(0)
5 องค์ค่ะ.......พระสมเด็จ หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย ทายาทพุทธคมหลวงพ่อผินะ (ประสบการณ์ เรื่องโชคลาภ )








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง5 องค์ค่ะ.......พระสมเด็จ หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย ทายาทพุทธคมหลวงพ่อผินะ (ประสบการณ์ เรื่องโชคลาภ )
รายละเอียด5 องค์ค่ะ.......พระสมเด็จ หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย ทายาทพุทธคมหลวงพ่อผินะ

รับประกันความแท้ ตลอดชีพ

2องค์ พระสมเด็จ หลังยันต์อุ เจ้าคุณนอ ปี 53 รุ่นนี้หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ และหลวงปู่นะ วัดหนองบัว ศิษย์หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ร่วมปลุกเสกด้วยค่ะ พิธีดีมากคะ

3 องค์ พระสมเด็จ ด้านหลังยันต์ หลวงพ่อเดิม ของหลวงพ่อเอิบรุ่นนี้ หลวงพ่อเอิบท่านได้สร้างไว้ตั้งแต่ท่าน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ. ชัยนาท หลวงพ่อเอิบท่านได้นำติดมาไว้ที่วัดซุ้มกระต่าย ด้วยค่ะ
ราคาเปิดประมูล540 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 26 เม.ย. 2559 - 19:32:20 น.
วันปิดประมูล - 06 พ.ค. 2559 - 19:32:20 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลรถโฟร์ค (6.3K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 26 เม.ย. 2559 - 19:34:51 น.



4
การแจ้งเตือน
ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
บุคคลที่คุณอาจจะรู้จัก
ดูทั้งหมด
บุคคลที่คุณอาจจะรู้จัก
Sopon Soonthornsang
มีเพื่อนร่วมกัน 3 คน
คำขอเป็นเพื่อน
ดูทั้งหมด
คำขอเป็นเพื่อน
Arjtawan Antique
มีเพื่อนร่วมกัน 3 คน
Tasana Chankhonkean
มีเพื่อนร่วมกัน 2 คน
ได้รับการสนับสนุน
สร้างโฆษณา
ได้รับการสนับสนุน
Gods of Gold ดีลเทพ ราคาโดน คุ้มสุด ASTON INFINITE 2
www.aston1.net
ดีลสุดฮ๊อตลดสุดๆ เฉพาะวันที่ 23-27 Apr 59 เพียง 4 วัน เท่านั้น! ASTON INFINITE 2 (Golden)...
ภาษาไทย · English (US) · 日本語 · 中文(简体) · Español · Português (Brasil)
ความเป็นส่วนตัว · เงื่อนไข · คุกกี้ · ลงโฆษณา · ตัวเลือกโฆษณา
·
เพิ่มเติม
Facebook © 2016

ฟีดข่าว
หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย เครื่องรางมหาเสน่ห์
30 มกราคม ·

ประวัติ หลวงพ่อเอิบ ฐิตธมฺโม
หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย (วัดหนองหม้อแกง) อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้ชื่อว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล ได้เข้มขลังนักหนา เล่ากันว่า ท่านสามารถปลุกเสกหัวชะมดให้ตั้งหัว ชูคอขึ้นมากลางฝ่ามือท่านได้ และวัตถุมงคลของท่าน อีกหลายชนิด ได้รับความนิยม เลื่อมไส จากศิษย์ และผู้นำไปบูชาติดตัวทุกคน ว่ามีพุทธคุณสูง
