(0)
เหรียญดับดาว หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เนื้อทองแดง ปี 2521ผิวปรอท สวยมาก (โค้ดสิงหเสนี..หายาก)






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญดับดาว หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เนื้อทองแดง ปี 2521ผิวปรอท สวยมาก (โค้ดสิงหเสนี..หายาก)
รายละเอียด(....โค้ดสิงหาเสนี.....)เหรียญดับดาว หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เนื้อทองแดง ปี 2521 ผิวปรอทสวยมากๆๆๆ เส้นเลือดที่ใบหน้าขึ้นสวยคมชัดเจนมากครับ

หลวงพ่อทองอยู่ ท่านเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรกว่า ๓๐ ปี ไปในที่ทุรกันดารต่าง ๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือ เก่งทางด้านปฏิบัติธรรม ก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ

ประวัติหลวงพ่อแห ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อพร วัดหนองแขม ตำบลหนองแขม จังหวัดกรุงเทพฯ ท่านได้ศึกษาทดลองวิชาอาคมกับหลวงพ่อพร ที่วงการพระเครื่องรู้จักกันดีว่ามีวิทยาอาคมเพียงใด หลวงพ่อท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแห ก็ตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากับหลวงพ่อแหเป็นประจำ จนเกิดความชำนาญในสมาธิภาวนาที่ท่านได้ทำเป็นประจำ
พอออกพรรษาท่านก็ขอลาหลวงพ่อออกธุดงค์ คราวนี้ท่านได้ไปนมัสการพระธาตุพนม การเดินทางไปธุดงค์ในสมัยนั้นยากมากด้วยสิงห์สาราสัตว์ในป่าดงดิบนั้นมากมาย ครั้งหนึ่งในระหว่างทางท่านได้พบฝูงความยป่าเข้าโดยบังเอิญ หลวงพ่อก็ใช้ปัญญาวิจารณญาณและสมาธิภาวนา ทำจิตให้สงบเจริญเมตตาภาวนาจนฝูงควายป่าที่วนเวียนเพ่นพ่านอยู่ล่าถอยหลบทางให้ ในคืนนั้นท่านได้ปักกลดพักในป่า รุ่งเช้าท่านจึงออกเดินทางต่อไป ในพรรษานี้หลวงพ่อกลับวัดไม่ทันก็จำพรรษาที่วัดในระหว่างทาง ท่านได้ศึกษาสมาธิภาวนากับพระอาจารย์ที่วัดนั้นด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มเติมความรู้ให้แตกฉานยิ่งขึ้น พอออกพรรษาท่านจึงลาพระอาจารย์เพื่อเดินธุดงค์ต่อไป

หลวงพ่อทองอยู่ ท่านได้ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมาก ๆ ในสมัยก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธานี้ ท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่านที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี และ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ จะเห็นว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่เอ่ยนามมานี้ ล้วนเก่งกล้าวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมของสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ดังนั้น หลวงพ่อทองอยู่ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้อง หรือ รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ โดยเรียนวิชายันต์ตรีนิสิงเห มาจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร มาด้วยกัน งานไหนมีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือ วัตถุมงคล ที่นั่นจะมี หลวงปู่โต๊ะกับ หลวงพ่อทองอยู่ ด้วยเสมอ วิชาที่สุดยอดของท่านอีกอย่างคือ ลงกระหม่อมด้วยน้ำมันจันทร์หอม ใครได้ลงครบสามครั้ง รับรองได้ว่า ไม่มีตายโหง และไม่อดไม่อยาก เป็นที่รักใคร่ของคนโดยทั่วไป ท่านเจริญเมตตา จนมีฝูงปลาสวายมาอยู่หน้าวัดเต็มไปหมดเลย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ ใน ๔ องค์ ที่หลวงปู่โต๊ะนิมนต์มาในงานครบรอบวันเกิดของท่านทุกปี อีกสามองค์ที่เหลือ องค์แรก คือ หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงทพฯ องค์ที่สอง หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี สุพรรณบุรี องค์ที่สามเป็น พระจีน (ไม่ทราบชื่อ) สำหรับงานวันเกิดหลวงปู่โต๊ะนั้น จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อทั้ง ๔ องค์นี้เป็นประจำ มานั่งสี่มุม ส่วนหลวงปู่โต๊ะท่านจะนั่งที่หน้าพระประธานเป็นองค์ที่ห้า ซึ่งหลวงปู่โต๊ะท่านยังสั่งลูกศิษย์ลูกหาของท่านว่าหลวงพ่อทองอยู่นั้น สามารถเป็นที่พึ่งพิงของลูกศิษย์ได้อีกรูปหนึ่งให้ไปกราบนัสการ หลวงพ่อทองอยู่ท่านก็เมตตาอนุเคราะห์แก่บรรดาลูกศิษย์ที่มาหาท่านเสมอกันทุกคนไม่เลือกว่ายากดีมีจน

