| ชื่อพระเครื่อง | &&&...(วัดใจ!)..."สร้างมณฑป๔๐งดงามดั่งเทวานฤมิต"...@"เปิดบาทเดียว เล่นเสียว เคาะเดียวแดง"@..."ไขว่านชูองค์พระลอยเด่นผงเก้าเจ็ดเกสรดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์เส้นสายคมชัดโหงวเฮ้งปานประหนึ่งเจ้าสัว..&&& |
| รายละเอียด | &&&...(วัดใจ!)..."สร้างมณฑป๔๐งดงามดั่งเทวานฤมิต"...@"เปิดบาทเดียว เล่นเสียว เคาะเดียวแดง"@..."ไขว่านชูองค์พระลอยเด่นผงเก้าเจ็ดเกสรดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์เส้นสายคมชัดโหงวเฮ้งปานประหนึ่งเจ้าสัว..&&&
@@@ "จุดเด่นของพระองค์นี้" @@@
1) พระองค์นี้มีปรากฏการณ์พิเศษปานประหนึ่งหลวงปู่ทวดแสดง "เทวาปาฏิหาริย์" นิรมิตกายให้เราเห็นองค์ท่าน ด้วยการเปล่งประกายสกาวของไขว่านสีขาวอมเทาผุดขึ้นมาตรงบริเวณส่วนที่นูนขององค์พระคือ เศียร ใบหน้า แขน ขา กลีบบัว มองเห็นเป็นองค์พระมหาโพธิสัตว์ราวกับลอยมาจากฟากฟ้าสุราลัย มาเพื่อปกป้องผองภัย อีกทั้งสำแดง "อภิมหาเมตตาคุณ" แก่มวลมนุษยชาติให้พ้นจากอุปัทวันตรายทั้งปวง ทั้งยังอำนวยศุภสิริสวัสดิ์ สมกับเป็น "พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์แห่งอโยธยาศรีราเทพนคร"...บูรพาจารย์และเกจิอาจารย์ผู้ทรงฤทธิ์ในแผ่นดินนี้ต่างทราบกันดีว่า บารมีของท่านแผ่ไพศาลเต็มผืนฟ้าและมหาปฐพี ยิ่งเมื่อจักษุประสาทสัมผัสภาพของหลวงปู่ทวดองค์นี้แล้ว ยิ่งรู้สึกราวกับว่าองค์ท่านทรงเสด็จมาให้เรายลโฉมในรูปของวัตถุมงคลอันเข้มขลังองค์นี้ นอกจากไขว่านที่ปรากฏดังกล่าวมาแล้วนั้นยังไขว่านบางส่วนเปล่งประกายลออรัศมิ์ล้อมองค์พระในขณะที่เว้นช่องให้มีพื้นดำแทรกระหว่างองค์พระกับรัศมีดังกล่าว จึงกล่าวได้ว่าเป็นความงดงามลงตัวที่สัมผัสได้ด้วยอารมณ์แห่ง "มงคลเวทยศิลป์" สำหรับพระองค์นี้ต้องขอเชียร์เต็มๆเลยว่าท่านที่อยากหาพระเข้าประกวดสักองค์หนึ่ง องค์นี้จึงน่าจะเป็นคำตอบให้ท่านได้ไม่ยาก หรือจะเก็บไว้เป็น "สมบัติทางวัฒนธรรม" ล้ำค่าที่จะส่งมอบสู่ลูกหลานและคนที่คนรักในอนาคตได้อย่างน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ขอให้นิยามความงามของพระองค์นี้ว่างามปาน "เทวานฤมิต" ค่ะ
2) ในสมัยที่อาจารย์นองแห่งวัดทรายขาว ปูชนีย์บุคคลผู้เป็นบูรพาจารย์ท่านหนึ่งของวัตถุมงคลสายหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านอาจารย์นองเคยพูดให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังว่า..."พระรุ่นนี้เนื้อดีมาก อนาคตจะดัง"...นี่เป็นคำพูดของทานที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเลยนะคะ หลายคนจึงแอบเก็บไว้กันมากมาย ยิ่งโดยเฉพาะพิมพ์กรรมการแล้วหายากสุดสุดเลยค่ะ ยิ่งกรรมการสวยๆแบบองค์นี้แล้ว ขอแนะนำว่าให้เก็บและส่งเข้าประกวดเอารางวัลติดมือมาด้วยก็ไม่ว่ากระไรนะคะ ยิ่งอาจารย์นองท่านพูไว้อย่างนี้ด้วยต่อไปราคาคงไปไกลแน่ๆค่ะ
