยากแก่การเข้าใจจึงรู้สึกอ่อนพระทัยในการที่จะนําออกแสดงโปรดสัตว์ แต่เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าสรรพสัตว์มีภูมิต่างกันจึงทรงพระดําริที่จะแสดงธรรมตามภูมิชั้นแห่งปัญญาสรรพสัตว์นั้นๆ จึงเรียกว่า "ปางรําพึง"

พระพุทธรูปวันเสาร์ (ปางนาคปรก)
คือจุดสุดท้ายของมนุษย์ต้องมีความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฐิ) มีองค์ ๗ หมายถึง นาค ๗ เศียร(ปัญญา) ที่รักษาจิต คือ(พระพุทธ) ทุกชีวิตต้องมี
๗ วันเสาร์ (ธาตุไฟ) ปางนาคปรก ปางเมื่อพระองค์ทรงบําเพ็ญแล้วเกิดพญามารมารบกวน เนรมิตให้ฝนตก นําท่วม จึงมีพญานาค ๗ เศียร มาปกปักรักษาเป็นเครื่องหมายว่า เมื่อจิตคือ พระพุทธ คิดที่จะบําเพ็ญแล้วต้องอาศัย ปัญญาสัมมาทิฐิซึ่งมีองค์ ๗ แสงสว่างแห่งจิต คือใจ ที่เกิดปัญญาแล้ว จึงจะรักษาจิตให้พ้นจากกิเลส ตัณหา พญามารทั้งหลายได้
ที่มา : ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ใต้ต้นจิก (มุจจรินทร์) บังเอิญในช่วงนั้นมีฝนตกหนักตลอด ๗ วัน พระยานาคมุจจรินทร์ ได้เลื้อยมาทําขนดล้อมพระวรกายของพระพุทธองค์ ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพาบปกไว้ในเบื้องบนเหมือนกั้นฉัตร ด้วยประสงค์จะกําบังลมฝนมิให้ต้องพระวรกาย จึงเรียกว่า "ปางนาคปรก"
ขอบคุณข้อมูลที่มา:http://www.buddhadham.8m.com/dham04.htm

คาถาบูชาพระประจำวันเกิด

คนเกิดวันอาทิตย์ พระพุทธรูปปางถวายเนตร

คำสวดแบบย่อ คือ อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ ให้สวดวันละ ๖ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันจันทร์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ

คำสวดแบบย่อ คือ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ให้สวดวันละ ๑๕ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันอังคาร พระพุทธรูปปางไสยาสน์

คำสวดแบบย่อ คือ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง สวดวันละ ๘ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันพุธ กลางวัน พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร

คำสวดแบบย่อ คือ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท สวดวันละ ๑๗ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันพุธ กลางคืน พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์

คำสวดแบบย่อ คือ คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ สวดวันละ ๑๒ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันพฤหัสบดี พระพุทธรูปปางตรัสรู้ หรือปางสมาธิ

คำสวดแบบย่อ คือ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ สวดวันละ ๑๙ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันศุกร์ พระพุทธรูปปางรำพึง

คำสวดแบบย่อ คือ วา โธ โน อะ มะ มะ วา สวดวันละ ๒๑ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

คนเกิดวันเสาร์ พระพุทธรูปปางนาคปรก

คำสวดแบบย่อ คือ โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ สวดวันละ ๑๐ จบ ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ด้วย ลาภยศ และป้องกันภยันตรายต่างๆ

************************
สำหรับองค์นี้เป็นพิมพ์ประจำวันจันทร์ เนื้อทองแดง แท้ดูง่าย พุทธคุณสูง เสริมบารมีสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์และบูชาต่อเนื่อง หายากในยุคนี้ครับ สำหรับหลวงพ่อจาดนั้นเป็นพระเกจิยุคที่ปลุกเสกพระชินราชอินโดจีน และเป็น 1 ในเบญจภาคีพระเกจิชื่อดังในอดีต เมื่อมีการปลุกเสกพระในยุคนั้นต้องมี จาด-จง-คง-อี๋ เป็นเกจิหลักของพิธีใหญ่ๆ ท่านใดหาอยู่เชิญนะครับ ลองพิจารณาดูครับผม


** ท่านใดที่ประมูลได้ เมื่อปิดการประมูลแล้วหากต้องการเปลี่ยนที่อยู่รบกวนเเจ้งไว้เมล์บล็อกด่วนนะครับ เเละเมื่อทำการโอนเเล้วเเจ้งทางเมล์บล็อกไว้อีกครั้งนะครับ บ้างครั้งทำงานอยู่ไม่สะดวกรับสาย เเละง่ายในการตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ซึ่งจะทำให้ล่าช้าได้ครับหรือท่านใดต้องการส่งหลักฐานการโอนทาง ID.Line ตามนี้ได้เลยนะครับ pilotuv19 ขอบคุณครับ ****
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน400 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 30 ส.ค. 2562 - 12:42:34 น.
วันปิดประมูล - 31 ส.ค. 2562 - 18:37:36 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลเก๋นครนายก (12.4K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    yotbt (87)

 

Copyright ©G-PRA.COM