(0)
*** วัดใจ *** พระหางหมาก (พระมหาลาภ) พิมพ์นิยม 2 จุด สภาพสวย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง*** วัดใจ *** พระหางหมาก (พระมหาลาภ) พิมพ์นิยม 2 จุด สภาพสวย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
รายละเอียด๗๒. พระสมเด็จหางหมาก

“จะไหวหรือหลวงพี่...?” หัวหน้าชาติชายป่าไม้จอมเฮี้ยบ (ปัจจุบันคือพระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ถามขึ้นทั้งที่อ้าปากพะงาบ ๆ อย่างกับปลาติดแห้ง อาตมาเองก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก...

“สิบเอ็ดลูกเขาของบึงลับแล ยังไม่เหนื่อยแทบขาดใจเหมือน ๓๐๐ เมตรของที่นี่...” แดง (มงคล จอมผา) ที่นอนแผ่หราทับเป้หลัง พูดพลางตอบพลาง อากาศแทบทุกอณูของที่นี่ แฝงไว้ด้วยแรงกดดันมหาศาล...พระและฆราวาสเดนตายทั้งสามเดินทางมาเพื่อจะพิสูจน์ว่า แร่ยูเรเนียมที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานเมตตาบอกไว้นั้น มันจะมีมากมายขนาดไหน แล้วก็สมใจนึกบางลำภู แค่ปากประตูก็แทบเอาชีวิตไม่รอดซะแล้ว...!

ดูจากสภาพทั่วไปก็เป็นป่าธรรมดานี่เอง จะผิดจากที่อื่นก็ตรงแห้งแล้งกรอบเกรียมไปหมดเท่านั้น เนินเขาที่ต้องปีนก็เตี้ยนิดเดียว คะเนด้วยสายตาแล้วสูงไม่เกิน ๔๐๐ เมตร แบบนี้ก็หมูตายชัก...ใช่...เกือบจะตายชักจริง ๆ อากาศมันทั้งแน่นทั้งหนัก เดินเข้าไปคล้ายกับเดินสวนน้ำตกก็ไม่ปาน แต่ละคืบแต่ละศอกเหมือนทวนกระแสคลื่น ต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดถึงตะเกียกตะกายเข้าไปได้ทีละนิด... ที่ร้ายกาจที่สุดคือ เหมือนกับว่าอ๊อกซิเย่นในอากาศไม่มีเหลืออยู่เลย หายใจแทบสุดชีวิตได้อากาศไม่ถึงครึ่งปอด หน้ามืดวูบวาบ ไม่ทราบว่าจะหมดสติลงไปในวินาทีไหน จะหวังพึ่งใครก็ไม่ได้ ปางตายด้วยกันทั้งนั้น...!

หลังพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร “หลวงพ่อ” เมตตาเล่าให้ฟังว่า “สมเด็จองค์ปัจจุบันเสด็จมาเป็นประธานเอง ระหว่างปลุกเสกมองไปเห็นสมเด็จหางหมาก แต่ละองค์เปล่งแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงไฟ ๑๐๐ แรงเทียนซะอีก...”

“สมเด็จท่านตรัสว่า อานุภาพของสมเด็จหางหมากนั้น รอบรัศมี ๔ เมตร กัมมัตภาพรังสีจะเข้าไม่ได้เลย ถ้าใช้ในการรบเพื่อประเทศชาติ คำว่าตายรับรองว่าไม่มี แต่ถ้าใครนำไปใช้ในทางที่ผิด จะถูกปืนยิงแสกหน้าตาย...!”

นี่ขนาดกัมมันตภาพรังสีเข้าไม่ได้แล้วนะ ไม่ถึงครึ่งทางยังแทบตายเลย ถ้ามันเข้าได้จะมีสภาพอย่างไรหนอ...? กัดฟันโซซัดโซเซต่อไป ตายก็ตายซิวะ...มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าถอยหลังก็เสียชื่อลูกหลวงพ่อหมด...!

