(0)
พระขุนแผนยอดขุนพลแก้ว หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระขุนแผนยอดขุนพลแก้ว หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่
รายละเอียดพระยอดขุนผลที่แรงด้วยอำนาจจิตอันบริสุทธิ แล บุญฤทธิ์วิทยายุทธขั้นสุดยอด เสริมด้วยแรงเทวดาชั้นสูง และบารมีคุณแห่งยันต์ล้านนานาม "ราหูไค่หัว" สุดยอดเคล็ดวิชาของ "หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก" แห่งวัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่

หากใครรู้สึกไม่คล่องตัว ดวงตก โดนปีชง การงานไม่ก้าวหน้า มีอุปสรรค มารผจญ แนะนำให้บูชาพระยอดขุนพลรุ่นนี้เป็นที่สุด เพราะสร้างด้วยมวลสารผงยา(แก้ต่างๆ)ของครูบาดวงดีท่านโดยตรง ตัวยันต์อักขระด้านหลังองค์พระก็จัดเต็มแบบไม่ให้ตกหล่น ทั้งยันต์ราหูไค่หัว โดยมีสนเทห์ว่าคนดวงไม่ดีดวงตกมักโดนราหูอมดวงชะตาอยู่ แก้ด้วยยันต์ราหูไค่หัวหรือหัวเราะแล้วคายดวงชะตาของผู้ตกทุกข์ออกมา ทำให้เกิดความเจริญขึ้นดวงดีเสริมดวงหนุนดวงไปในตัว ทั้งยันต์หัวใจขุนแผน สุนะโมโล เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมยิ่งนัก และไม่ต้องหวั่นว่าท่านจะใช้ขึ้นหรือไม่ขึ้นเพราะกำกับด้วยเลขยันต์ของคนที่เกิดวันทั้ง๗ ครบทุกวันใช้ได้ทุกคนและตลอดกาลเวลา

อีกทั้งการอธิษฐานจิตปลุกเสกก็ได้ หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก อธิษฐานทั้งที่งานเททองพระกริ่งอินทขิล และอธิษฐานเดี่ยวที่วัดสำทับลงไปอีกแบบจัดเต็ม ด้วยอำนาจจิตแห่งพระอริยเจ้าผู้บริสุทธิ์ทำให้ตัวยันต์ต่างๆมีคุณตามแต่ละอักขระนั้นกำหนดมาทุกประการ ไม่จำเป็นต้องมานั่งท่องทุกตัว เพราะจิตอันถึงวิมุติและบุญฤทธิ์อันเปรี้ยงปร้างของครูบาดวงดีท่านจัดหนักจัดเต็มให้ พระยอดขุนพลแก้วจักรพรรดินครพิงค์ชุดนี้มีคุณประหนึ่งของค่าควรเมืองอย่างใดอย่างนั้นเลยทีเดียว

พระยอดขุนพลแก้ว จักรพรรดินครพิงค์"(ขุนแผนรูปหล่อ ยอดขุนพลรูปงาม)นี้ "พุทธวงศ์"เป็นประธานจัดสร้างถวายบูชาพระคุณและสืบทอดวิทยายุทธลับและวิชชาเฉพาะบางประการของหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี ยติโก สุดยอดพระอริยคณาจารย์อาวุโสแห่งวัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่(อายุ 98) ที่คนพื้นที่หรือคนเหนือเองน้อยคนนักจักล่วงรู้ แต่คนไกลศิษย์สายตรงในหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง(อากฤต น้องเขยคุณชินพร สุขสถิตย์)ยังทราบถึงกิตติศัพท์และออกปากยอมรับในความเก่งอย่างหาใครเทียบได้ยากยิ่งของท่านให้"พุทธวงศ์"ได้ยินว่า"ครูบาดวงดีเก่งมาก..!!!!!"ให้คงอยู่ด้วยดี อันชนรุ่นหลังสามารถพึ่งพาอาศัยและสามารถบูชาสักการะได้อย่างสนิทใจตลอดไปเป็นประการสำคัญ

