| ชื่อพระเครื่อง | พระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสี (พระกริ่งร่ำรวย)หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม เนื้อโลหะผสม จำนวนจัดสร้าง 2500 องค์ในอนาคตคาดว่าคงหาดูยากเพราะจำนวนการสร้าง ไม่มาก |
| รายละเอียด | พระกริ่งโปร่งฟ้า ไถ้รัสสี (กริ่งร่ำรวยเศรษฐีใหญ่) เนื้อนวโลหะ หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี หายากมากๆครับสร้างน้อยครับ องค์นี้สวยเดิมไม่ผ่านการใช้ครับสวยๆแบบนี้หายากครับแท้รับประกันตลอดชีวิตครับ สร้าง ปี 2548 ในพิธีเบิกฟ้ามหาพุทธาภิเษก ด้วยอมตะวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร ตั้งนามวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า รุ่น ร่ำรวย ซึ่งเป็นประโยคคำพูดที่หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร ท่านได้ให้พระลูกศิษย์ลูกหาอยู่บ่อยครั้งว่า ร่ำรวย ร่ำรวย ร่ำรวย จนในที่สุดได้บังเกิดพระกริ่งนามว่า โปร่งฟ้า ไถ้รัสสี พระกริ่งร่ำรวย หรือพระกริ่งเศรษฐีใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปพระกริ่งจีน พระวรกายอวบอ้วน พระพักตร์อิ่มเอิบ พระหัตถ์ซ้ายถือไถ้ (ไถ้ หมายถึง ถุงหรือย่ามสำหรับเก็บทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงินทองของมหาเศรษฐีหรือเศรษฐีใหญ่) ตำราท่านกล่าวว่าถึงแม้จะเป็นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีจะไปเสาะแสวงหาทรัพย์สมบัติมาได้อย่างมากมายมหาศาลสักเพียงใดก็ตาม ก็จะต้องเอามาเก็บที่ไถ้นี้ ไถ้นี้เปรียบเสมือนคลังมหาสมบัติ คอยดูดทรัพย์มาจากที่ต่าง ๆ เอามาเก็บไว้ องค์พระจะมีรูกลวงจากยอดพระเกศาทะลุจนถึงฐานและส่องจากฐานทะลุถึงยอดพระเกศ เรียกว่า โปร่งฟ้า >การจัดบริเวณพิธี< ต้องจัดกลางแจ้ง บริเวณกลางลานสถานที่ก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ มีการขึงด้ายสายสิญจน์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน ตรงกลางวางวัตถุมงคล มวลสารโลหะธาตุ แผ่นพระยันต์ต่าง ๆ (แผ่นพระยันต์ที่ปลุกเสกในอุโบสถวัดพระแก้วฯ หรือวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั่นเอง) ที่จะนำมาหลอมองค์พระกริ่งและพระรูปเหมือน โดยรอบชั้นในจัดวางอาสนะสำหรับพระที่จะมานั่งปรกและพระสวดพุทธาภิเษก ด้านทิศใต้วางโต๊ะหมู่เศียรครูหันไปทางทิศเหนือ ทางด้านทิศตะวันตกเป็นบริเวณลานเททองหล่อพระกริ่งและพระรูปเหมือน ชั้นนอกสุดเป็นขอบปริมณฑล การจัดปริมณฑลพิธีเบิกฟ้ามหาพุทธาภิเษกนี้ ไม่เหมือนกับการจัดพิธีพุทธาภิเษกธรรมดาทั่ว ๆ ไป ทั่วทั้งบริเวณปริมณฑลชั้นนอก ชั้นใน แต่ละมุม แต่ละทิศจะต้องตั้งเสาธงเป็นเทวดาประจำทิศ เทวดาประจำวัน เทวดาประจำเดือน เทวดาประจำปี การขึ้นเสาธงแต่ละต้นจะขึ้นตามทิศตามฤกษ์ ฤกษ์แห่งการตั้งหลักปักฐานรับพลังแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยเพรียบพร้อมด้วย อำนาจราชศักดิ์ วาสนาบารมี มีฐานกำลังแห่งความมั่นคงจากพวกพ้องบริวาร เกื้อหนุนผลักดันให้ขึ้นเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ แต่ถึงจะยิ่งใหญ่ร่ำรวย มีอำนาจราชศักดิ์สักเพียงใด ในที่สุดก็จะต้องเป็นผู้ค้ำจุนเกื้อหนุนพระพุทธศาสนา เสาแต่ละต้นทำด้วยไม้ไผ่สูงประมาณ 12 เมตร นอกจากปลายเสาจะผูกด้วยธงเทวดาประจำทิศแล้ว ที่สำคัญจะต้องบรรจุพระยอดธงไว้ตรงบริเวณยอดปล้องไม้ไผ่ทุกต้น แต่ละต้นจำนวนมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ที่ฤกษ์และทิศที่ตั้งเสาพระยอดธงนี้ทำพิธีหล่อมาก่อนเพื่อเตรียมนำ มาประกอบพิธีซึ่งจะขาดไม่ได้ หลังจากเสร็จแล้วก็จะต้องนำไปถวายหลวงปู่ญาท่านสวนท่านอธิตฐานจิตก่อนนำขึ้น ไปบรรจุบนยอดเสาธงทุกต้น