(0)
po*** เหรียญพรหมวิหารธรรม หลวงปู่สี เกจิที่มีอายุยืนนาน สวยแชมป์ โครต แชมป์ จมูกโด่ง บล็อคมีขีด คัดมาจากหลายร้อยเหรียญ***oh








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องpo*** เหรียญพรหมวิหารธรรม หลวงปู่สี เกจิที่มีอายุยืนนาน สวยแชมป์ โครต แชมป์ จมูกโด่ง บล็อคมีขีด คัดมาจากหลายร้อยเหรียญ***oh
รายละเอียดเทพธิดามาฟังสวดมนต์

กาลต่อมาลูกศิษย์ของหลวงปู่ยามใดที่เห็นหลวงปู่ว่างจากการปฏิบัติธรรม ก็มักจะให้หลวงปู่สีท่านเล่าเรื่องราวต่างๆ ในการเดินธุดงค์ของหลวงปู่ว่าได้พบเห็นอะไรบ้างตามป่าที่หลวงปู่ผ่านพบมาในครั้งธุดงค์

“หลวงปู่ครับ เวลาที่หลวงปู่เดินธุดงค์ในป่าลึก ๆ ที่ไม่มีบ้านคนอยู่ ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่แล้วหลวงปู่จะไปบิณฑบาต กับใครที่ไหนครับ?”

“การบิณฑบาตเป็นกิจของสงฆ์ สงฆ์แม้จะอยู่ในที่ใดก็ตามก็ต้องบิณฑบาตตามปกติ การบิณฑบาตในป่า ก่อนที่จะบิณฑบาต พระธุดงค์ทุกรูปที่ปฏิบัติอยู่ในป่าจะต้องเข้าสมาบัติ แผ่เมตตา มีพรหมวิหารเป็นอารมณ์ ต่อจากนั้นก็ออกบิณฑบาตไปตามป่า ก็จะมีคนนำข้าวนำอาหารมาใส่บาตร แปลกอยู่ที่ว่า ผู้ที่มาใส่บาตรนั้นแต่ละคนหน้าตางดงาม แต่งกายสะอาด พูดจาไพเราะ พวกในป่าเขาใจดี เขาไม่ให้พระอด ไม่ว่าอยู่ในที่แห่งใดถึงเวลาใส่บาตรพวกเขาก็จะมาใส่บาตรกัน

พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไปอยู่ไหน ณ ที่แห่งใดก็จะไม่ทุกข์ยาก ย่อมมีเทพเทวดาสงเคราะห์ ไม่เฉพาะแต่พระสงฆ์เท่านั้น แม้แต่พวกฆราวาสก็เช่นกัน หากทำดี เทวดาก็จะดูแลรักษาช่วยเหลือเช่นกัน

เทวดาตามป่าเขา เขาชอบฟังธรรม เวลาพระทำวัตรสวดมนต์พวกเทพเทวดาก็จะพามันมาฟัง บ้างก็จะกล่าวว่า

“ท่านเจ้าขา ท่านสวดมนต์จนเสียงมนต์สะเทือนไปทั่ว นานๆ จะมีพระมาโปรด ขอท่านโปรดกรุณาเทศนาด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

หลวงปู่ท่านเล่าว่าพวกเทวดาบางพวก เขาก็ชอบฟังบทพระธัมมจักกัปวัตนสูตร บางหมู่ก็ชอบกรณียเมตตสูตร เวลาพระสวดมนต์จบ หรือเทศน์จบ จะได้ยินเสียงสาธุพร้อมๆ กัน เสียงก้องกังวานน่าฟัง ต่อจากนั้นก็กราบลงพร้อมกันอย่างงดงาม

หลวงปู่ท่านพยายามย้ำอยู่เสมอว่า “นรกสวรรค์ มีจริงนะ”

“ดั่งธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ เป็นธรรมที่ไม่มีกาลเวลา ผู้ส้องเสพซึ่งรสพระธรรมเมื่อใด ย่อมได้รับรสแห่งธรรมนั้นทุกเมื่อ นับเป็นธรรมของโลกโดยแท้”