ในชั้นแรก การดังว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากเพื่อพระสร้างเสร็จ ก็แค่ยกไปถวายให้ครูบาเสกที่วัดบ้านฟ่อน ก็คงจะแล้วเรื่องเหมือนอย่างปกติทั่วไปดังที่เคยเป็นมานั่นแล้ว
แต่ชะรอย พระมหาคีรีผีค้ำเสาหลักเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่จะดลบันดาลให้การดังกล่าวมีความอลังการยิ่งใหญ่พิเศษสูงส่งยิ่งไปกว่านั้นเป็นแม่นมั่น ด้วยว่าขณะที่"พุทธวงศ์"มาเตรียมการเททองพระกริ่งอินทขีล ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่อยู่นั้น ก็ได้ข่าวด่วนว่า ตอนเททองพระกริ่งอินทขีลในวันที่ 13 เมษายนนั้น ได้มีการล็อบบี้จากพระวงในให้มีการนิมนต์ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน ที่ช่วงหลังจะไม่ค่อยรับกิจนิมนต์มาภายนอก ด้วยสุขภาพไม่อำนวยมาร่วมเททองด้วยอย่างแน่นอน ก็อดให้รู้สึกปลาบปลื้มปีติยินดีหาได้น้อยไม่
จากแผนเดิมที่จะนำพระไปถวายให้ครูบาที่วัดบ้านฟ่อนเฉยๆ ก็เลยเกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาในบัดดล
ก็ในเมื่อมีวาสนาสูงสุด ครั้งแรกที่สุดในประวัติศาสตร์ 700 กว่าปี นับแต่พ่อขุนเม็งรายมหาราชได้สถาปนาเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เมื่อ พ.ศ. 1839 นับถึงปัจจุบัน 2555 ก็ได้ 716 ปี แล้วมีโอกาสได้มาช่วยมาเตรียมการงานสร้างพระกริ่งอนุสรณ์ถึงภายในหอหลวงที่ประดิษฐานเสาอินทขีล อันเป็นหัวใจของบ้านของเมืองที่สำคัญที่สุดฝ่ายอาณาจักรถึงเพียงนี้ กอรปทั้งครูบาเจ้าดวงดี ยติโกอันเป็นที่เคารพศรัทธาแห่งเราอย่างยิ่งก็จักได้มาร่วมพิธีอีกด้วยอีกต่างหาก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่งอย่างที่สุดมาประจวบเหมาะลงตัวกันพอดีถึงเพียงนี้ ก็จะไม่คิด Upgrade การทั้งนั้นให้วิเศษใหญ่ยิ่งกว่าปกติดั้งเดิมไปได้ฤา..???
ว่าแล้ว "พุทธวงศ์"ก็ได้อัญเชิญ"พระยอดขุนพลแก้ว จักรพรรดินครพิงค์"(ขุนแผนรูปหล่อ ยอดขุนพลรูปงาม) ขึ้นประดิษฐาน"บนเสาอินขีล"ภายในหอหลวง วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เพื่อรับพลังพระและเทวดา ตลอดจนอานุภาพแห่งมหาทักษาเมือง ที่ได้กำหนดให้วัดเจดีย์หลวงเป็นศูนย์กลาง พร้อมด้วยชนวนพิเศษบางประการที่เตรียมนำมาถวายเททองพระกริ่งอินทขีลชุดนำฤกษ์ตลอดคืนวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นการรองพื้นแห่งมหาพลังไว้รอท่าในวันรุ่งที่ 13 เมษายน อันเป็นวันมหาสงกรานต์ อย่างที่ไม่เคยมีพระเครื่องชุดใดๆในฝ่ายหัวเมืองเหนือหรือทั่วทั้งประเทศไทยในชั่วนับร้อยนับพันเคยกระทำการอันหาญกล้าถึงที่สุดดุจดังว่านี้มาก่อนเลยทีเดียว ..!!!!!?????

และเมื่อพระชุดนี้ได้รับการแจกจ่ายออกไป และได้ตกมาถึงมือของหน่วยสืบราชการลับทางจิตแห่ง"พุทธวงศ์"สาย"โยคะ" ผลก็ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างน่าทึ่งและน่าอนุโมทนาสาธุการเป็นที่ยิ่ง กล่าวคือ
"นิมิตแรก เห็นเป็นมือเทวดา ซึ่งมีความสวยงามกว่ามือสามัญมนุษย์โดยทั่วไป ในมือนั้นถือลูกแก้วดวงหนึ่งซึ่งมีรัศมีสว่างไสวมากๆ ยื่นลงมาจากสวรรค์ ในจิตบอกเลยว่า เบื้องบนกำหนดไว้แล้วว่า พระชุดนี้(หรือพิธีนี้) จะเปรียบเสมือนแก้วมณีคู่บารมีสำหรับประดับเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่เลยทีเดียว..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

