(0)
~วัดใจ~ พระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อขมิ้นเสก หลวงปู่เพิ่ม หลังจารเฑาะมหาพรหม พร้อมบัตรรับรอง







ชื่อพระเครื่อง~วัดใจ~ พระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อขมิ้นเสก หลวงปู่เพิ่ม หลังจารเฑาะมหาพรหม พร้อมบัตรรับรอง
รายละเอียด~วัดใจ~ พระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อขมิ้นเสก หลวงปู่เพิ่ม หลังจารเฑาะมหาพรหม พร้อมบัตรรับรอง

เกี่ยวกับประวัติการสร้างขมิ้นเสก ซึ่งนำมาจากหนังสืออนุสรณ์ งานพระราชทานเพลิงศพ พระพุทธวิถีนายก( เพิ่ม ปุญญวสโน ) เขียนโดย สุธน ศรีหิรัญ ครับ
                        พระผงรุ่นที่ 2 หรือ " พระขมิ้นเสก " การสร้างพระรุ่นนี้ผู้เขียนได้มีส่วนเห็นในขณะที่ยังเป็นนักเรียนอยู่วัดกลางบางแก้วเรื่องพระผงขมิ้นเสกนี้ ผู้เขียนขอเขียนแบบเล่าสู่กันฟังมากกว่ารูปแบบอื่น เพราะเรื่องนี้ผู้เขียนได้รู้ได้เห็นมากับตาตนเอง และได้ยินได้ฟังมาจาก "หลวงปู่เพิ่ม" ผู้สร้างพระพิมพ์นี้ขึ้นเมื่อคราวที่ผู้เขียนได้บวชอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว โดยมี"หลวงปู่เพิ่ม" เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้เอง
                        หลวงปู่เพิ่ม ได้เมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า... เมื่อครั้งที่หลวงปู่บุญยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้เอาหัวขมิ้นมาลงอักขระและปลุกเสกบ่อยๆ ครั้งละไม่มากนัก เมื่อลงอักขระและปลุกเสกเสร็จแล้ว ก็เอาหัวขมิ้นหัวนั้นใส่ไว้ในโถเคลือบ ท่านว่าจะเอาไว้สร้าง "พระขมิ้นเสก" หลวงปู่บุญท่านจะลงอักขระขมิ้นและปลุกเสกเอาขมิ้นใส่โถไว้นานเท่าใด หลวงปู่เพิ่มเล่าว่า จำม่ได้แน่นอน แต่ขมิ้นในโถเคลือบใบใหญ่นั้น ยังไม่ทันจะได้นำมาบดสร้างพระเครื่อง หลวงปู่บุญก็มรณภาพไปเสียก่อน ขมิ้นที่อยู่ในโถนั้นก็ยังคงอยู่ตลอดมา วันหนึ่ง...หลวงปู่เพิ่มท่านได้ไปเห็นขมิ้นในโถใบนั้นเข้า ก็ย้อนระลึกนึกถึงเรื่องราวในอดีตว่า เคยเห็นหลวงปู่บุญเสกขมิ้นในโถ เป็นประจำ จึงได้นำเอาโถขมิ้นใบนั้นมาไว้ที่กุฏิและพบว่า ขมิ้นเหล่านั้นส่วนใหญ่แห้งไปแล้วมีอยู่สักครึ่งขวดโหล หลวงปู่เพิ่ม ท่านจึงได้นำเอาหัวขมิ้นสดมาลงอักขระและปลุกเสกบ้าง ตามกรรมวิธีของหลวงปู่บุญโดยตลอด หลวงปู่เพิ่ม ได้ลงอักขระและเสกหัวขมิ้นครั้งละ5 หัวบ้าง 10 หัวบ้าง แล้วก็เอาหัวขมิ้นนั้นมาใส่ไว้ในโถเคลือบใบนั้นเหมือนกัน ตั้งใจว่า เมื่อขมิ้นเต็มโถแล้วก็จะนำขมิ้นนั้นมาบดเป็นผง สร้างพระเครื่องขมิ้นเสกขึ้น  หลวงปู่เพิ่มได้ลงอักขระและปลุกเสกหัวขมิ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุด หัวขมิ้นก็เต็มโถใบใหญ่นั้น
