| ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ฉลวย วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ปี ๒๕๐๐ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น |
| รายละเอียด | หลวงปู่ฉลวย สุธมฺโม วัดใหญ่ชัยมงคล หนึ่งในพระกรรมฐานศิษย์หลวงปุ่มั่นรุ่นเดียวกับท่านพ่อลี วัดอโศการาม หลวงพ่อฝั้น หลวงพ่อสิม เป็นต้น เป็นพระเถระรูปแรกที่ได้ตั้งรากฐานเผยแผ่กรรมฐานสายพระป่าในเมืองกรุงเก่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่จะนับถือพระเกจิในด้านของขลัง ถ้าท่านไม่เก่งจริงคงไม่สามารถพัฒนาวัดร้างเช่นวัดใหญ่ชัยมงคล ให้กลับคืนมาเป็นวัดที่มีพระจำพรรษา นอกจากนี้ยังสร้างวัดอีกหลายแห่ง
หลวงปู่ฉลวย สุธมฺโม เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2449 ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ฐานะครอบครัวค่อนข้างดี อุปสมบทครั้งแรก เมื่ออายุครบบวชตามประเพณีของคนไทย ในปี พ.ศ. 2469 ในคณะมหานิกายที่วัดพระญาติ โดยมีหลวงพ่อกลั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อุปสมบทอยู่เกือบปี ได้ศึกษาพื้นฐานและเริ่มต้นปฏิบัติกัมมัฏฐาน และตั้งใจว่าจะไม่ลาสิกขาบท แต่ต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารอยู่ 2 ปีหลังจากนั้นใช้ชีวิตเป็นฆราวาสอยู่หลายปี ได้มีโอกาสเข้ามาบวชใหม่เพราะเบื่อหน่ายชีวิตทางโลกปี พ.ศ. 2488 หลวงปู่มีอายุ 39 ปี เข้ารับการอุปสมบทในคณะมหานิกาย ที่วัดโคกช้าง อ.อุทัย อยุธยา มีพระอุปัชฌายะคือหลวงพ่ออั้น ลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ต่อมาท่านได้ศึกษาปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงปู่มั่น ที่วัดหนองผือ (อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร) เพื่อความสะดวกในการศึกษาธรรมกับพระสายหลวงปู่มั่น ท่านไดเปลี่ยนเป็นพระธรรมยุตติกนิกาย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2491 ณ วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ พนฺธุโล (จูม จันทรวงศ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า สุธมฺโม ขณะนั้นหลวงปู่มีอายุ 42 ได้จำพรรษาที่วัดป่าบ้านภู่ 1 พรรษา ได้สร้างเสนาสนะ และเทศนาสั่งสอนญาติโยมให้เกิดศรัทธาความเลื่อมใส ส่วนในการปฏิบัติภาวนานั้น หลวงปู่จะมีนิมิตภาพเจดีย์ของวัดใหญ่ชัยมงคลปรากฏอยู่เสมอ ท่านจึงเกิดความสงสัยว่า วัดใหญ่ชัยมงคลกับท่านนั้น มีความสัมพันธ์อะไรกันหนอ เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านจึงออกธุดงค์กลับมายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีสามเณรติดตามมาด้วยองค์หนึ่ง ส่วนวัดป่าบ้านภู่นั้น หลวงปู่ได้นิมนต์พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินโน (ญาติแท้ๆของหลวงพ่อฝั้น มีศักดิ์เป็นน้องชาย) มาเป็นเจ้าอาวาสแทน
การกลับมาบ้านเกิดที่อยุธยาครั้ง ก็หาที่พักพอเป็นไปได้ ต่อมาจึงได้โยมคนหนึ่ง เป็นผู้พาไปดูสถานที่ของวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่ถูกปล่อยให้รกร้างจากศึกสงครามกับพม่า ยังไม่มีพระมาปักหลักอยู่ เนื้อที่ของวัดมีหลายร้อยไร่ ถูกชาวบ้านรุกเข้ามาทำประโยชน์ก็มาก ที่เหลือก็รกร้างไปด้วยต้นหนามและหมามุ่ยรกทึบ จึงเป็นที่หลบซ่อนของพวกมิจฉาชีพต่างๆ พวกขโมย ขโมยวัวควายมาได้ ก็นำมาฆ่าในนี้ พวกขี้ยาก็มาหลบเสพกันในนี้ อาศัยสถานที่ทำสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เมื่อกลับมายังที่พักแล้ว ขณะภาวนาหลวงปู่เกิดนิมิตปรากฏเป็นภาพพระพุทธรูปองค์ใหญ่ยืนอยู่ 3 องค์ องค์แรกเซจะล้มลง องค์ที่สองเข้ามาประคองไว้ทัน เมื่อภาพพระหายไปแล้ว ก็ปรากฏเป็นภาพมีด และหลวงปู่ก็เข้าไปจับมีดนั้นไว้ ท่านพิจารณาในนิมิตที่เป็นพระพุทธรูป 3 องค์นั้น ได้ความว่าหากแบ่งศาสนาเป็น ๓ ยุค พุทธศาสนาก็ผ่านพ้นไปได้ยุคหนึ่ง แม้จะเสื่อมโทรมลงบ้าง แต่ก็จะกลับรุ่งเรืองดังเดิม และนิมิตที่เป็นมีดนั้น ได้ความว่า ตัวท่านจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคเป็นอันมาก เมื่อได้ความดังนี้แล้ว จึงตกลงใจ รักษาและกอบกู้พระธรรมวินัยให้ถูกต้อง เพื่อให้ศาสนาของพระพุทธองค์มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ถึงแม้จะต้องต่อสู้กับอุปสรรคเป็นอันมากก็ตาม นอกจากนี้ พระอาจารย์ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ก็เคยแวะมาพำนักที่วัดใหญ่ชัยมงคลถึง 2 ปีในสมัยหลวงปู่ฉลวย ก่อนที่จะเดินทางกลับไปที่อุบลราชธานี หลวงปู่ฉลวย เป็นพระที่ปฏิบัติที่มีคนนับถือมากในสมัยนั้น สามารถทำให้ชาวบ้านมาฝึกกรรมฐานได้จำนวนมาก เพราะในสมัยนั้นชาวบ้านในพื้นที่จะรู้จักแต่พระเกจิขมังเวทย์ นับได้ว่าหลวงปู่ฉลวย เป็นพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น องค์แรกที่ได้มาปักหลักที่เมืองกรุงเก่า ท่านทำคุณงามความดีให้แก่ศาสนามากมาย แม้ว่าชื่อเสียงของท่านจะไม่โดดเด่นในเชิงวิชาอาคมตามแบบพระเกจิรุ่นเก่าๆของอยุธยา แต่เชื่อว่าวัตถุมงคลที่ผ่านการอธิษฐานจิตของท่านมีพุทธคุณสูงๆ เพราะท่านผ่านการอบรมสามธิภาวนามามากมายตามแบบฉบับพระป่า หลวงปู่ฉลวย ได้มรณภาพเมื่ออายุ 86ปี พ.ศ. |
| ราคาเปิดประมูล | 680 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 720 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 15 มิ.ย. 2557 - 23:35:02 น. |
| วันปิดประมูล | - 17 มิ.ย. 2557 - 11:30:40 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | botun (2.9K)   
|