กุศลธรรมเหล่าใด อันทำให้บุคคลเป็นเทพบุตร เทพธิดา เสวยทิพยสมบัติอยู่ กุศลธรรมเหล่านั้น เป็นสิ่งที่สมควรนำมาทบทวน กระทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรหลงลืมละเว้น เพราะเหตุแห่งทิพยสมบัติที่เสวยอยู่มาปิดบังอำพรางไว้

ทิพยสมบัติที่เสวยอยู่นี้ แท้จริงเป็นของเสื่อมได้ หมดได้ เป็นของไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยเป็นเพียงโลกียสมบัติ เมื่อกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้หมดลง ความสุขอันนี้ก็จะกลายเป็นทุกข์หรือจะต้องไป

เกิดใหม่ตามภพภูมิ ตามกรรมดี กรรมชั่วของตน ที่ยังเหลืออยู่

ทิพยสมบัติมิใช่ตัวอัตตา ตัวตนที่เราท่านจะมายึดถีอหวงแหนเอาไว้ ด้วยเหตุนี้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงตรัสย้ำเป็นคำสุดท้าย ก่อนที่พระองค์ท่านปรินิพพานว่า

“ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม ความไม่ประมาทนั้นคือ ควรระลึกถึงกุศลกรรมที่ตนได้กระทำมาดีแล้ว และพากเพียรกระทำต่อไปมิให้ขาดสาย”


เป็นส่วนหนึ่งที่หลวงปู่ท่านเคยนำเอาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอบรมให้เหล่าเทพและเทวดาฟังในป่าเขา เมื่อท่านถูกนิมนต์ให้เทศน์

คุณโยมเทพบุตร เทพธิดาทั้งหลาย ผู้มีความปีติสุข ความอิ่มเอิบในทิพยสมบัติเป็นเครื่องอยู่ เป็นผู้นิราศแล้วจากทุกข์ทั้งปวง แม้กระนั้นคุณโยมก็มิได้อยู่บนความประมาท หลงอยู่ในทิพยสมบัติ มีจิตปรารถนาจะได้รับรสพระธรรม เป็นที่น่ายินดีอนุโมทนา ความปรารถนาในกุศลธรรมนั้นเป็นบุญที่ควรอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

คุณโยมทั้งหลายที่เสวยทิพยสมบัติอยู่ จงพิจารณาให้ดี จะเห็นว่ายังเป็นโลกที่ไม่มีแก่นสาร อาจกล่าวได้ว่าเป็นโลกที่ไม่มีตัวตน เป็นแต่แสงสว่างแผ่ซ่านอยู่ อันเป็นโลกที่ละเอียดอ่อน ด้วย

อำนาจของจิตที่เป็นอกุศลธรรม ให้โยมปรากฏให้อาตมาได้เห็น ก็ด้วยอำนาจของจิตอธิษฐาน

“จิต” เป็นนามธรรม ไม่มีรูปที่จะประกอบกรรมดี หรือชั่วได้อย่างมนุษย์ แต่จิตก็สามารถบริจาคทาน เจริญสมาธิ รักษาศีล ได้เช่นกัน คุณโยมผู้เป็นเทพทั้งหลายพึงใช้จิตบริจาคทาน ใช้จิตรักษาศีล ใช้จิตเจริญสมาธิ ได้เช่นกัน คุณโยมผู้เป็นเทพทั้งหลายพึงใช้จิตบริจาคทาน ใช้จิตรักษาศีล ใช้จิตเจริญสมาธิ

การบริจาคทานด้วยจิต ก็คือให้ความกรุณา ให้ความเมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย นับได้ว่าเป็นทานบารมีอันยิ่งใหญ่

“ศีล” ก็ย่อมรักษาได้ด้วยจิต จิตของคุณโยมเป็นกุศลจิต จึงนับได้ว่า ได้รักษาศีลไว้โดยสมบูรณ์

