(0)
วัดใจ เหรียญหลวงปู่พระครูวรพรต วัดจุมพล ปี 39 เนื้อทองแดง






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องวัดใจ เหรียญหลวงปู่พระครูวรพรต วัดจุมพล ปี 39 เนื้อทองแดง
รายละเอียดเหรียญหลวงปู่พระครูวรพรต วัดจุมพล ปี 39 เนื้อทองแดง สภาพสวยมาก หลวงปู่พระครูวรพรตวิธาน วัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อำเภอแวงน้อย ขอนแก่นนี้ เป็นพระเถราจารย์เรืองวิทยาคมอีกรูปแห่งเมืองหมอแคน เหรียญรุ่นนี้ออกวัดทุ่งสว่าง จ.ข่อนแก่น วัตถุมงคลของท่านเด่นดังทางด้านแคล้วคลาดคงกระพัน เป็นเมตตากันผีกันคุณไสยเป็นยอดครับ ประวัติของท่านไม่ธรรมดา เหยียบรถกระดกมาแล้วถือว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของท่านที่ท่านแสดงให้เหล่าศิษยานุศิษย์และคนที่ไม่เลื่อมใสในพุทธศาสนาลบหลู่ท่านได้เห็นว่า พระอริยสงฆ์มีจริงในโลก ไม่ใช่ดับสูญไปหลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ปัจจุบันหลวงปู่วรพรตวิธานมรณภาพไปแล้วเมื่อปี 45 ร่างกายสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ถือเป็นพระเถราจารย์อีกรูปหนึ่งที่น่ากราบใหว้ได้อย่างสนิทใจครับ และก็ถือเป็นพระเถราจารย์ผู้เรืองวิทยาคมอีกรูปของจังหวัด มีผู้คนหลายๆท่านสายเมืองหมอแคนยกให้ท่านเป็นเบอร์ 2 ต่อจากหลวงพ่อผาง ถ้าหากท่านใดเจอวัตถุมงคลของท่านอย่าปล่อยให้หลุดมือนะครับ พุทธคุณเกินราคา หาเช่าได้ยังไม่แรงมาก “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง”

ประวัติ พระเกจิดังอีกรูป แห่งเมืองหมอแคน หลวงปู่พระครูวรพรตวิธาน วัดจุมพล แวงน้อย จ.ข่อนแก่น

นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด(ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้งวันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล
หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5
พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนาวัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกลับวัดจุมพลของท่าน
หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้

หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก ก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่หรือเปล่าไม่ทราบ
หลวงปู่วรพรต ท่านอยู่ในใจของบ้านก้านเหลือง ท่านโด่งดังมากเป็นพระที่ไล่ผี-ไล่ปอบ ชงัดนัก ท่านไปปักหลัก (เสากลางหมู่บ้าน ตั้งศาลหมู่บ้าน) ท่านจะห้ามฆ่าสัตว์ใหญ่ภายในบ้าน ถ้ามีงาน (ไม่ว่า งานบวช งานแต่ง งานศพ) ให้นำไปฆ่านอกบ้านที่ท่านตอกหลักกันหมู่บ้านใว้ ถ้ามีงานเลี้ยง ฆ่าเสร็จแล้วจึงนำมากินเลี้ยงกันในหมู่บ้าน ไม่งั้นจะเกิดความไม่เป็นสิริมงคลในหมู่บ้าน ถ้าบ้านไหนมีผีเข้าออกบ้านได้จะกลายเป็นพรายทันทีและจะเริ่มเฮี้ยนขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปอบ ตะกรุดของท่านโด่งดังมาก แมลงวันไม่ได้กินเลือด แขวนแล้วห้ามกินเนื้อคาโคลง (เสื่อมทันที) เวลามีเหตุต้องประจันบานให้รูดมาใว้ข้างหน้า ท่องคาถา นะโมพุทธายะ แล้วลุยยยย ถ้าหนีให้รูดมาใว้ด้านหลัง (แล้วเด็ดใบไม้รูดตลอดทาง ถ้าเจอ ผมไม่เอ่ยว่าใบอะไร) รับรองไม่ตายโหง เหรียญนี้หายากแทบจะยากมาก ๆ ท่านที่ชอบสะสมของหายาก เชิญเหรียญนี้ครับ 1 เดียวจริง ๆ คาถาจัตตาโร ของกู ท่องใว้ประจำแขวนของกูใว้อย่าไปทำไม่ดี รับรองไม่มีตายโหง หลวงปู่ท่านเป็นพระมักน้อยสันโดษ ผมเชื่อว่าหลายท่านเคยไปฝังตะกรุดทองคำกับท่าน หรือยุคเก่า ๆ ท่านเคยสักน้ำมันให้ลูกศิษย์หลายคน ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหนียว ก่อนท่านจะวางเข็มเพราะชราภาพ วัตถุมงคลของท่านล้วนมีประสบการณ์ทุกรุ่น ไม่งั้นท่านคงไม่เหรียบรถสองแถวกระดกได้เพราะฤทธิ์อภิญญาหรอกครับ (นั่นแสดงว่า หลวงปู่วรพรต ท่านได้ฌาณสมาบัติ หรือเราเรียกว่าฌาณโลกีย์ อภิญญา 6 นั่นเอง) ท่านที่ปฏิบัติธรรมจะรู้ได้ว่ามีอยู่ เป็นปัจจัสตัง (รู้ได้เฉพาะตัว)
ราคาเปิดประมูล230 บาท
ราคาปัจจุบัน270 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 20 ก.พ. 2562 - 16:53:56 น.
วันปิดประมูล - 23 ก.พ. 2562 - 18:32:01 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลtong2622 (956)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     270 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Adul02 (122)

 

Copyright ©G-PRA.COM