อัตโนประวัติ หลวง พ่อเอิบ มีนามเดิมว่า เอิบ อินทรประสิทธิ์ ท่านเกิดเมื่อเดือน มิถุนายน พศ. ๒๔๙๐ ส่วนจะเป็นวันที่เท่าไร ท่านจำไม่ได้เสียแล้ว โยมบิดาชื่อนายสีโย่ง อินทรประสิทธิ์ โยมมารดาชื่อนางฉะอ้อน อินทรประสิทธิ์ มีพี่น้องร่วมท้อง ๘ คน โดยท่านเป็นบุตรชายคนที่ ๔ โยมบิดาท่าน เข้าใจว่าเป็นคนกว้างขวางพอสมควร เพราะเป็นทั้งศิษย์คนสนิท และญาติหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ มีความเป็นนักสู้ และคาถาอาคมมากพอตัว ส่วนโยมมารดาท่าน ก็เป็นญาติกับหลวงพ่อเดิมด้วยเช่นกัน จึงนับว่า หลวงพ่อเอิบ ท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าของชาวหนองโพธิ์โดยแท้
ชีวิตสมัยเด็ก บิดาท่านฝากให้ท่านมาเป็นลูกศิษย์ของ ท่านพระครูสังฆรักษ์วิชิต แห่งวัดเกาะสุวรรณาราม ทุ่งสายไหม ดอนเมือง ตั้งแต่เล็กๆ จึงได้เรียนหนังสือชั้นประถม ที่โรงเรียนวัดเกาะฯ และชั้นมัธยม ที่โรงเรียนฤทธิ์ยวรรณาลัย ดอนเมือง จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่นครสวรรค์ ท่านมีความสนใจ และใฝ่รู้ในคาถาอาคม มาตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ท่านเป็นคนใจเย็น ยิ้มง่าย โกรธยาก ท่านใช้ชีวิตในเพศฆราวาสมาอยากโชกโชน สมัยหนุ่มๆ ก่อนบวช ท่านมีทรัพย์สมบัตินับว่ามากอยู่ทีเดียว คือมีที่นาประมาณ ๑๐๐ กว่าไร่ มีช้าง ๑ เชือก มีม้า ๘ ตัว มีวัว ๓๐๐ ตัว และมีควาย ๑๐๐ ตัว ทั้งๆ และที่ท่านมีทรัพย์สมบัติมากเช่นนี้ แต่ท่านกลับไม่สนใจในเรื่องการมีครอบครัว เมื่อท่านมีทรัพย์สมบัติมาก โดยเฉพาะที่ดิน ที่อยู่ตามช่องแคบ้าง โกรกพระบ้าง ตาคลีบ้าง ท่านจึงต้องเดินทางเพื่อดูแลทรัพย์สินของท่านจึงทำให้ท่านได้สนิทสนมกับพระเกจิ อาจารย์ในถิ่นนครสวรรค์เป็นอย่างดี เช่น หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ,หลวงพ่อโอน วัดโคกเดื่อ ,หลวงพ่อโอด วัดจันเสน และหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาก ซึ่งแต่ละอาจารย์แต่ละองค์ที่ท่านเข้าไปกราบ เพื่อขอเรียนพุทธาคมบ้าง ขอวัตถุมงคลคุ้มครองตนบ้าง ต่างบอกให้ท่านละสมบัติออกบวชทั้งสิ้น คล้ายกับว่าท่านจะมีนิสัยในทางกุศลมาแต่เดิม และเมื่อท่านตัดสินใจออกบวช ท่านก็ละทิ้งทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปอย่างไม่ใยดี ท่านขายทรัพย์สินที่มีอยู่จนเกือบหมด เพื่อนำปัจจัยมาซื้อที่เพื่อสร้างวัด และนำมาพัฒนาวัด
อุปสมบท
ท่าน ใช้ชีวิตในเพศฆราวาส มาจนถึงอายุ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบท ณ. พัทสีมาวัดหางน้ำหนองแขม เมื่อเดือน กรกฏาคม พศ. ๒๕๑๒ โดยมีพระครูนิยุติธรรมกิจ วัดเขาไม้แก้ว เจ้าคณะอำเภอพยุหะคีรี ในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชณาย์ พระครูปลัดฉุย วัดหางน้ำสาคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์เฉย วัดหางน้ำสาคร เป็นพระรรมวาจาจารย์