“หลวงปู่...มีพระสมเด็จหางหมากเหลือบ้างหรือไม่ครับ...?” ผู้กองพงษ์เทพ (พ.ต.พงษ์เทพ พุ่มนิคม) ถามอาตมาที่เพิ่งกลับจากทำวัตรเย็น “โดนปล้นหมดตัวไปตั้งนานแล้ว ใจคอเอ็งจะปล้นซ้ำอีกเรอะ...?” “ผมเพิ่งกลับจากฝึกภาคสนาม เลยเอาพระของหลวงพ่อไปลองด้วย...” น่าน...เจริญล่ะเอ็ง... “แล้วผลเป็นอย่างไร...?” “ผมเอาพระผูกปากกระบอกเครื่องยิงลูกระเบิด ทั้ง ค.๖๐ ทั้ง ค.๘๑ ยิงไม่ออกทั้งนั้น...!” “ฮื้อ...ปืน ค.มันด้านออกจะบ่อยไป...” “มันคงไม่ด้านทุกนัดหรอกครับ พอปืนค.ยิงไม่ออก เพื่อนผมใช้ปืนพกยิงเสียงดังเชียะ...ลูกปืนหล่นอยู่แค่ปากกระบอกนั่นแหละ...!” ผลก็คือพระสมเด็จรุ่นนี้ที่มีแค่หนึ่งแสนองค์ หมดเกลี้ยงในพริบตา และขึ้นราคาหูดับไปเลย...!

“ไอ้ก้องไปลองมาแล้วหลวงพี่...” แดงมารายงานให้ทราบ “ก้องมันยิงออกครับ แต่ยิงเท่าไรไม่ถูก ห่างองค์พระเป็นศอกทุกที...” อือม์...แบบนี้ค่อยน่าเชื่อถือหน่อย ไอ้เสือก้อง (ศุภฤกษ์ รัชฎาวงศ์) เชื่อมือได้ มันยิงตอกหัวตะปูได้เลย...!

ในงานเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งที่ ๑๖ คุณธนาวุธ เลิศศิริจินดา เอาภาพพระสมเด็จหางหมากและสมเด็จคำข้าว ที่ขึ้นพระธาตุทั้งองค์มาโชว์ให้ดู เป็นที่ฮือฮากันมากเพราะไม่ใช่ของที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ...

เป็นว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้เป็นพระธาตุ เพื่อรับรองมรรคผลของหลวงพ่อ ปรากฏครบ ๓ สิ่งแล้ว คือ

๑. ชานหมากของหลวงพ่อ
๒. เกศาของหลวงพ่อ
๓. วัตถุมงคลของหลวงพ่อ

“สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สังฆัง นมามิ”



๓๐ กันยายน ๒๕๓๕
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

**********************************************************
หลังพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร “หลวงพ่อ” เมตตาเล่าให้ฟังว่า

“สมเด็จองค์ปัจจุบันเสด็จมาเป็นประธานเอง ระหว่างปลุกเสกมองไปเห็นสมเด็จหางหมาก แต่ละองค์เปล่งแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงไฟ ๑๐๐ แรงเทียนซะอีก...”
“สมเด็จท่านตรัสว่า อานุภาพของสมเด็จหางหมากนั้น รอบรัศมี ๔ เมตร กัมมัตภาพรังสีจะเข้าไม่ได้เลย ถ้าใช้ในการรบเพื่อประเทศชาติ คำว่า ตายรับรองว่าไม่มี แต่ถ้าใครนำไปใช้ในทางที่ผิด จะถูกปืนยิงแสกหน้าตาย...!”
สำหรับหางหมากหรือหางพลูนั้น เมื่อเสกหมากก่อนฉันแล้วนำหางพลูที่เหลือ มาผสมกับผงทำเป็นพระ แล้วนำเข้าพุทธาภิเษกอีกครั้ง
*****************************************************
เรื่องอานุภาพพระคำข้าว-พระหางหมาก ของคุณเกตุ

(คัดลอกบางตอน จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๒๖๖ )
โดย ศ.ธรรมทัสสี