แต่ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ
"พระผู้เสกองค์นี้ เหมือนมีจิตที่หลุดพ้น ปล่อยวางจนหมดสิ้นแล้ว การอธิษฐานจิตของท่านจึงใช้แต่จิตล้วนๆ แต่วิชชาอาคมเก่าที่ท่านเคยร่ำเรียนมาอย่างมหาศาลก็ยังมีตกค้างอยู่ในจิตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งท่านจะนำอาคมไสยเวทย์นั้นมาใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ บรรดาคาถาอาคมทั้งหลายทำอะไรท่านไม่ได้หรือไม่มีผลใดๆต่อท่านต่อไปอีกแล้ว แค่กำหนดจิตอธิษฐานเพียงชั่วไม่กี่ขณะจิตโดยไม่ต้องว่าคาถาโอมออมตั้งรูปตั้งนามปั่นธาตุหนุนธาตุอะไรให้เสียเวลา ทั้งจิตและคาถาทุกอย่างก็จะมีการจัดระเบียบประจุเข้าไปโดยอัตโนมัติจนสำเร็จสมบูรณ์แบบในพริบตาเดียว นี่สิ จึงนับเป็นการเสกพระสายเวทย์วิทยาคมชั้นโลกุตระอย่างแท้จริง.!!!!!!!!!!!!!!!!!"

และการรู้การเห็นของหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ"นี้ ก็ได้ตรงกับหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โพธิ"ที่บอกไว้เป็นประโยคแรกๆ ทั้งๆที่ไม่ได้บอกไม่ได้เล่าถึงที่มาที่ไปใดๆแม้เพียงคำเดียวเลยว่า
"พระองค์ที่เสกนี้ จิตบริสุทธิ์มาก แม้จะเคยร่ำเรียนคาถาอาคมมา แต่เวลาเสก ไม่ได้ร่ายคาถาว่าอาคมอะไรให้ยืดยาวยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่ใช้จิตล้วนๆอธิษฐานกำหนดเพียงอย่างเดียว คาถาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับองค์พระและอักขระยันต์ ก็ได้รับการเข้าไปประจุและเข้าไปขับเคลื่อนให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีอานุภาพตามอุปเท่ห์แห่งอักขระตัวยันต์ต่างๆนั้นโดยอัตโนมัติและฉับพลันทุกประการ ซึ่งผู้ที่จะทำจะเสกแบบหลุดพ้นแล้วได้ผลครบเครื่องทั้งวิชชาและวิมุติได้แบบนี้ ต้องเป็นพระอริยเกจิระดับสุดยอดเท่านั้น จึงจะทำได้ถึงขนาดนี้เลยทีเดียว..!!!???!!!???"

"พระยอดขุนพล จักรพรรดินครพิงค์นี้ มีอานุภาพสูงมากๆ กำลังของเทวดาผู้ทรงมเหศักดานุภาพชั้นสูงก็เยอะมากๆ ไม่แพ้หรือยิ่งหย่อนไปกว่าพระขุนแผนของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ซึ่งใช้วิญญาณพรายกุมารผีตายโหงมาปรุงให้เป็นกึ่งภูติกึ่งเทพเลยแม้แต่น้อย (จะต่างก็ตรงที่จิตหลวงปู่ทิมซึ่งพระอริยะสายหลวงปู่ดูลย์องค์หนึ่งเคยบอก"พุทธวงศ์"ไว้เป็นการส่วนตัวว่า "หลวงปู่ทิมท่านยังมีขันธ์อยู่ ตอนนี้อยู่ชั้นพรหมโลก"จะออกไปแนวอิทธิฤทธิ์ร้อนแรง ส่วนจิตครูบาดวงดีเป็นไปในทางชุ่มเย็นเป็นสุข อันเกิดแต่จิตที่วิมุตติหลุดพ้นไปแล้ว) แถมบางอย่าง ก็ยังจะเลยล้ำออกไปอีกเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอานุภาพทางด้านหนุนดวง เสริมดวงนั้น ใครที่ดวงตกดวงไม่ดีแล้วนำมาห้อยมาบูชา จะดีวิเศษมากแท้ๆ (เชื่อว่า เกิดแต่พระยันต์ราหูใคร่หัวที่ครูบาท่านสำเร็จและเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง ซึ่ง"พุทธวงศ์"ได้สืบทราบและได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระยันต์หลักด้านหลังของพระรุ่นนี้ทุกองค์) สุดยอดมากจริงๆ..!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
หน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โพธิ"
รุ่นนี้ มี สร้าง สีขาว หลักร้อยปลายๆขึ้นไป สีน้ำตาลหลักร้อยกลางขึ้นไป และ เนื้อสีทอง ประมาณร้อย องค์ ทีเหลือ เป้นเนื้อ ผงยาและ ผง พุทธคุณครับ ครับ ออกตั้งปี 55 รวม ทั้ง หมดทุกสี 2พันกว่าองค์ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณเนาว์ นรญาณครับ
ราคาเปิดประมูล800 บาท
ราคาปัจจุบัน850 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 22 ส.ค. 2558 - 11:00:10 น.
วันปิดประมูล - 23 ส.ค. 2558 - 12:34:36 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลชายเสรี (472)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     850 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    chainont (1.9K)

 

Copyright ©G-PRA.COM