เมื่อ บวชแล้วท่านจึงได้ออกเดินทางไปกราบพระเกจิอาจารย์แถวถิ่นนครสวรรค์ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพุทธาคมหลายต่อหลายพระอาจารย์ เช่น
หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค ท่านขอเรียนวิชารักษาโรค สูญฝี และการปลุกเสกวัตถุมงคล
หลวงปู่สี ฉันทฺสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาก ท่านขอเรียนวิชาทางคงกระพัน ขึ้นกรรมฐาน และการปลุกเสกพระ
หลวงพ่อโอน วัดโคกเดื่อ และหลวงพ่อโอด วัดจันเสน ท่านขอเรียนวิชาทางเมตตา เสกเทียน นั่งเทียน
หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ท่านขอเรียนวิชาประจุมีดหมอ ทำของแก้คุณไสย
พระอาจารย์บุญมี วัดวาปีรัตนาราม ท่านขอเรียนทางใน เรียกคน ค้าขาย
หลวงปู่คำ วัดสุวรรณาราม ท่านขอเรียนวิชาผูกดวง แก้ดวง
หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม ท่านขอเรียนวิชามหาอำนาจ จังงัง ตวาดป่า และการปลุกเสกพระ หลวงพ่อเจ๊ก กับท่านชอบพอ สนิทกันดี จะเคยสอนวิชาฝัง และถอนอาถรรพ์ให้ท่าน แต่หลวงพ่อเจ๊กมรณภาพเสียก่อน จึงไม่ได้เรียน
หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ท่านไปขอเรียนวิชาทำมีดหมอ และยังได้เคยสร้างมีดหมอไปให้หลวงพ่อบุญมีเสกเพื่อหาทุนสร้างวัดมาแล้ว จะเห็นได้ว่าหลวงพ่อเอิบท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเป็นอย่างมาก
แต่ที่ท่านได้วิชาสำคัญไว้มากที่ สุดคือ หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร นครสวรรค์ ซึ่งเป็นศิษย์สายในของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อสด ท่านมีวาจาสิทธิ์ มีอาคมขลัง ปากพระร่วง และมีพลังจิตแกร่งกล้ามาก เช่นครั้งหนึ่ง ท่านขึ้นไปก่อสร้างศาลา โดยขณะท่านกำลังตอกตะปูอยู่ ได้ทำลังตะปูตกลงไปในแม่น้ำ ท่านได้ตะโกนบอกพระเณร ด้านล่างว่าให้ช่วยกันเก็บตะปูที่ตกน้ำหน่อย พระเรียนท่านว่า ตะปูตกน้ำมันก็จมหมดแล้วซิหลวงพ่อ ท่านบอกว่า “มันไม่จมหรอกว๊ะ ไปช่วยกันเก็บหน่อย ช้าไปเดี๋ยวน้ำจะพัดไปไกลเสียหมด” พอพระเดินไปดูริมน้ำ ปรากฏว่า ตะปู ที่ทำด้วยเหล็ก กลับลอยน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ พระเณร จึงช่วยกันเก็บใส่ลังได้อย่างครบถ้วน และเมื่อหลวงพ่อสด จะละสังขาร ท่านได้บอกวันเวลาที่จะละสังขารให้ญาติโยมทราบกันทั่ว และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ ท่านก็นั่งสมาธิถอดจิตละสังขารไปอย่างสงบ
ต่อ มาหลวงพ่อเอิบ ท่านได้ทราบชื่อเสียงของ หลวงพ่อผินะ วัดพระสนมลาว ว่าเป็นพระเคร่งครัดในด้านการพิจารณาอสุภกรรมฐาน ท่านจึงได้ไปขอเรียนวิชากรรมฐาน เสกของ และเสกผงอาถรรพ์ รวมทั้งการสร้างหัวชะมด และดาวยศ จากหลวงพ่อผินะ วัดพระสนมลาว ท่านเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกไปกราบเป็นเวลาใกล้เพลพอดี จึงเห็นหลวงพ่อผินะ ท่านฉันอาหารแบบเทรวม คือ อาหารคาว ผัด ทอด คั่ว แกงกะทิ หรือแกงอะไรก็แล้วแต่ ท่านจะตักมาผสมรวมกันในบาตร จากนั้นจึงตักขนมหวาน