(0)
เคาะเดียวเหรียญมังกรคู่ รุ่นแรก สมปรารถณาครอบจักรวาล ยุคต้นปี 2560 หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ. นครพนม เนื้อทองทิพย์งามดั่งทอง เลข 1719








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะเดียวเหรียญมังกรคู่ รุ่นแรก สมปรารถณาครอบจักรวาล ยุคต้นปี 2560 หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ. นครพนม เนื้อทองทิพย์งามดั่งทอง เลข 1719
รายละเอียดเหรียญมังกรคู่ สมปรารถณาครอบจักรวาล รุ่นแรก ยุคต้นปี 2560 หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ. นครพนม เนื้อทองทิพย์ งามดั่งทอง เลข 1719
#หลวงปู่สอ ขันติโก" วัดโพธิ์ศรี ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลัง
เป็นศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำสองฝั่งโขงไทย-ลาว พระเกจิผู้นำในการสร้างพระธาตุท่าอุเทน และพระธาตุบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ศิษย์สายสมเด็จลุน แขวงจำปาสัก สปป ลาว อยู่กับ
#หลวงปู่หมุน 7-8 ปีเลยทีเดียว
ปัจจุบัน สิริอายุ 114 ปีแล้ว
มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันจันทร์ ปีมะเส็ง พ.ศ.2448 ตามคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ ระบุว่า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 5
เป็นชาวบ้าน บ้านบะหว้า หมู่ 10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ครอบครัวมีพี่น้องร่วมกัน 6 คน
เมื่อแรกเกิด แม่ของท่านบอกว่า บุตรชายมีสายรกพันคอ จะได้บวช
ส่วนชีวิตในวัยเด็ก เป็นคนที่เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นวัยเดียวกัน

