จากหลักฐานประวัติการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวด ปรากฎว่า องค์ชายกลาง ทรงรู้จักคุ้นเคยและเป็นมิตรที่ดีต่อกันกับ นายอนันต์ คณานุรักษ์ ผู้ร่วมจัดสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ โดยนายอนันต์ ถวายพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่ ที่มีความสวยงาม (พิมพ์ที่มีเม็ดตา ซึ่งในภายหลังเรียกว่า พิมพ์กรรมการ) แด่ องค์ชายกลาง ในคราวที่เสด็จไปเยี่ยมเยือนนายอนันต์ที่ จังหวัดปัตตานี
หลังจากนั้น องค์ชายกลาง ได้เสด็จต่อไปยังจังหวัดตรัง โดยทางรถยนต์ ปรากฎว่าทรงเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เขาพับผ้า เขตติดต่อระหว่าง จ.พัทลุง กับ จ.ตรัง โดยที่ องค์ชายกลาง ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งขณะนั้นพระองค์ทรงมีพระเครื่องหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ อยู่ในกระเป๋าเสื้อเพียงองค์เดียวเท่านั้น
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ องค์ชายกลาง เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในองค์สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นอย่างยิ่งและอยากที่จะสนองพระคุณหลวงพ่อทวด โดยการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง จึงได้เสด็จพร้อมกับนายอนันต์ คณานุรักษ์ เข้ากราบนมัสการและแจ้งความจำนงต่อพระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในสมัยนั้น
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่ พระอาจารย์ทิม กำลังเตรียมการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด ให้ครบจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามบัญชาขององค์สมเด็จหลวงพ่อทวด ที่ได้กำหนดไว้ในการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ครั้งแรก ปี ๒๔๙๗ ซึ่งได้สร้างไว้เพียง ๖๔,๐๐๐ องค์ เนื่องจากเวลามีไม่เพียงพอ ได้ฤกษ์ปลุกเสกเสียก่อน จึงยังขาดจำนวนพระที่ต้องสร้างเพิ่มอยู่อีก ๒๐,๐๐๐ องค์ ในวาระนั้น (ปี ๒๕๐๕) จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะสร้างพระเครื่องจำนวนที่เหลือดังกล่าวให้ครบถ้วน ท่านพระอาจารย์ทิมจึงได้ทำพิธีขออนุญาตต่อดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวดได้บอกว่า ครั้งแรกที่สร้างด้วยเนื้อดินและว่าน ลูกหลานนำไปใช้แล้วแตกหักเสียหาย ท่านเสียใจมาก หากมีกำลังทรัพย์เพียงพอ การจัดสร้างพระเครื่องครั้งนี้ขอให้สร้างด้วยโลหะ
ดังนั้น องค์ชายกลาง จึงขอรับเป็นประธานอุปถัมภ์ ในการจัดสร้าง พระหลวงพ่อทวด ครั้งนี้ โดยโปรดให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ ให้เหมือนกับพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ (พิมพ์กรรมการ) ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่องค์ชายกลางได้ประสบกับปาฏิหาริย์ที่เขาพับผ้า จ.ตรัง... นี่เป็นที่มาของการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด รุ่นหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ อันโด่งดังไปทั่วฟ้าเมืองไทยในขณะนี้
** พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ที่ พระอาจารย์ทิม ประกอบพิธีปลุกเสกเมื่อ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๐๕ นั้น นับเป็นพระรุ่นแรกที่สร้างด้วยเนื้อโลหะที่มีรูปแบบเหมือนกับ "เตารีด" ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "รุ่นหลังเตารีด" หมายความว่า ด้านหลังขององค์พระมีลักษณะเหมือนกับ "เตารีด" นั่นเอง ไม่มีตัวหนังสืออื่นใดจารึกไว้เลย มีหลายเนื้อ อาทิ เนื้อทองผสม เนื้อนวโลหะ เนื้อเมฆพัด เนื้อแร่ มี ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และ พิมพ์เล็ก
** พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ องค์ที่เห็นนี้เป็นเนื้อทองผสม เป็นพระของ จิ๋ว เบตง สายตรงพระหลวงพ่อทวดทุกรุ่น
** ในพิธีเดียวกันนี้มีการสร้าง พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ ด้วยเนื้อนวโลหะ (ชาวบ้านเรียกว่า เนื้อกลับดำ หรือ "เนื้อกลับ")
** พระหลวงพ่อทวด เนื้อนวโลหะ นี้เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้ว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร (พระองค์ชายกลาง) ได้นำพระจำนวนหนึ่งกลับไปกรุงเทพฯ พระจำนวนนี้พระองค์ท่านตอกโค้ดตัว "ฉ" เอาไว้ด้วย มีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จำนวนตัว "ฉ" ที่ตอกนั้นไม่แน่นอน มีตัวเดียวบ้าง ๒ ตัวบ้าง จนถึง ๕ ตัวก็มีสำหรับพระเครื่องหลวงพ่อทวด หล่อโบราณ หลังเตารีด รุ่นปี ๒๕๐๕ นอกจากสร้างด้วยเนื้อทองผสมแล้ว ยังได้มีเททองหล่อ พระเนื้อพิเศษ ที่เรียกว่า เนื้อกลับดำ หรือเนื้อนวโลหะ อีกด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวของการจัดสร้าง พระหลวงพ่อทวด เนื้อนวโลหะ (รวมทั้ง พระหลวงพ่อทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ที่ออกในปีเดียวกัน) นอกเหนือจาก ปี ๒๕๐๕ แล้ว ไม่ปรากฏในประวัติของวัดช้างให้ ว่า มีการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดที่เป็นเนื้อนวโลหะอีกเลย หรืออาจกล่าวได้ว่า พระหลวงพ่อทวด เนื้อนวโลหะมีการสร้างเป็นครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายคือปี ๒๕๐๕ เท่านั้น
ที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ ได้ฐานข้อมูลมาจากหนังสือที่นายอนันต์ คณานุรักษ์ ได้เขียนให้ไว้กับวัดช้างให้ ผสมกับบทวิเคราะห์ของผู้เขียนเอง ที่นำเอาประสบการณ์ที่ผู้เขียน ได้คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่องพระบูชามาตลอดหลายสิบปี กลั่นกรองจนออกมาเป็นบทความชิ้นนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างไปจากนี้ก็ได้...ขอขอบพระคุณ |
|
(