ไม่ว่าจะเป็นลอดช่องน้ำกะทิ หรือกล้วยบวชชี หรืออะไรก็แล้วแต่ประดามี เทผสมลงไปด้วย แล้วจะเอาน้ำที่จะดื่มเทผสมลงไปเป็นอันดับสุดท้าย ทำการคนให้เข้ากัน แล้วจึงฉัน การฉันอาหารเช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อผินะท่านหลุดพ้นจากเรื่องรูป รส กลิ่น และสำผัสอย่างแท้จริง เมื่อหลวงพ่อผินะฉันเสร็จแล้ว จึงได้เลื่อนบาตรที่ฉันส่งให้หลวงพ่อเอิบ แล้วพูดว่า “จะมาเรียนวิชาจากพ่อ ก็ต้องกิน ต้องนอนให้เหมือนพ่อนะ” หลวงพ่อเอิบจึงได้ฉันอาหารในบาตรของหลวงพ่อผินะ ตั้งแต่วันแรกที่มากราบแล้ว อันเป็นการปฎิบัติโดยปริยายว่า หลวงพ่อผินะ ได้รับหลวงพ่อเอิบเป็นศิษย์แล้ว
หลวงพ่อเอิบเล่าให้ฟังถึงความแปลก และบารมีของหลวงพ่อผินะว่า หลวงพ่อผินะ ท่านเขียนธงไว้ ๓ ผืน เรียกว่า ธงสั่งฟ้า คือ ถ้าจะให้ฝนตก ก็ชักธงขึ้น ฝนก็จะตก หรือบางครั้งฝนตกมากไป พอชักธงขึ้น ฝนก็จะหยุด หรือบางทีท่านขลังๆขึ้นมา ก็ให้ชักธงขึ้นไป เพื่อล่อให้ฟ้าผ่าลงมาที่ธงเป็นแสงสว่างน่ากลัว แต่ที่น่าแปลกคือธงไม่เกิดความเสียหายจากฟ้าผ่าแต่อย่างใด หรือถ้าท่านต้องการให้ใครมาหาท่าน หรือบางทีท่านต้องการหาทุนสร้างวัด ก็จะชักธงขึ้น ก็จะมีคนที่อยากให้มาพบ มาพบจริง ๆ และก็จะมีคนมาทำบุญเป็นจำนวนมากด้วย วิชานี้ ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้เรียนไว้ เพราะเป็นวิชาเฉพาะตัว คู่บารมีของหลวงพ่อผินะ เพียงองค์เดียว........กล่าวทิ้งท้ายว่า สมัยก่อน ท่านมีหัวชะมด ของหลวงพ่อผินะ ตกสิบกว่าตัว มีทั้งที่ทำด้วยงา ลิ้นเป็นทองคำ ตาเป็นพลอยสวยงาม และที่เป็นไม้อาถรรพ์ เช่นไม้สัก ไม้มะดัน แต่ปัจจุบัน ไม่เหลือเลยสักตัวเดียว เพราะท่านออกให้เช่าหาทุนสร้างวัดจนหมด.
หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกงองค์นี้ สมัยยังไม่บวช ก็ขลังไม่ใช่เล่น ชาวบ้านไปทำนา โดนผีตายโหงเข้า กี่หมอ กี่หลวงพ่อก็ไล่ไม่ออก ท่านขอลองบ้าง โดยหยิบรองเท้าแตะของตัวเองมาข้างหนึ่ง เสกคาถาเป่าไปที่รองเท้าแตะแล้วเดินไปตบหน้าคนโดนผีเข้าซึ่งแก่คราวลุง ไล่ผีออกทันที จนได้ฉายาว่า หมอผีรองเท้าแตะ เมื่อบวชแล้วไปเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อยู่นาน แถมได้วิชาสายหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวลจากหลวงพ่อโอด จันเส้นด้วย เพราะวัดอยู่ใกล้กับหลวงพ่อพรหม เรียกว่าพระดีที่ไหน ไปเรียนมาหมด จนหลวงพ่อนะ วัดหนองบัว ต้องเตือนว่า เรียนอะไรหนักหนา แค่นี้ก็เกินพอแล้ว แม้หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ ยังชมว่า ท่านเอิบนี่วิชาขลังไม่เบา กินกันไม่ลงเลย ท่านไปเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะ มานาน ได้วิชาสำคัญไปหมด เพราะตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ดังมากเพิ่งมาดังเมื่อมรณภาพแล้ว...


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 26 เม.ย. 2559 - 19:35:40 น.