“สมาธิ” ก็คือทำจิตให้ตั้งมั่น อะไรที่เป็นอุบายให้จิตตั้งมั่น? ก็คือการตามระลึกถึงอนุสติ ๑๐ อย่างใดอย่างหนึ่ง มีนึกภาวนาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า เป็นต้น จิตภาวนาคำว่า พุทโธ ให้เป็น

อารมณ์จิตอยู่สม่ำเสมอต่อเนื่อง กุศลธรรมก็จะสูงขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อคุณโยมผู้เป็นเทพได้ตระหนักชัดว่าความเป็นเทพนั้นยังเป็นโลกียสมบัติ เป็นสิ่งสมมุติ ไม่คงทนถาวร เสื่อมได้ หมดได้ สิ้น

ไปได้ ก็จงอย่ามีความประมาท เวลาสวรรค์แม้แต่จะยาวนานกว่าโลกมนุษย์ถึงร้อยเท่า พันเท่า จะพ้นจากไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นไม่ได้ สิ่งสมมุติทั้งหลายเกิดขึ้นแล้วย่อมดับ จงขวนขวายละสมบัติไปสู่ “วิมุตติ” เถิด จึงจะพ้นจากการเวียนว่ายในวัฎสงสาร




หลวงปู่สี ท่านมิได้ติดยึดอยู่กับที่ ท่านจะธุดงค์แสวงหาความวิเวกไปยังสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งโปรดเทพเทวา สรรพสัตว์และมนุษย์ ไปยังดินแดนต่าง ๆ อันเป็นการปฏิบัติตามครูบาอาจารย์แต่เดิมมา

การธุดงค์แสวงหาความวิเวกนั้น ครูบาอาจารย์แต่เดิมมา ท่านไม่ให้ติดที่อันเป็นสัปปายะ ดินแดนที่สุขสบาย จะต้องละจากไปเรื่อยๆ ลำบากบ้าง สบายบ้าง อดบ้าง ฉันบ้าง ไม่ยึด ไม่ให้ถือ ให้เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป

“ธรรม คือ ธรรมชาติ ธรรมชาติ คือ ธรรม”

มองไปตามพื้นดินในป่าใหญ่ เราจะมองเห็นธรรมหล่นเกลื่อนกลาด ธรรมเหล่านั้นก็คือใบไม้แห้ง เป็นสิ่งที่แสดงสภาวธรรมให้เห็นถึงความเป็นอนิจจัง ใบไม้หลุดร่วงลงมาจากต้น แปรสภาพสลายกลายเป็นอื่นในที่สุด หรือไม่ก็รอการถูกเหยียบย่ำป่นปี้แหลกสลายกลายเป็นผง เป็นดินไปในที่สุด เมื่อเป็นดินแล้ว ต่อมาเมล็ดพันธุ์หล่นลงมา จากสูงมาต่ำ กลายเป็นฐานรองรับให้เมล็ดพันธุ์นั้นงอกงาม เป็นต้น เป็นใบเจริญเติบโต แตกกิ่งก้านสาขา ออกดอก ออกผล ผลิใบอ่อน เจริญไปตามกาล กลายเป็นใบแก่ จากเขียวเป็นเหลือง แล้วก็หลุดร่วงลงมา หมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เช่นนี้

ยามใดที่เงยหน้ามองขึ้นไปเบื้องบน ก็จะพบใบไม้บนต้น ยังมีมากมายเป็นแสนเป็นล้านๆ ใบ พระพุทธเจ้าพระองค์จึงรับสั่งแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูปว่า ธรรมที่พระองค์ได้แสดงมาแล้ว เป็นเพียงใบไม้แห้งเพียง ๑ กำมือเท่านั้น ส่วนธรรมที่ยังมิได้แสดง ตลอดอายุของพระองค์ ยังมีมากดุจดังใบไม้
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน2,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 16 มิ.ย. 2557 - 17:06:37 น.
วันปิดประมูล - 20 มิ.ย. 2557 - 01:29:10 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลpoohpp (2.6K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    อัสซุย (988)

 

Copyright ©G-PRA.COM