ชื่อพระเครื่อง | สีผึ้งเขียวพร้อมนางกวัก หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ในตลับไม้แกะมือ แบบโบราณ เก่า คลาสสิค มีมนต์ขลัง ไม่ต้องถามครับว่าหายากแค่ไหน |
รายละเอียด | สีผึ้งเขียวหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ในตลับไม้แกะมือ แบบโบราณ เก่า คลาสสิค มีมนต์ขลัง พิเศษ ภายในบรรจุนางกวัก กวักเงิน กวักทอง กวักโชค กวักลาภของหลวงปู่อยู่ด้วย ไม่ต้องถามครับว่าหายากแค่ไหน
สีผึ้งสุดยอดแห่งเมตตามหานิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ได้แก่ สีผึ้งหลวงปู่ทาบ ของดีที่ยังไม่แพงเท่าวัตถุมงคลอื่นๆ ซึ่งน่าแปลกใจมากเหมือนกัน เพราะคุณค่าของสีผึ้งท่านนั้นมีมหาศาลมากกว่ามูลค่าหลายหมื่นหลายแสนเท่า แต่คงเป็นเพราะความเมตตาของท่าน ที่อยากจะให้ลูกหลานได้มีโอกาสแบ่งปันกันใช้ (แต่ในอนาคตไม่แน่ ของก็หมดไปเรื่อยๆ เปลี่ยนมือน้อยลง อาจแพงกว่าทอง)
เท่าที่ทราบสีผึ้งของหลวงปู่ทาบ มี 3 ยุค ยุกแรกเป็นสีเขียวมรกต ยุคที่สองสีเขียวออกฟ้าคราม ยุคสามสีนำตาลไหม้ๆ แต่ที่พิเศษไม่เหมือนใคร คือ "กลิ่น" ซึ่งมีกลิ่นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว หอมนวลๆ อ่อนๆ สัมผัสเห็นความดี ความงาม เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังมีกลิ่นสาบเล็กๆ เหมาะควรกับอายุที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน
ประวัติการทำสีผึ้งของหลวงปู่ทาบ ท่านใช้เวลารวบรวมมงคลวัตถุต่าง ๆ เป็นเวลานานถึง 4 ปีเศษ เมื่ออายุล่วงเข้า 80 พรรษาเศษแล้ว(ประมาณปี 2500) สีผึ้งของท่านสร้างขึ้นตามตำราของครูภู่ ชาวอุบล แรก ๆ ก็เป็นสีผึ้งธรรมดา ไม่มีสีเขียว ต่อมาท่านจึงได้นำใบว่านชนิดหนึ่งผสมลงไปด้วย สีผึ้งก็เลยมีสีเขียว จนภายหลังเรียกกันว่า สีผึ้งเขียว
สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้น ท่านทำเสร็จแล้ว จะใส่ไว้ในโถโบราณมีฝาครอบ ปรากฏอภินิหารคือ สีผึ้งเขียวของท่านจะงอก หรือเพิ่มปริมาณได้ตามความแรงของกำลังวัน บางครั้งสีผึ้งจะฟูขึ้นจนติดฝาครอบโถเกาะกันเป็นวงคล้ายๆ กับดอกของใบพลู ซึ่งเป็นรูปคล้ายดอกใบพลูนี้แหละขลังนัก ศิษย์วัดกระบกขึ้นผึ้งเมื่อเปิดฝาโถเห็นเข้าก็จะเอาใบจาก ซึ่งใช้สำหรับมวนบุหรี่สูบมาม้วนเป็นกรวยตักไป ใช้ได้ผลชะงัดนัก รายไหนรายนั้น มักหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามคนป้ายไป และไม่เคยมีพลาดเลยสักรายเดียว ถามว่าต้องใช้ป้ายกี่ครั้งจึงจะสำเร็จ โดยมากครั้งเดียวก็สำเร็จ แต่ถ้าผู้หญิงบางคนดวงแข็งมีของดีคุ้ม หรืออำนาจดวงคุ้มครอง ก็ต้องใช้หลายหนหน่อย แต่สำเร็จทุกราย สีผึ้งของหลวงพ่อทาบนั้น มีเคล็ดวิธีการใช้ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม คือใช้ตามคำสั่งความสำคัญของนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว นับแต่หัวแม่โป้งเรื่อยมาจนถึงนิ้วก้อยซึ่งเล็กที่สุด และวิธีจะใช้ป้ายแตะที่ตัวผู้หญิงซึ่งหมายปอง อย่าป้ายให้ต่ำกว่าบั้นเอวลงไป และป้ายแตะให้ถูกต้องเนื้อ อย่าให้ถูกผ้า เพราะจะได้ผลช้า
หากใช้สีผึ้งเขียวอาราธนาติดตัว ให้ตั้งนะโม 3 จบ หลับตาระลึกถึงหลวงพ่อทาบ และหญิงสาวที่หมายปอง แล้วภาวนาคาถาว่า "อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง" สามจบ ขออาราธนาสีผึ้งเขียวเกี้ยวสาวหลวงพ่อทาบ จงมาประสิทธิเมแก่ข้าฯ สวะหะ นะโมพุทธายะ
หากใช้สีผึ้งเขียวป้ายแตะที่ริมฝีปากเรา หรือป้ายแตะตัวผู้หญิง ให้ตั้งนะโม 3 จบ หลับตาระลึกถึงหลวงพ่อทาบ แล้วภาวนาคาถาว่า "จิตติ มิตติ อรระหัง ปิยังมะมะ" สามจบ ขออาราธนาสีผึ้งเขียวเกี้ยวสาวหลวงพ่อทาบ จงมาประสิทธิเมแก่ข้าฯ สวะหะ นะโมพุทธายะ
การใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้
1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งทาปาก
2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งทาปาก
3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่หม้าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งทาปาก 4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆ ให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งทาปาก
5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งทางปาก
6.กรณีใช้สีผึ้งป้ายแตะตัวผู้หญิงที่เราหมายปอง จะต้องให้ถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิง
มีตำนานที่คนระยองรุ่นใหญ่ต่างรู้ดี เมื่อปี พ.ศ.2503 จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ.2503 นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน
อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงปู่ทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงปู่ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม
แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน แต่ราคาสีผึ้งเมื่อเทียบกับคุณค่าแล้วถูกมากมาก ผู้ที่มีโอกาสจึงควรเก็บเช่าบูชาไว้ใช้เป็นมงคลของชีวิต เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ผมมีเยอะ ก็แบ่งๆกันไปใช้ครับ จะได้ช่วยเผยแพร่บารมีและสนองเจตนาของหลวงปู่ด้วย หากท่านไปใช้ในทางที่ถูก ในทางที่ดีแล้วได้ผล ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ
เงินจากการเช่าบูชา 1% หักรวบรวมทำบุญให้พระภิกษุอาพาธ ณ โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อเป็นการถวายความน้อมสักการะ กตเวทิตารำลึก แด่ปูชนียาจารย์หลวงปู่ทาบครับ
ขอบคุณครับ
ต้อยติ่ง (เก้า กระบกขึ้นผึ้ง)
หมายเหตุ ผมอยู่ต่างประเทศ ถ้าการซื้อขายจบภายใน 30 พ.ย.57 ผมสามารถส่งของให้ได้ระหว่างวันที่ 1-4 ธค.57 นะครับ |
ราคาเปิดประมูล | 180 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 3,520 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | - 27 พ.ย. 2557 - 00:01:44 น. |
วันปิดประมูล | - 30 พ.ย. 2557 - 05:40:42 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | ต้อยติ่ง (174)
|