(0)
1,500.- เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี ออกวัดสลุด ปี2526 เนื้อทองแดง ห่วงเดิม สภาพสวยเดิมค่ะ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง1,500.- เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี ออกวัดสลุด ปี2526 เนื้อทองแดง ห่วงเดิม สภาพสวยเดิมค่ะ
รายละเอียดเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี ออกวัดสลุด ปี2526 เนื้อทองแดง ห่วงเดิม สภาพสวยเดิมค่ะ สภาพตามรูปทุกประการค่ะ

หลวงพ่อเณร ญาณวินโย วัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกและรูปปัจจุบัน

สมณศักดิ์
ปี 2532 เป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์(พระครูปลัดฐานานุกรม ในสมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา กรุงเทพฯ
ปี 2548 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ "พระพิศาลพัฒนาทร"
ปี 2553 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ "พระราชพัฒนโสภณ วิมลวิหารกิจ มหาคณิสสร บวรสังคาราม คามวาสี"

วิทยฐานะ
สอบได้นักธรรมเอก สำนัก้รียนวัดสลุด
ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สถานะเดิมชื่อ วินัย โพธิ์สุข นามบิดา นายบุญมา โพธิ์สุข นามมารดา นางสมนึก โพธิ์สุข เกิดที่ ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

บรรพชา ปี 2521 โดยมีพระครูสมุทรสิริวัฒน์ (หลวงพ่อทับ) วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌา

อุปสมบท ปี 2525 ณ พัทธสีมา วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พระอุปัชฌาย์ พระธรรมวโรดม ต่อมาได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จ พระราชาคณะ ในพระราชทินนามที่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารี) เจ้าคณะภาค ๑ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา แขวงสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสมุทรสิริวัฒน์ (หลวงพ่อทับ) วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พระอนุสาวนาจารย์ พระรัตนเมธี (ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระเทพวิริยาภรณ์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

เด็กชายวินัย โพธิ์สุข ได้อยู่ที่วัดสลุดกับหลวงพ่อทับ ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เป็นที่รู้กันว่าหลวงพ่อทับ วัดสลุด เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว (อุปัชฌาย์หลวงปู่เผือกคือ หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา) ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อทับ จนกระทั่งได้บรรพชาเป็นสามเณร พอบวชได้เพียงปีเดียวก็มีลูกศิษย์สร้างเหรียญถวายกันเลย

ตำราเก่าของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วก็ตกทอดมาถึงหลวงพ่อเณรแบบเต็มสูตร รวมถึงตำราของหลวงปู่ทองวัดราชโยธา

อีกทั้งท่านยังเดินธุดงค์แสวงหาความรู้และเดินทางหาครูบาอาจารย์ ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านได้ธุดงค์ไปที่ต่างๆทั้งในประเทศไทย พม่า ลาว เขมร เพื่อศึกษาวิชาความรู้ด้านต่างๆ เมื่อกลับจากธุดงค์แล้วท่านได้ใช้วิชาเพื่อสงเคราะห์สานุศิษย์และญาติโยมผู้ ทุกข์ร้อนด้วยสาเหตุนานาประการ กิตติศัพท์ของท่านก็เริ่มร่ำลือแผ่ขยายออกสู่ภายนอกกว้างออกไปทุกที จนกลายเป็นครูบาอาจารย์ของบุคคลทั้งหลาย ทั้งๆที่ย้งเป็นเพียงสามเณร คนทั้งหลายที่ศรัทธาจึงพากันยกย่องและเรียกท่านว่า "หลวงพ่อเณร"

ผู้ที่เป็นทั้งอาจารย์และดูฤกษ์บวชให้หลวงพ่อเณร ญาณวินโย คือหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ และพระที่นั่งอันดับในงานบวชล้วนเป็นเกจิในยุคนั้นทั้งสิ้น ซึ่งหลวงพ่อเณรก็ได้ศึกษาศาสตร์ต่างๆจากท่านเหล่านั้นด้วย

หลวงพ่อเณร ท่านสืบสานวิชาตำหรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จาก หลวงปู่ฤาษีลิงขาว (หลวงพ่อช่อ อภินันโท) วัดฤกษ์บุญมี ศิษย์เอกหลวงปู่ปานอีกรูปหนึ่ง

เหรียญหลวงพ่อเณรนั่งเสือ รุ่นแรก ออกวัดสลุด 2526

ในอดีตเมื่อครั้งเป็นเณรหลังจากลับจากธุดงค์ครั้งนั้น ชีวิตท่านก็เปลี่ยนไป สรรพวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาท่านก็ได้ใช้เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมมาตลอดจนชื่อ เสียง จนเรียกขานว่า "หลวงพ่อเณร" ในบรรดาลูกศิษย์ที่เข้ามาอุปถัมภ์ท่านนั้น รวมไปถึง 5 เสือในเวลานั้นคือ
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพลประภาส จารุเสถียร
พ.ต.ต. โกมล ประเสริฐวงศ์
พันเอกพิเศษวิเชียร กระบวนยุทธ
พันเอกณรงค์ กิตติขจร