3) ถ้าท่านเพ่งพินิจพิจารณาให้ดี "องค์พระ" หลวงปู่ทวดของพระองค์นี้ดูแล้วเหมือนกับ "องค์พระ" ของเหรียญหัวโตวัดช้างให้เป็นรุ่นแรกเมื่อพ.ศ. ๒๕๐๐ แต่ต่างกันตรงที่องค์พระองค์นี้จะอวบอิ่มกว่าเหรียญหัวโตซะอีก มีผู้บูชาเหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์หัวโตรุ่นแรกกล่าวกันว่า เหรียญหัวโตจะเสริมพุทธคุณทางด้านการค้าการขาย ตลอดจนเมตตามหานิยม ทำให้กิจการขยายใหญ่โตเหมือนชื่อของเหรียญนั่นแหละคะ จึงเหมาะมาที่จะนำไปบูชาเพื่อเสริมพุทธคุณด้านดังกล่าว ยิ่งองค์พระที่ปรากฏบนพระองค์ที่ท่านเห็นยังดูอวบอิ่มอุดมสมบูรณ์ จึงจะยิ่งเสริมพุทธคุณให้ท่านๆได้อุดมไปด้วยโภไคยสมบัติ ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมา กิจการค้าขายใหญ่โตรุ่งเรืองสืบไปค่ะ
4) *มีผงเก้าเจ็ด* สีนำตาลๆปรากฏให้เห็นตรงพื้นพระใกล้ศีรษะด้านขวามือขององค์พระ...ผงเก้าเจ็ดดังกล่าวเกาะอยู่ตามจุดที่มีการชี้จุดโยงให้เห็นตามภาพ...@ผงเก้าเจ็ดเป็นผงพุทธคุณที่ท่านอาจารย์ทิม ธัมมธโร "ปฐมปรมาจารย์" เจ้าอาวาสวัดช้างให้ผู้สร้างพระหลวงปู่ทวดรุ่นแรกท่านได้ทำการปลุกเสกขึ้นมา เพื่อผสมในพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2497 ปัจจุบันพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านองค์ที่สวยเฉียบระดับดารา ราคาค่านิยมปาไปเป็นล้านแล้วค่ะ สำหรับพระเนื้อว่านปี 24 ซึ่งจริงๆสร้างขึ้นมาในปี พ. ศ. 2522 นั้น มีการนำเอาผงพระปี 97 มาผสมไว้ในพระรุ่นนี้จำนวนมากถึง 1 ลังใหญ่ ดังนั้นพระลปท.ปี 24 องค์ใดมีส่วนผสมผงเก้าเจ็ดดังกล่าวมากก็จะปรากฏให้เห็นเป็น ปื้น สะเก็ด หรือคราบสีเหลืองหรือน้ำตาลนวลๆ เหมือนองค์ที่ลงในกระทู้นี้ก็จะมีความนิยมมากๆ นะคะ...การมีผงเก้าเจ็ดในวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดองค์ใดๆจึงเปรียบเสมือนการที่ท่านอาจารย์ทิม ธัมมธโร ท่านได้เข้าร่วมการปลุกเสกด้วยตนเองนั่นเอง ไม่ต้องพูดถึงนะคะว่าผงพุทธคุณปีเก้าเจ็ดนั้นมีที่มาและเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เช่นไร แต่ถ้าท่านอยากทราบ ลองอ่านอรรถาธิบายที่ว่าด้วยกระบวนการปลุกเสก ที่มาของผงพุทธคุณ และผงเก้าเจ็ด ได้ดังต่อไปนี้ค่ะ....