คำสั่งเสียของหลวงปู่โต๊ะ ก่อนมรณภาพ
ในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า "หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้" และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๔ โดยหลวงปู่เป็นประธานในพิธี และมีเกจิอาจารย์อีก ๙ ท่าน ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

สองเกจิร่วมสมัย ร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๐๐ กว่า ๆ เป็นเหตุการณ์ที่พระอริยะเจ้าสองรูป ได้โปรดวิญญาณ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ในคลองภาษีเจริญ บริเวณประตูน้ำหน้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอริยะเจ้าสองรูปนั้น องค์แรกท่าน คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตรอกดอกไม้ และ หลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุในขณะนี้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดีจะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน
มีเรื่องบอกเล่าโดยพระที่เคยบวชอยู่ที่วัดหนองพะองว่า เมื่อว่างเว้นจากภารกิจหน้าที่การงานก่อสร้างและการทำวัตรเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ไปชุมนุมกันอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อในเวลากลางคืน หลวงพ่อท่านจึงถามว่า จะไปไหนกัน มากันพร้อมเพรียงเชียว พระที่มาทั้งหมดก็ไม่พูดว่าอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร หลวงพ่อท่านจึงเรียกพระทั้งหมดให้ออกมาข้างนอกชานกุฏิของท่าน เมื่อออกมาแล้วหลวงพ่อก็บอกให้ดูดาวประจำเมืองที่มีแสงสุกใสอยู่บนท้องห้านั้นไว้ให้ดี พระทั้งหลายในที่นั้นก็จ้องมองไปที่ดาวดวงนั้น หลวงพ่อท่านก็เริ่มบริกรรมภาวนาโดยเอาผ้าอาบน้ำฝนที่ท่านนำติดตัวมาด้วยพันกันและขมวดให้แน่นๆ สักพักหนึ่งดาวดวงนั้นก็ค่อยๆ หรี่แสงลงไปจนกับดับหายไปจากท้องฟ้าเลยทีเดียว แล้วหลวงพ่อก็ค่อยๆ คลายผ้าอาบน้ำฝนนั้น ดาวประจำเมืองก็ค่อยๆ เพิ่มแสงมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีแสงนวลใสตามปกติของดวงดาว การดับดาวนี้หลวงพ่อท่านทำให้ดูหลายครั้งด้วยกันในเวลาที่ท่านเห็นว่าสมควร หรือตามวาระโอกาสที่พอจะอำนวยให้ ซึ่งบางครั้งที่ท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่าต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันที ราวกับปาฏิหารย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันทีฯฯฯฯฯ
ราคาเปิดประมูล990 บาท
ราคาปัจจุบัน3,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 28 พ.ค. 2559 - 12:27:09 น.
วันปิดประมูล - 02 มิ.ย. 2559 - 15:32:49 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลhemman (3.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     3,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    pch01 (210)

 

Copyright ©G-PRA.COM