นี่คือยุทธศาสตร์ในการวางค่ายกลตามตำราเคล็ดวิชา ซึ่งจะต้องใช้เวลาศึกษาเรียนรู้อีกมากจึงจะเข้าใจ แม้กระทั่งเจ้าพิธีที่ประกอบพิธีเบิกฟ้ามหาพุทธาภิเษกนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้ร่ำเรียนในสาขาวิชาศาสตร์เหล่านี้ซึ่งมีต้นกำเนิดจากต้น สายเดียวกันทำไมจึงต้อง 3 ท่าน จึงจะประกอบพิธีนี้ได้ และทั้ง 3 ท่าน กว่าจะมารวมกันได้มิใช่เรื่องธรรมดา เชื่อมั่นว่าเกิดจากเพราะแรงครูบาอาจารย์บันดาลให้เกิด เพระาการประกอบพิธีเบิกฟ้ามหาพุทธาภิเษกจะขาดบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ได้ เพราะทั้ง 3 ท่าน เรียนมาจากตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน อุปมาดั่งการสร้างพระธาตุเจดีย์ จะมี 3 ส่วนสำคัญได้แก่ ส่วนฐานเจดีย์จะต้องมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง ท่านที่อยู่ในตำแหน่งนี้จะต้องเรียนรู้ถึงการสร้างรากฐานทั้งหมด บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งนี้คือ พระอาจารย์มีนา เตชธัมโม วัดสนามชัย สอง บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งกลาง ซึ่งอุปมาหมายถึงองค์พระธาตุเจดีย์ก็จะต้องเรียนรู้ ในส่วนกลางเป็นตำแหน่งเชื่อมระหว่างฐานกับยอด ท่านที่อยู่ในตำแหน่งนี้ คือ อาจารย์ตั๋ง (พลายมาศ แสนทวีสุข) ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาส สาม บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งยอด คือตำแหน่งสูงสุด ครอบคลุมในส่วนกลางและส่วนฐาน เป็นตำแหน่งที่ดึงดูดเอาพลังแห่งจักรวาลลงมากระจายไปสู่ส่วนกลางส่วนฐานและ เบื้องล่างสุด บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งนี้ คือ อาจารย์เกรียงศักดิ์ สุขประดิษฐ์ (อาจารย์ฆราวาส ผู้ประกอบพิธีดึงเอาพลังสายฟ้าลงมาบรรจุในตัวมีด สายฟ้ามหาปราบไตรจักร ) ท่านผู้อ่านได้อ่านแล้วก็คงจะงงและสงสัยว่ามันมีอย่างนี้ด้วยเหรอ ? การประกอบพิธีเบิกฟ้ามหาพุทธาภิเษกหรือพิธีเปิดโลกก็เป็นการเชื่อมระหว่าง สวรรค์ มนุษย์ พิภพ เมื่อองค์ประกอบครบถ้วนพลังงานก็เกิด ฉะนั้นพระธาตุเจดีย์จะขาดส่วนสำคัญส่วนใดส่วนหนึ่งมิได้ ขาดฐาน ขาดกลาง ขาดยอดไม่ได้ ถ้าหากขาดเจดีย์ก็ไม่เป็นเจดีย์ เช่นเดียวกับการลงอักขระเลข ในส่วนที่ลงองค์พระซึ่งประกอบด้วยบาทะ คือ ฐาน องค์พระ คือ ส่วนกลาง ศรีษะ คือ ส่วนยอด ก็จะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไม่ได้เช่นกัน สำหรับพระยอดธงประจำเสาแต่ละต้น และพระยอดธงที่อยู่ในพิธีมีจำนวนทั้งหมด 1,935 องค์ สำหรับเสากลางถือว่าเป็นเสาเอก จะต้องขึ้นธงธรรมจักรและธงเพชรฉลูกัน และบรรจุพระยอดธงใช้จำนวนหนึ่งตามฤกษ์เช่นกัน ฤกษ์ตั้งเสาขึ้นธงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 3 พ.ย. 2548 ส่วนมุมทางด้านทิศ ใต้ซึ่งจัดเป็นปะรำประดิษฐ์เศียรครูและเศียรองค์มหาเทพต่าง ๆ เช่น เศียรพระเพชรฉลูกัน เศียรพระนารายณ์ เศียรพระพรหม เศียรปู่พระฤาษี เศียรพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ด้านซ้าย-ด้านขวา และหลังปักเสาธงรูปพระเพชรฉลูกัน ส่วนด้านหน้าปักด้วย ธงพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นมหาเทพที่จะต้องได้รับการบูชา ก่อนมหาเทพองค์ใด ๆ เพราะเชื่อว่าถ้าหากกระทำการบูชาก่อน แล้วจะทำให้พิธีกรรมนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี |
| ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 3,550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 03 ก.ย. 2559 - 20:26:25 น. |
| วันปิดประมูล | - 08 ก.ย. 2559 - 08:45:53 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | เจก่ะวาย (1.8K)    
|