ประวัติ หลวงพ่อเอิบ ฐิตธมฺโม
หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย (วัดหนองหม้อแกง) อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้ชื่อว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล ได้เข้มขลังนักหนา เล่ากันว่า ท่านสามารถปลุกเสกหัวชะมดให้ตั้งหัว ชูคอขึ้นมากลางฝ่ามือท่านได้ และวัตถุมงคลของท่าน อีกหลายชนิด ได้รับความนิยม เลื่อมไส จากศิษย์ และผู้นำไปบูชาติดตัวทุกคน ว่ามีพุทธคุณสูง
อัตโนประวัติ หลวง พ่อเอิบ มีนามเดิมว่า เอิบ อินทรประสิทธิ์ ท่านเกิดเมื่อเดือน มิถุนายน พศ. ๒๔๙๐ ส่วนจะเป็นวันที่เท่าไร ท่านจำไม่ได้เสียแล้ว โยมบิดาชื่อนายสีโย่ง อินทรประสิทธิ์ โยมมารดาชื่อนางฉะอ้อน อินทรประสิทธิ์ มีพี่น้องร่วมท้อง ๘ คน โดยท่านเป็นบุตรชายคนที่ ๔ โยมบิดาท่าน เข้าใจว่าเป็นคนกว้างขวางพอสมควร เพราะเป็นทั้งศิษย์คนสนิท และญาติหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ มีความเป็นนักสู้ และคาถาอาคมมากพอตัว ส่วนโยมมารดาท่าน ก็เป็นญาติกับหลวงพ่อเดิมด้วยเช่นกัน จึงนับว่า หลวงพ่อเอิบ ท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าของชาวหนองโพธิ์โดยแท้
ชีวิตสมัยเด็ก บิดาท่านฝากให้ท่านมาเป็นลูกศิษย์ของ ท่านพระครูสังฆรักษ์วิชิต แห่งวัดเกาะสุวรรณาราม ทุ่งสายไหม ดอนเมือง ตั้งแต่เล็กๆ จึงได้เรียนหนังสือชั้นประถม ที่โรงเรียนวัดเกาะฯ และชั้นมัธยม ที่โรงเรียนฤทธิ์ยวรรณาลัย ดอนเมือง จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่นครสวรรค์ ท่านมีความสนใจ และใฝ่รู้ในคาถาอาคม มาตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ท่านเป็นคนใจเย็น ยิ้มง่าย โกรธยาก ท่านใช้ชีวิตในเพศฆราวาสมาอยากโชกโชน สมัยหนุ่มๆ ก่อนบวช ท่านมีทรัพย์สมบัตินับว่ามากอยู่ทีเดียว คือมีที่นาประมาณ ๑๐๐ กว่าไร่ มีช้าง ๑ เชือก มีม้า ๘ ตัว มีวัว ๓๐๐ ตัว และมีควาย ๑๐๐ ตัว ทั้งๆ และที่ท่านมีทรัพย์สมบัติมากเช่นนี้ แต่ท่านกลับไม่สนใจในเรื่องการมีครอบครัว เมื่อท่านมีทรัพย์สมบัติมาก โดยเฉพาะที่ดิน ที่อยู่ตามช่องแคบ้าง โกรกพระบ้าง ตาคลีบ้าง ท่านจึงต้องเดินทางเพื่อดูแลทรัพย์สินของท่านจึงทำให้ท่านได้สนิทสนมกับพระเกจิ อาจารย์ในถิ่นนครสวรรค์เป็นอย่างดี เช่น หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ,หลวงพ่อโอน วัดโคกเดื่อ ,หลวงพ่อโอด วัดจันเสน และหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาก ซึ่งแต่ละอาจารย์แต่ละองค์ที่ท่านเข้าไปกราบ เพื่อขอเรียนพุทธาคมบ้าง ขอวัตถุมงคลคุ้มครองตนบ้าง ต่างบอกให้ท่านละสมบัติออกบวชทั้งสิ้น คล้ายกับว่าท่านจะมีนิสัยในทางกุศลมาแต่เดิม และเมื่อท่านตัดสินใจออกบวช ท่านก็ละทิ้งทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปอย่างไม่ใยดี ท่านขายทรัพย์สินที่มีอยู่จนเกือบหมด เพื่อนำปัจจัยมาซื้อที่เพื่อสร้างวัด และนำมาพัฒนาวัด
อุปสมบท