                        ปี พ.ศ. 2504 หลวงปู่เพิ่มอายุได้ 76 ปี ท่านเห็นว่า ขมิ้นเต็มโถแล้ว ก็จะได้สร้างพระเครื่องตามความตั้งใจเสียที จึงได้เรียก "พระปลัดใบ คุณวีโร" ไปพบ แล้วแจ้งความประสงค์ของท่านว่า จะให้พระปลัดใบช่วยเอาขมิ้นในโถนี้ไปบดให้เป็นผง แล้วเอาไปพิมพ์เป็นองค์พระให้  พระปลัดใบก็ได้ดำเนินการตามที่หลวงปู่เพิ่มต้องการ แล้วจัดหาแม่พิมพ์พระเครื่องได้จำนวน 5 แบบพิมพ์ นำมาให้หลวงปู่เพิ่มพิจารณา  หลวงปู่เพิ่มเห็นแล้วก็พอใจโดยเฉพาะแม่พิมพ์ พระชัยวัฒน์(ซึ่งท่านเรียกว่า "ยอดธง") เพราะท่านเห็นว่า มีหูมีตาชัดเจนดี จากนั้นก็ได้มีการเอาผงที่ได้จากการบดขมิ้นนั้น มาตำในครกเพื่อเตรียมสร้างพระเครื่อง  ในตอนนี้เองที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมรู้เห็นกับเขาด้วย เพราะตอนนั้นผู้เขียนยังเรียนหนังสืออยู่ที่วัดกลางบางแก้ว พอพักเที่ยงตอนกลางวันก็ตามเพื่อนๆ ที่เป็นลูกศิษย์วัด เข้าไปร่วมวงศ์ไพบูลย์ในการกินข้าวก้นบาตรของพระเสมอๆ โดยเฉพาะที่กุฏิของพระปลัดใบมีอาหารคาวหวานอุดมสมบรูณ์มาก เพราะมีพระไปบิณฑบาตมาหลายสาย พอกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็โดนพระปลัดใบเรียกเข้าไปใช้งานสนองพระคุณข้าวแดงแกงร้อนตามสมควร  ท่านปลัดใบให้เข้าไปช่วยตำผงเพื่อเอาไว้ใช้สร้างพระ เราเป็นเด็กเป็นเล็กก็ต้องทำตามที่ท่านสั่งแต่ก็ทำด้วยความเต็มใจ และดีใจที่ได้ทำ เพราะตอนนั้นก็ชอบเสาะหาพระเครื่องเก่า-ใหม่กับเขาบ้างแล้วเหมือนกัน เมื่อได้มาช่วยเรื่องการสร้างพระก็ยิ่งชอบใจใหญ่ บางวันหลังเลิกเรียนแล้วก็ไปช่วยท่านปลัดใบก็มี
                        ในตอนนั้นจำได้ว่า นอกจากผงขมิ้นเสกแล้วก็ยังได้เห็น ผงสีขาวนวลๆ ใส่ในขวดโหลขนาดย่อมอีก 1 ใบ พระปลัดใบบอกว่า เป็นผงพุทธคุณของหลวงปู่บุญ อีกถาดหนึ่งมี ลูกอมสีขาวสักครึ่งถาดเห็นจะได้ พระปลัดใบบอกว่า เป็นลูกอมของหลวงปู่บุญ นอกจากนี้ก็มีผงแร่อีก 1 ขวดโหลก็เป็นของหลวงปู่บุญ เช่นกัน   ตอนตำผงนั้น ใส่หัวขมิ้นเสกเป็นหลัก แล้วก็เอาผงขาวนวลที่ว่าเป็นของหลวงปู่บุญใส่ผสมลงไปในครก พร้อมกับลูกอมหลวงปู่บุญและผงแร่ตำรวมๆกันไปอย่างนี้ตลอดเวลา  บางวันขณะที่ตำผงกันอยู่นั้นหลวงปู่เพิ่มท่านก็เดินมาดู แล้วท่านก็เอาผงบ้าง ลูกอมบ้างใส่เพิ่มลงไปในครกที่ตำกัน ท่านบอกว่า ลูกอมนั้นให้ใส่ให้หมด ไม่ต้องเหลือไว้.....  ( ภายหลังต่อมา พระปลัดใบท่านได้เล่าเพิ่มเติมว่า นอกจากผงขมิ้นเสก และผงหลวงปู่บุญ ลูกอมหลวงปู่บุญ ผงแร่ แล้วก็ยังมีพระของเก่าที่หักแล้ว เช่น พระผงสุพรรณ ตำรวมไปด้วยจำนวนมากมาย หลวงปู่เพิ่มไปได้พระสมเด็จ พระผงสุพรรณหักๆเหล่านี้มาจากไหน ไม่มีใครทราบ ) การตำผงต่างๆนั้น ตำกันอยู่นานทีเดียว จึงหมดผง แล้วจึงกดพิมพ์เป็นองค์พระออกมา พระที่พิมพ์เสร็จแล้ว ก็เอามาเรียงไว้ในถาด พอเต็มถาดก็ยกเอามาไว้ในกุฏิหลวงปู่เพิ่ม ท่านก็จะปลุกของท่านเรื่อยไป  องค์พระที่เริ่มแห้งดีแล้วหลวงปู่เพิ่มท่านก็จะลงอักขระไว้หลังองค์พระด้วยเห็กจาร ท่านลงเองด้วยตัวท่านเองทุกองค์ไป พระบางองค์ท่านจะลงตัว " เฑาะว์มหาอุด " บ้าง ลงตัว "เฑาะว์มหาพรหม" บ้าง ลงเสร็จแล้วก็ปลุกเสกกันอีกต่อไปอีกปลุกเสกกันไปเรื่อยๆมา   หลวงปู่เพิ่มท่านตั้งใจว่า พระชุดนี้ท่านจะแจกตอนงานฌาปนกิจศพท่าน หลังจากท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่ทว่าในระหว่างที่หลวงปู่ท่านได้ปลุกเสกมาเรื่อยๆนั้น ในระยะหลังๆมานี้ท่านก็ได้หยิบเอาพระมาแจกแก่คนที่ไปหาท่านบ้างครั้งละ 1-2 องค์ หรือแจกกับพระที่มาลาสิกขากับท่านก็จะได้รับแจกกันไปคนละองค์สององค์ หลวงปู่มักจะบอกกับคนรับพระนี้ว่า เก็บไว้ให้ดีนะจ๊ะท่านพูดของท่านอยู่อย่างนี้เสมอๆ ทำให้ผู้รับพระจากท่านเกิดความหวงแหนกันมาก   ดังที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าพระชุดนี้ท่านได้เตรียมการสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 จนกระทั่งปลุกเสกมาโดยตลอด จนท่านได้มรณภาพในปี พ.ศ. 2526 รวมเวลาการสร้างและการปลุกเสกนานถึง 22 ปีทีเดียว
                        พระที่ใช้เวลาการปลุกเสกอันยาวนานถึง 21 ปี นั้น ท่านผู้อ่านลองคิดเอาเองเถอะว่าควรค่าแก่การนำมาสักการะบูชาหรือไม่ เพียงไร?
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน9,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 25 ก.ย. 2557 - 21:00:01 น.
วันปิดประมูล - 26 ก.ย. 2557 - 21:05:42 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลMRDAVE (802)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 25 ก.ย. 2557 - 21:00:36 น.



รอยจารชัดเจน


 
ราคาปัจจุบัน :     9,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ศิษย์ผู้น้อย (57)

 

Copyright ©G-PRA.COM