ผงเก้าเจ็ดเป็นผงพุทธคุณที่ท่านอาจารย์ทิม ธัมมธโร และคณาจารย์ผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างหลวงปู่ทวดปี 2497ได้ทำการปลุกเสกเพื่อสร้างพระหลวงปู่ทวดรุ่นแรก...
@ผงพุทธคุณคืออะไร? ... ผงพุทธคุณ...เป็นผงศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากการนำเอาดินสอพองปั้นให้เป็นแท่งเหมือนชอล์กเขียนกระดานดำ นำมาผสมกับน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ น้ำตำลึง หรืออื่นๆ(ซึ่งสูตรแต่ละเกจิอาจแตกต่างกัน) แล้วนำมาเขียนอักขระเลขยันต์คาถาอาคมตามตำราที่กำหนดไว้บนกระดานชนวนเมื่อเขียนเสร็จแต่ละรอบก็ลบกระดานชนวนแล้วเก็บรวบรวมผงดังกล่าวไว้นำมาปั้นเป็นแท่งใหม่จนครบสูตรการเขียนและลบตลอดจนปั้นใหม่มีขั้นตอนและกระบวนการเป็นตำราจำแนกได้หลายแบบ โดยทั่วไปมีผงวิเศษ 5 ประการ
คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห
ผงทั้งห้านี้ผงวิเศษ 5 ประการ มิได้เกิดจากการนำผง 5 ชนิดมารวมกัน แต่เกิดจากผงชุดเดียวกันผ่านกรรมวิธี ถึง 5 ครั้ง
ขั้นแรก ทำดินสอผงวิเศษ ด้วยส่วนผสม คือ ดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า
ดินเสาหลักเมือง 7 หลักเมือง ขี้เถ้าไส้เทียนบูชาพระประธานพระอุโบสถ
ดอกกาหลง ยอดสวาท ยอดรกซ้อน ขี้ไคลเสมา ขี้ไหคลประตูวัง
ขี้ไคลเสาตะลุงช้างเผือก ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ พลูร่วมใจ พลูสองหาง กระแจะตะนาว จ้ำมันเจ็ดรส และดินสอพอง มาผสมกัน ป่นละเอียดเจือน้ำ ปั้นเป็นแท่งดินสอ
กรรมวิธีทำผงวิเศษ กระทำในพระอุโบสถ เตรียมเครื่องสักการะ
หน้าพะประธาน กล่าวคาถาอัญเชิญครู ประกาศอัญเชิญเทพยาดา
ทำประสะน้ำมนต์พรมตัว เรียกอักขระเข้าตัว และอัญเชิญครูเข้าตัว
- ผงปถมัง...เป็นผงเริ่มต้น นำดินสอผงวิเศษมาเขียนสูตร และลบออกเป็นผงปถมังมีอานุภาพ หลายด้าน แต่หนักไปทาง คงกรพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด กำบังล่องหนและป้องกันภูตผีปีศาจและคุณไสย
- ผงอิทธิเจ นำผงปถมังมาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงอธิเจ มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
- ผงมหาราช...นำผงอธิเจ มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็น...