เกล้ากระผม ได้บูชา "พระหากหมาก และ พระคำข้าว" ของหลวงพ่อ ไปเมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๓๔ จะเป็นวันเดือนใดจำไม่ได้ ได้เอาพระคำข้าว และพระหางหมาก และเหรียญของหลวงพ่อ มอบให้ลูกเขยคนเล็กชื่อ อนันต์ ... อยู่บ้านเลขที่ ๑๘๒๐ ซอยสุขศรีเฉลิมพจน์ ถนนกรุงเทพ-นนท์ เขตดุสิต กรุงเทพฯ
แกเอาพระคำข้าวและพระหางหมาก เหรียญของหลวงพ่อติดตัวไป และวางไว้หน้ารถแท็กซี่ ในขณะขับไป บังเอิญเด็กวิ่งตัดหน้ารถ เบรกไม่ทัน รถแท็กซี่ได้ชนกับเด็ก กระเด็นไป ๔-๕ วา กระโปรงหน้ารถยนต์ฉีก และได้อุ้มเอาเด็กขึ้นรถไปโรงพยาบาล ขอให้แพทย์ช่วยตรวจ และเอ็กเรย์ให้ ปรากฏว่าหมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จะฟกช้ำดำเขียว ถลอกก็ไม่มี
นี่เป็นที่น่าอัศจรรย์รถชนขนาดนี้ไม่มีเหลือสักราย หรือมิฉะนั้นก็ป่วยหนักเสียสุขภาพ นี่กลับไม่เป็นอะไรเลย ก็เพราะบุญของหลวงพ่อได้คุ้มครองป้องกัน และเมื่อให้หมอตรวจดูปลอดภัยแล้ว ลูกเขยก็นำขึ้นรถกลับบ้าน และมอบเงินบำรุงขวัญ ๒,๐๐๐ บาท (สองพันบาทถ้วน) แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ และก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งนี้เพราะอำนาจศักดิ์ของพระคำข้าว และพระหางหมาก และเหรียญหลวงพ่อคุ้มครอง
________________________________________


เรื่อง อานุภาพพระคำข้าว - พระหางหมาก ของคุณเพียร...

(คัดลอกจากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๔๑๘-๔๑๘)
โดย : ศ.ธรรมทัสสี

..เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒ ก็ได้เดินทางไปทำงานอยู่ที่ประเทศบาห์เรน ต้นปี ๒๕๓๔ ก็เกิดมีสงครามในอ่าวเปอร์เซีย แต่ก่อนที่จะทำสงคราม ก็รู้ล่วงหน้าว่า กองทัพอเมริกันต้องบอมบ์ซัดดัมแน่ คนไทยในบารห์เรนกลับกันเยอะ ชาวต่างชาติก็หนีกลับบ้านเมืองของตนเองเกือบหมด ข้าพเจ้าอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ เขาลือกันว่าบาห์เรนจะต้องจมทะเล ถ้าอิรัคเข้ายึกซาอุฯ ได้
เพราะว่าบาห์เรนเป็นเกาะเล็กๆ และมีทางออกทางเดียวคือทางที่จะไปซาอุฯ คือระหว่างประเทศบาห์เรนกับซาอุฯ นี้ จะมีสะพานในทะเล เชื่อมถึงกันยาวกี่กิโลข้าพเจ้าไม่ทราบ แต่ว่านั่งรถไปใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ก็ถึงเขตของประเทศซาอุฯ และช่วงสงครามนั้น สนามบินก็ปิด
ข้าพเจ้ามาอยู่ที่บาห์เรน ก็ไม่ได้ทิ้งกรรมฐานที่หลวงพ่อสอนไว้ และข้าพเจ้าก็ได้ขึ้นไปถามสมเด็จว่า ข้าพเจ้าจะได้รับภัยจากสงครามครั้งนี้ไหม พระองค์ท่านก็ตอบว่าไม่มี แต่ข้าพเจ้ายังมีกิเลสอยู่มาก ก็อดสงสัยไม่ได้
ข้าพเจ้าก็เลยอธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อว่า ถ้าลูกจะได้รับอันตรายจากภัยสงครามครั้งนี้ ก็ขอให้หลวงพ่อดลใจให้ลูกคิดอยากจะกลับบ้านด้วยเถิด ความรู้สึกในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่รู้สึกกลัวภัยสงคราม และไม่อยากกลับบ้านเลย
พออธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อแล้ว ก็มีความรู้สึกเหมือนเดิมคือไม่อยากกลับบ้าน ข้าพเจ้าก็เลยไม่ได้กลับ ในระหว่างสงครามทุกคืน จะมีสัญญานหวอเตือนภัยดังขึ้น เวลาที่หวอดังนั้นก็ไม่เป็นเวลาคือบางทีก็หัวค่ำ บางทีก็สี่ห้าทุ่ม บางครั้งตอนกลางวันก็ยังมี ประชาชนที่เดินอยู่ตามถนน เมื่อได้ยินเสียงหวอดังขึ้น ทุกคนจะพยายามวิ่งหาที่หลบ ที่คิดว่าปลอดภัย
โดยทางรัฐบาลบาห์เรนเขาได้สอนให้ประชาชนทุกคน รู้ถึงวิธีป้องกันตัวอย่างไร จึงจะพ้นจากสารพิษที่อิรัคจะยิงมา ทุกคนกลัวกันมาก เรื่องสารพิษ แต่พวกลูกๆ ของหลวงพ่อไม่กลัวกันเลย เพราะลูกๆ ของหลวงพ่อทุกคน มี พระหางหมาก ติดตัวกันทุกคน และเมื่อฝ่ายอิรัคยิงระเบิดมาซาอุฯ หรือบาห์เรนเมื่อใด ก็จะมีเสียงหวอเตือนภัยให้ประชาชนได้ทราบ
ข้าพเจ้าคิดแต่เพียงว่า ถึงคราวที่จะต้องตาย ไม่มีใครช่วยข้าพเจ้าได้ ข้าพเจ้าพร้อมที่จะตายทุกเวลา แต่ถ้ายังไม่ถึงคราวตายแล้ว องค์หลวงพ่อช่วยข้าพเจ้าได้แน่ ข้าพเจ้าก็เกิดความอบอุ่นใจไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย
อีกทั้งข้าพเจ้าเคยได้ยินหลวงพ่อพูดว่า อิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็ไม่เท่าอิทธิฤทธิ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้ายึด "พุทโธ" เป็นที่พึ่ง ถ้าจะตายก็ตายพร้อมพุทโธ กลางวันเขาก็ทำสงครามกันภาคพื้นดิน กลางคืนเขาก็ทำสงครามกันทางอากาศ
ฝ่ายอิรัคเขาก็ยิงมาที ๒-๓ ลูก หวังจะบอมพ์บาห์เรน แต่ก็ถูกทหารอเมริกันยิงสกัดเอาไว้ได้ ลูกระเบิดก็จะระเบิดกลางอากาศ แล้วก็กระจายตกทะเลไปหมด แต่ก็มีบางครั้ง ที่อิรัคยิงมาหลายลูก ทางทหารอเมริกันสกัดได้ไม่หมด ก็ลงบาห์เรน แต่ไปลงในทะเลทราย
พอสงครามสงบลงบาห์เรนปลอดภัยไม่เป็นอะไร ข้าพเจ้าคิดว่าช่วงสงครามสองเดือนกว่าๆ นั้น บาห์เรนไม่น่าจะรอดมาได้ แต่ด้วย อานุภาพ พระคำข้าว - พระหางหมาก และองค์หลวงพ่อ บาห์เรนถึงปลอดภัยมาได้ เพราะลูกหลานอยู่ที่บาห์เรนมีไว้บูชากันทุกคน ยิ่งช่วงสงครามพากันปลุกพระทุกวัน คนที่ไม่เคยปลุกพระก็ปลุกพระเป็นไปกับเขาด้วย และก็ไม่มีใครทุกข์ใจเกี่ยวกับภัยสงครามเลย
หมายเหตุ : เรื่องนี้ 868 เห็นว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าใครอยู่ในภาวะสงครามเช่นนี้ ปกติสภาพจิตใจจะหวั่นไหวหวาดกลัวมาก (มันไม่สนุกเหมือนในหนังนะครับ) การที่ท่านสามารถ ทำใจนิ่งไม่ทุกข์ใจได้นี่ แสดงว่ามั่นคงจริงๆ ครับ ไม่ธรรมดาเลย
อีกอย่างการตัดสินใจว่า "ขอตายพร้อมพุทโธ" หรือ "เมื่อถึงคราวตายก็จะต้องตายไม่มีใครช่วยข้าพเจ้าได้" และการยึดมั่นในพระเครื่องอย่างมั่นคงเมื่อเกิดภัยอันตราย อันนี้ผมคิดว่าคือสิ่งหลวงพ่อต้องการให้เกิดกับลูกหลานครับ
________________________________________
ราคาเปิดประมูล50 บาท
ราคาปัจจุบัน1,650 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 16 พ.ย. 2558 - 12:11:36 น.
วันปิดประมูล - 17 พ.ย. 2558 - 12:30:41 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลศุภกิจอธิคม (2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,650 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ทำดีธรรมดี (735)

 

Copyright ©G-PRA.COM