โดยครอบครัวของท่านจอมพลถนอมจะสนิทกับหลวงพ่อเณรมากมีความศรัทธาเป็นอย่าง ยิ่งให้ความอุปถัมภ์มาตลอด เนื่องจากมีความเชื่อในตัวหลวงพ่อเณรและพุทธคุณของวัตถุมงคลของหลวงพ่อเณร เป็นอย่างยิ่ง ในงานวันอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ก็มาร่วมงานด้วย

แต่เนื่องจากหลวงพ่อเณรไม่ได้ทำออกมาเป็นรูปของท่าน โดยมากจะเป็นพระพุทธรูป องค์บูรพาจารย์ เช่น หลวงปู่เผือก หรือเป็นเครื่องราง เป็นต้น ดังนั้น ครอบครัวกิตติขจรซึ่งนับถือหลวงพ่อเณรมากต้องการเหรียญรูปหลวงพ่อเณรไว้บูชา ติดตัว จึงจัดสร้างเหรียญรูปหลวงพ่อเณรขึ้น โดยเป็นพิมพ์ขี่เสือ โดยจัดสร้างเนื้อพิเศษสำหรับใช้เฉพาะครอบครัวท่าน เป็นเนื้อเงินพดด้วงโบราณ โดยจอมพลถนอมท่านให้พันเอกณรงค์เป็นผู้นำมาหล่อที่กุฏิหลวงพ่อเณร จัดสร้าง เพียง 9 เหรียญ เพื่อใช้สำหรับคนในตระกูลกิตติขจรเท่านั้น และนำบล็อคกลับไปทำเพิ่มเติมอีก คือเนื้อเงิน จำนวน 100 เหรียญ เนื้อบาตรน้ำมนต์ จำนวน 2526 เหรียญ จากนั้นจึงนำกลับมาให้หลวงพ่อเณรปลุกเสก

การปลุกเสกเหรียญนั่งเสือนั้นปลุกเสก 2 ครั้ง ที่อุโบสถวัดสลุด เมื่อปลุกเสกเสร็จ ลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจ ได้เอาเหรียญออกมา 1 เหรียญแขวนคอไก่และยิงปืนใส่ ปรากฏว่าปืนแตก พี่อีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนกัน ได้คว้าไปทั้งๆไก่และพระ ของที่เหลือนำกลับไปบ้านท่านวิเชียร

จากนั้นท่านวิเชียร กระบวนยุทธ นิมนต์หลวงพ่อเณรไปปลุกเสกอีกครั้งที่บ้าน โดยหลวงพ่อเณร ไปปลุกเสกกับหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านด้วย เมื่อไปถึงท่านวิเชียรได้เตรียมของทั้งหมดไว้บนรถจีเอ็มซีเป็นที่เรียบร้อย เมื่อหลวงพ่อแพกับหลวงพ่อเณรปลุกเสกเสร็จ ท่านวิเชียรก็สั่งให้ทหารระดมยิงเข้าไปที่รถจีเอ็มซี ด้วยอาวุธสงคราม โดยไม่บอกล่วงหน้า ผลปรากฏว่า ........

ถ้าวันนั้นยิงออกและโดน ก็คงไม่มีหลวงพ่อแพกับหลวงพ่อเณรอีกแล้ว

เมื่อปลุกเสกเสร็จเหรียญขี่เสือรุ่นนี้ก็ได้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งถวายหลวงพ่อเณรไว้ อีกส่วนหนึ่งท่านก็นำไปแจกจ่ายให้ทหาร

งานประจำปี 2526 ณ วัดสลุด

หลังจาก สามเณรวินัย โพธิ์สุขได้ออกจากวัดสลุดไปธุดงค์จนกลับมาอีกครั้งหนึ่งท่านก็ได้ใช้วิชาที่ ร่ำเรียนมาเพื่อสงเคราะห์ประชาชนที่เดือดร้อนจนประสพผลสำเร็จ ชื่อเสียงเริ่มกระจายกันปากต่อปาก จนผู้คนขนานนามท่านว่า "หลวงพ่อเณร"