ผงมหาราช...มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่าสูงป้องกัน
และถอนคุณไสย และแคล้วคลาด ผงพุทธคุณ นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเกี่ยวกับพุทธคุณนานาประการ ให้อานุภาพด้านเมตตามหานิยม อย่างสูง กำบัง สะเดาะ และล่องหน
- ผงตรีนิสิงเห...นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร
ลบผงเกี่ยวกับยันตร์ตรีนิสิงเหหรือยันตร์นารายณ์ถอดรูป แล้วมียันต์
พระภควัมบดี และยันต์ตราพระสีห์ อานุภาพด้าน เมตตามหานิยม
ป้องกันถอนคุณไสย และภูตผี ป้องกันสัตว์เขี้ยวเล็บงา รักษาโรค
อุบัติภัยอันตรายทั้งปวงค่ะ
กล่าวโดยสรุปผงเก้าเจ็ดและผงพุทธคุณจึงเป็นมวลสารวิเศษที่สำคัญมากที่ใช้ในการสร้างพระเนื้อผงและเนื้อว่าน โดยเฉพาะองค์นี้ผงพุทธคุณเข้มข้นจนตกผลึกเป็นเกล็ดตามที่ชี้จุด จึงย่อมเป็นข้อยืนยันได้ว่า "เข้มขลังขมังเวทย์" ตามสูตรของโบราณาจารย์...น่าเก็บน่าใช้ น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งนะคะ
5) มี *เกสรดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์* ตามภาพชี้จุด เกสรดังกล่าว เป็นเกสรดอกไม้แห้งจากวิหารหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ถือเป็นมวลสารมงคลอีกชนิดหนึ่งที่เพิ่มความเป็นมงคลด้านเมตตามหานิยม เหมือนกระแสแห่งความศรัทธาที่ "ปวงมหาประชาชน" ได้แห่แหนหลั่งไหลกันมากราบไหว้บูชาหลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้อย่ามืดฟ้ามัวดิน ดังนั้นใครพบพานท่านก็มีแต่จะนิยมชมชอบเปรียบเหมือนกลิ่นบุปผามาลีที่ติดตาล่อใจฝูงภุมรินทร์ให้บินมาเชยชมดอมดมเกสรดอกไม้งามนั่นเองค่ะ
6) พระองค์นี้ มีความหนามากกว่าปกติมากๆ ดังที่ท่านเห็นตามภาพ ท่านว่าจะทำให้กิจการค้าขายยิ่งจะเป็นปึกแผ่นแน่นหนานะคะ นอกจากนั้นยังมีเคล็ดมงคลอีกหลายประการ อาทิเช่น มีดิน(มวลสาร) ปลิ้นออกมาด้านหลังดูสวยงามเข้มขลังมากๆค่ะ เขาตำรา "ดินปลิ้นกินไม่หมด" นั่นเองค่ะ
7) อีกประการหนึ่ง พระองค์นี้ยังมี...*เส้นสายคมชัด* มากๆไม่ว่าจะเป็น มือ ลูกตา คิ้ว แขน ขา สังฆาฏิ กลีบบัว งดงามเข้มขลัง สัมผัสพลังได้ด้วยสายตาตามที่บรรยายมาแล้วในข้อต้นๆ จึงเหมาะที่จะขึ้นคอไว้บูชาหรือเก็บเป็นสมบัติล้ำค่าในอนาคตนะคะ
8) มีบัตรรับรองเว็บจี(G-PRA)เรียบร้อย จึงเช่าบูชาได้ด้วยความสบายใจค่ะ
@@@ "จุดอ่อนของพระองค์นี้" @@@
- พระองค์นี้ถ้ามองมุมมองข้างตรงด้านซ้ายและขวา จะมีความหนามากๆอาจเกิดขึ้นจาการหดตัวในแนวดิิ่งมีน้อยกว่าปกติมีการยืดตัวทางด้านหนาจึงทำให้ดูต้อๆไปนิดหนึ่งนะคะ แต่เรื่องหนาสะใจอย่าบอกใครเลยค่ะ ไม่เชื่อลองเช่าบูชาไปประกวดดู คิดว่าน่าจะมีรางวัลติดมือมานะคะ
@@@ "รับประกันตามกฎทุกประการ" @@@
- ออกบัตรเองลดพิเศษ 600 บาท
- ออกบัตรให้เพิ่ม 100 บาทตามกฏ
@@@ "มงคลวัตถุ์" @@@
"ชัดเจน จริงใจ ไร้กังวล"
@ "มีบัตรรับรองเว็บจี(G-PRA) เรียบร้อยแล้วนะคะ" @
@ "มีบัตรรับรองเว็บจี(G-PRA) เรียบร้อยแล้วนะคะ" @
@ "มีบัตรรับรองเว็บจี(G-PRA) เรียบร้อยแล้วนะคะ" @ |
| ราคาเปิดประมูล | 1 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 8,801 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 200 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 20 ก.ค. 2557 - 23:20:27 น. |
| วันปิดประมูล | - 21 ก.ค. 2557 - 23:38:39 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | มงคลวัตถุ์ (514)   
|