ท่าน ใช้ชีวิตในเพศฆราวาส มาจนถึงอายุ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบท ณ. พัทสีมาวัดหางน้ำหนองแขม เมื่อเดือน กรกฏาคม พศ. ๒๕๑๒ โดยมีพระครูนิยุติธรรมกิจ วัดเขาไม้แก้ว เจ้าคณะอำเภอพยุหะคีรี ในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชณาย์ พระครูปลัดฉุย วัดหางน้ำสาคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์เฉย วัดหางน้ำสาคร เป็นพระรรมวาจาจารย์
เมื่อ บวชแล้วท่านจึงได้ออกเดินทางไปกราบพระเกจิอาจารย์แถวถิ่นนครสวรรค์ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพุทธาคมหลายต่อหลายพระอาจารย์ เช่น
หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค ท่านขอเรียนวิชารักษาโรค สูญฝี และการปลุกเสกวัตถุมงคล
หลวงปู่สี ฉันทฺสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาก ท่านขอเรียนวิชาทางคงกระพัน ขึ้นกรรมฐาน และการปลุกเสกพระ
หลวงพ่อโอน วัดโคกเดื่อ และหลวงพ่อโอด วัดจันเสน ท่านขอเรียนวิชาทางเมตตา เสกเทียน นั่งเทียน
หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ท่านขอเรียนวิชาประจุมีดหมอ ทำของแก้คุณไสย
พระอาจารย์บุญมี วัดวาปีรัตนาราม ท่านขอเรียนทางใน เรียกคน ค้าขาย
หลวงปู่คำ วัดสุวรรณาราม ท่านขอเรียนวิชาผูกดวง แก้ดวง
หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม ท่านขอเรียนวิชามหาอำนาจ จังงัง ตวาดป่า และการปลุกเสกพระ หลวงพ่อเจ๊ก กับท่านชอบพอ สนิทกันดี จะเคยสอนวิชาฝัง และถอนอาถรรพ์ให้ท่าน แต่หลวงพ่อเจ๊กมรณภาพเสียก่อน จึงไม่ได้เรียน
หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ท่านไปขอเรียนวิชาทำมีดหมอ และยังได้เคยสร้างมีดหมอไปให้หลวงพ่อบุญมีเสกเพื่อหาทุนสร้างวัดมาแล้ว จะเห็นได้ว่าหลวงพ่อเอิบท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเป็นอย่างมาก
แต่ที่ท่านได้วิชาสำคัญไว้มากที่ สุดคือ หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร นครสวรรค์ ซึ่งเป็นศิษย์สายในของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อสด ท่านมีวาจาสิทธิ์ มีอาคมขลัง ปากพระร่วง และมีพลังจิตแกร่งกล้ามาก เช่นครั้งหนึ่ง ท่านขึ้นไปก่อสร้างศาลา โดยขณะท่านกำลังตอกตะปูอยู่ ได้ทำลังตะปูตกลงไปในแม่น้ำ ท่านได้ตะโกนบอกพระเณร ด้านล่างว่าให้ช่วยกันเก็บตะปูที่ตกน้ำหน่อย พระเรียนท่านว่า ตะปูตกน้ำมันก็จมหมดแล้วซิหลวงพ่อ ท่านบอกว่า “มันไม่จมหรอกว๊ะ ไปช่วยกันเก็บหน่อย ช้าไปเดี๋ยวน้ำจะพัดไปไกลเสียหมด” พอพระเดินไปดูริมน้ำ ปรากฏว่า ตะปู ที่ทำด้วยเหล็ก กลับลอยน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ พระเณร จึงช่วยกันเก็บใส่ลังได้อย่างครบถ้วน และเมื่อหลวงพ่อสด จะละสังขาร ท่านได้บอกวันเวลาที่จะละสังขารให้ญาติโยมทราบกันทั่ว และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ ท่านก็นั่งสมาธิถอดจิตละสังขารไปอย่างสงบ