จนเมื่อครูแสวง พัตบุญมา ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้มีจิตศรัทธาเป็นมหากุศล ได้บริจาคที่นาของตนให้เป็นที่ตั้งวัด ช่วงแรกยกให้จำนวน 10 ไร่ก่อนจนปี 2528 ได้ทั้งหมด 18 ไร่กว่า เนื่องจากบริเวณสถานที่ตั้งวัดนั้น เป็นที่นาที่อุดมสมบูรณ์มาก จึงเป็นที่มาของชื่อ"ทุ่งเศรษฐี"

เมื่อได้ถวายที่ให้ตั้งวัดแล้ว สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิท เขมจารีมหาเถร) ท่านให้หลวงพ่อเณร ซึ่งพึ่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้เพียง 1 พรรษา ให้เตรียมตัวเพื่อตั้งวัดทุ่งเศรษฐี แต่เนื่องจากเป็นที่นาเก่าจึงต้องถมดิน โดยครูแสวงได้ยกดินในที่ของท่านให้หลวงพ่อเณรดำเนินการเอาดินไปถมวัดอีกด้วย มีคนช่วยเรื่องเครื่องจักรแต่ขาดค่าน้ำมัน 300,000 บาท จึงต้องหาเงินทุนมาใช้
หลวงพ่ออุตตมะท่านได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้หลวงพ่อเณร โดยท่านได้ไปเรียนวิชากับหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งแต่ช่วงที่เป็นเณรที่ท่านออกจากวัดสลุดไปธุดงค์และได้สอนมาเรื่อยจนถึง ปี 2526 หลวงพ่ออุตตมะทราบว่าหลวงพ่อเณรจะตั้งวัดท่านจึงมาช่วยที่งานประจำปีตลอดงาน ทุกวัน หลวงพ่ออุตตมะได้ถ่ายทอดวิชาการทำลูกประคำแบบเต็มสูตรของท่านให้กับหลวงพ่อ เณร ในงานนี้ท่านมาสอนวิชา และมาช่วยตลอดงานประจำปี 2526

หลวงพ่ออุตตมะนอกจากจะเมตตาถ่ายทอดวิชาต่างๆให้หลวงพ่อเณรแล้ว ในงานนี้ท่านยังให้คนทำสร้อยประคำมาเพื่อที่จะได้เอามาจำหน่ายที่วัดสลุด เพื่อหาเงินทุนค่าน้ำมันให้ด้วย มีที่เป็นไม้ และสีขาวที่เป็นงาช้างกับกระดูกช้าง

รูปประวัติศาสตร์ : หลวงพ่ออุตตมะถ่ายทอดวิชาการทำประคำแบบเต็มสูตรของท่านให้หลวงพ่อเณร ในกุฏิหลวงพ่อเณรที่วัดสลุด ช่วงก่อนงานประจำปี

เมื่อถ่ายทอดวิชา และเสกของเพื่อแจกและจำหน่ายในงานประจำปีแล้ว ในวันรุ่งขึ้นหลวงพ่ออุตตมะท่านได้มอบสร้อยประคำให้ด้วยตัวเอง

หลวงพ่ออุตตมะวางแผนไม่ให้หลวงพ่อเณรสึก
เนื่องจากหลวงพ่ออุตตมะท่านรักหลวงพ่อเณรมาก หาทางช่วยเพื่อห้ตั้งวัดให้ได้และไม่อยากให้สึกอีก โดยในงานประจำปีนี้หลังวันไหว้ครู จะเป็นวัดทอดผ้าป่า หลวงพ่ออุตตมะท่านวางแผนให้มีการหล่อรูปพระสีวลี (ท่านบอกอย่างนั้น) แต่เมื่อถึงเวลาหล่อและแกะแบบออกมากลายเป็นหลวงพ่อเณร จนหลวงพ่อเณรท่านยังงงเลย และหลวงพ่ออุตตมะบอกว่า "นี่ชั้นหล่อรูปเธอให้แล้วน๊ะ เธอสึกไม่ได้นะ เดี๋ยวคนเขาจะเอา...มาปารูปเธอ"

พระแท้รับประกันตามกฏ แท้ทั่วไทย แท้ทุกสนามพระ
ขอรับใช้สมาชิกทุกท่านด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจค่ะ

หมายเหตุ พระทุกองค์ที่ลงประมูลสามารถ inbox มาสอบถามข้อมูลได้น่ะค่ะ ราคามิตรภาพแบ่งกันบูชาค่ะ
ราคาเปิดประมูล1,450 บาท
ราคาปัจจุบัน1,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 30 เม.ย. 2559 - 11:50:51 น.
วันปิดประมูล - 05 พ.ค. 2559 - 20:22:57 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลseranee (8.3K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 30 เม.ย. 2559 - 11:51:15 น.



...


 
ราคาปัจจุบัน :     1,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Nantipi (557)

 

Copyright ©G-PRA.COM