มีโอกาสเข้ากราบนมัสการหลวงปู่สีทัตถ์ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงขอติดตามไปยัง ภูเขาควายฝั่งลาวและได้บวชเป็นสามเณร คอยรับใช้อุปัฏฐากเล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆ
กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
อยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สีทัตถ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขา ถ้ำภูผาต่างๆ จนได้ทราบข่าวอาการ ป่วยของมารดา ในขณะนั้นหลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขาออกมาดูแลจนถึงวาระสุดท้าย
ในเวลาต่อมา จึงขอเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง
เคร่งครัดในธรรมวินัย วัตรปฏิบัติดี ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาในเขตพื้นที่ภาคอีสาน
ครั้งนั้นข้ามไปยังฝั่งลาว บ้านบุ่ง อยู่จำพรรษา พัฒนาวัดบ้านบุ่งอยู่หลายปี ก่อนออกเดินทางไปพบหลวงปู่สีทัตถ์อีกครั้ง จนกระทั่งมรณภาพ
หลังจากนั้น กลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษา ที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช ในขณะนั้น ยังมีครูบาอาจารย์ที่เป็นทั้งสหธรรมิกและศิษย์ผู้พี่หลายท่าน อาทิ หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว ศิษย์ผู้ใหญ่ในหลวงปู่สีทัตถ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์ผู้พี่ของท่าน, หลวงปู่คาร คันธิโย, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม ขอศึกษากับท่านอยู่เป็นระยะ
หลวงปู่สอเป็นพระเกจิที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน ที่ยังดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย แม้อายุจะล่วงมาถึง 114 ปี แต่สายตายัง มองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ
"มังกรคู่" เป็นสัญลักษณ์แห่ง พลัง อำนาจ ความยิ่งใหญ่
"มังกร" เป็นตัวแทนแห่งความแข็งแกร่ง ความดีงาม ความตั้งใจ ความอุตสาหะพยายาม ความกล้าหาญ และความอดทน
ลองอ่านดูนะจ้าพุทธคุณยันต์ ที่วางบนเหรียญมังกรคู่
"มงกุฎพระพุทธเจ้า"หรือที่่รู้จักกันในชื่อ "คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย"
อันเป็นคาถาเสกหญ้าให้ม้ากิน ที่หลวงปู่เอี่ยมถวายแก่ ร.5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป
"มีตัวคาถาว่า "อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ "
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ
คำแปลคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า
อิ ติปิโส วิเสเส อิ
แม้เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงวิเศษ
อิ เสเส พุทธะนาเม อิ
เพราะวิเศษ ควรนอบน้อมพระพุทธเจ้า
อิ เมนา พุทธะตังโส อิ
เพราะนอบน้อมพระพุทธเจ้า เราจะเข้าถึงพระองค์
อิ โสตัง พุทธะปิติ อิ
เพราะเราเข้าถึงพระองค์ ก็จะปิติในพระพุทธเจ้า
อุปเท่ห์ในการใช้พระคาถา
ภาวนาทุกวันมิตกนรก เสกน้ำล้างหน้าทุกวันกันโรคภัยไข้เจ็บคุณไสยทั้งมวล ถ้าจะให้มีตบะเดชะให้ภาวนาทุกวัน เกิดสง่าราศีเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย ให้ภาวนาแล้วแผ่เมตตาให้คนทั้งปวง ใครคิดร้ายก็ต้องมีอันเป็นไป ถ้าปรารถนาสิ่งใด ให้ภาวนาคาถานี้ ๑๘ คาบ เป็นไปได้ดังใจนึก
ถ้าจะให้เป็นมหาจังงัง ให้ภาวนาคาถานี้ ๘ คาบเป็นมหาจังงังแล ถ้าจะให้เป็นมหาละลวยให้ภาวนา ๙ คาบ
ถ้าช้างม้าวัวควายสัตว์ที่ดุร้ายทั้งหลาย ให้เสกหญ้าเสกของให้มันกิน กลับใจอ่อนรักเราแล ถ้าภูตพรายมันเข้าอยู่คน เสกข้าวให้มันกินออกแล
ถ้าปรารถนาจะให้เสียงเพราะ ให้เสกสีผึ้งสีปากเสกหมากกินไป เทศนาสวดร้องเป็นที่พอใจคนทั้งหลาย ให้เสกแป้งผัดหน้า เสกมงกุฎรัดเกล้า เป็นสง่าราศีใครเห็นใครรักทุกคน
อนึ่งให้เอาใบลานหรือกระดาษว่าวมาลงคาถานี้ ทำเป็นมงคลเสกด้วยตัวเอง สารพัดกันศาสตราอาวุธทั้งหลาย เป็นวิเศษนัก
พระคาถาบทนี้ พระมหากษัตริย์แต่เก่าก่อนทรงใช้ประจำทุกพระองค์แล
อนึ่งพระคาถานี้ใช้สำหรับภาวนาสักการะซึ่งพระบรมธาตุ พระพุทธปฏิมา พระเจดีย์สิ้นทั้งปวง แต่โบราณมากำหนดเอาพระคาถานี้ใช้อัญเชิญพระบรมธาตุเสด็จโดยปาฏิหาริย์แล
เคล็ดในการสวดคาถา "มงกุฎพระพุทธเจ้า"
หลักในการว่าคาถาให้มีความศักดิ์สิทธิ์นั้น มีพื้นฐานจาก " จิต " เป็นสำคัญ หากจิตมีสมาธิสูง ตั้งมั่นคาถาก็ยิ่งทรงความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นระหว่างที่ว่าคาถาให้ จับลมหายใจสบายพร้อม ๆ กับการภาวนาคาถาบทนี้ เป็นขั้นที่ 1 ระดับสูงกว่านี้
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ท่านใช้คาถาบทนี้โดยมีนิมิต กำกับคาถา โดยทรงพุทธนิมิต ไว้ดังนี้ โดยตั้งกำลังใจว่าเรา ขอกราบอาธารณาบารมีพระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้าเพื่อ.......ปกปักรักษาคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " เมื่อว่าคาถาจบ คาบที่ 1 ก็กำหนดอาราธณาพุทธนิมิตอยู่เบื้องหน้าของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตนี้เอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 2 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์หนึ่ง อยู่เบื้องขวาของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตทั้งหมดเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 3 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านหลังของศีรษะเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 4 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านซ้าย และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 5 ก็กำหนด พุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 6 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 7 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 8 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเรา
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "ว่าคาถาจบที่ 9 กำหนดพุทธนิมิตพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึก ทุกๆพระองค์เป็น มงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์บนเศียรเกล้าของเรา
เมื่อทำได้แล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าคาถานี้ทำไมจึงมีชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า และ ให้ทรงมงกุฎพระพุทธเจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลาเป็นการทรงอารมณ์ในพุทธานุสตกรรมฐาน
ราคาเปิดประมูล980 บาท
ราคาปัจจุบัน1,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 21 ก.พ. 2562 - 09:21:18 น.
วันปิดประมูล - 27 ก.พ. 2562 - 03:47:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลหนานหนัด (1.2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 21 ก.พ. 2562 - 09:25:01 น.



เหรียญมังกรคู่ สมปรารถณาครอบจักรวาล รุ่นแรก ยุคต้นปี 2560 หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ. นครพนม เนื้อทองทิพย์ งามดั่งทอง เลข 1719
#หลวงปู่สอ ขันติโก" วัดโพธิ์ศรี ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม


 
ราคาปัจจุบัน :     1,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Areekhuan (409)

 

Copyright ©G-PRA.COM