ต่อ มาหลวงพ่อเอิบ ท่านได้ทราบชื่อเสียงของ หลวงพ่อผินะ วัดพระสนมลาว ว่าเป็นพระเคร่งครัดในด้านการพิจารณาอสุภกรรมฐาน ท่านจึงได้ไปขอเรียนวิชากรรมฐาน เสกของ และเสกผงอาถรรพ์ รวมทั้งการสร้างหัวชะมด และดาวยศ จากหลวงพ่อผินะ วัดพระสนมลาว ท่านเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกไปกราบเป็นเวลาใกล้เพลพอดี จึงเห็นหลวงพ่อผินะ ท่านฉันอาหารแบบเทรวม คือ อาหารคาว ผัด ทอด คั่ว แกงกะทิ หรือแกงอะไรก็แล้วแต่ ท่านจะตักมาผสมรวมกันในบาตร จากนั้นจึงตักขนมหวาน ไม่ว่าจะเป็นลอดช่องน้ำกะทิ หรือกล้วยบวชชี หรืออะไรก็แล้วแต่ประดามี เทผสมลงไปด้วย แล้วจะเอาน้ำที่จะดื่มเทผสมลงไปเป็นอันดับสุดท้าย ทำการคนให้เข้ากัน แล้วจึงฉัน การฉันอาหารเช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อผินะท่านหลุดพ้นจากเรื่องรูป รส กลิ่น และสำผัสอย่างแท้จริง เมื่อหลวงพ่อผินะฉันเสร็จแล้ว จึงได้เลื่อนบาตรที่ฉันส่งให้หลวงพ่อเอิบ แล้วพูดว่า “จะมาเรียนวิชาจากพ่อ ก็ต้องกิน ต้องนอนให้เหมือนพ่อนะ” หลวงพ่อเอิบจึงได้ฉันอาหารในบาตรของหลวงพ่อผินะ ตั้งแต่วันแรกที่มากราบแล้ว อันเป็นการปฎิบัติโดยปริยายว่า หลวงพ่อผินะ ได้รับหลวงพ่อเอิบเป็นศิษย์แล้ว
หลวงพ่อเอิบเล่าให้ฟังถึงความแปลก และบารมีของหลวงพ่อผินะว่า หลวงพ่อผินะ ท่านเขียนธงไว้ ๓ ผืน เรียกว่า ธงสั่งฟ้า คือ ถ้าจะให้ฝนตก ก็ชักธงขึ้น ฝนก็จะตก หรือบางครั้งฝนตกมากไป พอชักธงขึ้น ฝนก็จะหยุด หรือบางทีท่านขลังๆขึ้นมา ก็ให้ชักธงขึ้นไป เพื่อล่อให้ฟ้าผ่าลงมาที่ธงเป็นแสงสว่างน่ากลัว แต่ที่น่าแปลกคือธงไม่เกิดความเสียหายจากฟ้าผ่าแต่อย่างใด หรือถ้าท่านต้องการให้ใครมาหาท่าน หรือบางทีท่านต้องการหาทุนสร้างวัด ก็จะชักธงขึ้น ก็จะมีคนที่อยากให้มาพบ มาพบจริง ๆ และก็จะมีคนมาทำบุญเป็นจำนวนมากด้วย วิชานี้ ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้เรียนไว้ เพราะเป็นวิชาเฉพาะตัว คู่บารมีของหลวงพ่อผินะ เพียงองค์เดียว........กล่าวทิ้งท้ายว่า สมัยก่อน ท่านมีหัวชะมด ของหลวงพ่อผินะ ตกสิบกว่าตัว มีทั้งที่ทำด้วยงา ลิ้นเป็นทองคำ ตาเป็นพลอยสวยงาม และที่เป็นไม้อาถรรพ์ เช่นไม้สัก ไม้มะดัน แต่ปัจจุบัน ไม่เหลือเลยสักตัวเดียว เพราะท่านออกให้เช่าหาทุนสร้างวัดจนหมด.
หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกงองค์นี้ สมัยยังไม่บวช ก็ขลังไม่ใช่เล่น ชาวบ้านไปทำนา โดนผีตายโหงเข้า กี่หมอ กี่หลวงพ่อก็ไล่ไม่ออก ท่านขอลองบ้าง โดยหยิบรองเท้าแตะของตัวเองมาข้างหนึ่ง เสกคาถาเป่าไปที่รองเท้าแตะแล้วเดินไปตบหน้าคนโดนผีเข้าซึ่งแก่คราวลุง ไล่ผีออกทันที จนได้ฉายาว่า หมอผีรองเท้าแตะ เมื่อบวชแล้วไปเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อยู่นาน แถมได้วิชาสายหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวลจากหลวงพ่อโอด จันเส้นด้วย เพราะวัดอยู่ใกล้กับหลวงพ่อพรหม เรียกว่าพระดีที่ไหน ไปเรียนมาหมด จนหลวงพ่อนะ วัดหนองบัว ต้องเตือนว่า เรียนอะไรหนักหนา แค่นี้ก็เกินพอแล้ว แม้หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ ยังชมว่า ท่านเอิบนี่วิชาขลังไม่เบา กินกันไม่ลงเลย ท่านไปเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะ มานาน ได้วิชาสำคัญไปหมด เพราะตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ดังมากเพิ่งมาดังเมื่อมรณภาพแล้ว...


 
ราคาปัจจุบัน :     540 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM