(0)
@@พระกริ่งสุตาธิการี + พระชัยวัฒน์ เนื้อนวโลหะ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์ สวยกล่องเดิม พร้อมบัตร ***เคาะแรก**@@







ชื่อพระเครื่อง@@พระกริ่งสุตาธิการี + พระชัยวัฒน์ เนื้อนวโลหะ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์ สวยกล่องเดิม พร้อมบัตร ***เคาะแรก**@@
รายละเอียดในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า

"หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้"

และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระ กริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๔ โดยหลวงปู่เป็นประธานในพิธี และมีเกจิอาจารย์อีก ๙ ท่าน ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

ขณะที่พระกริ่งพระชัยวัฒน์ พุทโธ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หลวงปู่โต๊ะก็ได้มรณภาพเสียก่อน ในวันที่ ๕ มี.ค ๒๕๒๔ (แสดงให้เห็นถึงอนาคตังสญาณของหลวงปู่โต๊ะ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมรณภาพในปีนั้น) เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อทองอยู่ ได้ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อน ๑ ครั้ง และ ต่อมา เมื่อทางวัดได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ พร้อมกับ รูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองหล่อขึ้น ทางวัดได้นำ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "พุทโธ" เข้าร่วมในพิธี โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน และ หลวงพ่อทองอยู่นั่งปรกปลุกเสกด้วย จำนวนสร้างพระกริ่ง ๑,๕๐๐ องค์ พระชัยวัฒน์ ๓,๐๐๐ องค์ ทั้ง ๒ พิมพ์ ตอกโค้ด "ต" สำหรับพระชัยวัฒน์นั้นใต้ฐานอุดด้วยเทียนชัย และเส้นเกศาของหลวงปู่โต๊ะไว้ด้วย

สองเกจิร่วมสมัย ร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๐๐ กว่า ๆ เป็นเหตุการณ์ที่พระอริยะเจ้าสองรูป ได้โปรดวิญญาณ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ในคลองภาษีเจริญ บริเวณประตูน้ำหน้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอริยะเจ้าสองรูปนั้น องค์แรกท่าน คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เหตุการณ์ นี้สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตรอกดอกไม้ และ หลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุในขณะนี้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี

จะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน

มีเรื่องบอกเล่าโดยพระที่เคยบวชอยู่ที่วัดหนองพะองว่า เมื่อ ว่างเว้นจากภารกิจหน้าที่การงานก่อสร้างและการทำวัตรเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ไปชุมนุมกันอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อในเวลากลางคืน หลวงพ่อท่านจึงถามว่า จะไปไหนกัน มากันพร้อมเพรียงเชียว พระที่มาทั้งหมดก็ไม่พูดว่าอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร หลวงพ่อท่านจึงเรียกพระทั้งหมดให้ออกมาข้างนอกชานกุฏิของท่าน เมื่อออกมาแล้วหลวงพ่อก็บอกให้ดูดาวประจำเมืองที่มีแสงสุกใสอยู่บนท้องห้า นั้นไว้ให้ดี พระทั้งหลายในที่นั้นก็จ้องมองไปที่ดาวดวงนั้น หลวง พ่อท่านก็เริ่มบริกรรมภาวนาโดยเอาผ้าอาบน้ำฝนที่ท่านนำติดตัวมาด้วยพันกัน และขมวดให้แน่นๆ สักพักหนึ่งดาวดวงนั้นก็ค่อยๆ หรี่แสงลงไปจนกับดับหายไปจากท้องฟ้าเลยทีเดียว แล้วหลวงพ่อก็ค่อยๆ คลายผ้าอาบน้ำฝนนั้น ดาวประจำเมืองก็ค่อยๆ เพิ่มแสงมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีแสงนวลใสตามปกติของดวงดาว การดับดาวนี้หลวงพ่อท่านทำให้ดูหลายครั้งด้วยกันในเวลาที่ท่านเห็นว่าสมควร หรือตามวาระโอกาสที่พอจะอำนวยให้ ซึ่งบางครั้งที่ท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่าต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันที ราวกับปาฏิหารย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันที

เมื่อครั้งที่เริ่มทำถนนสายวัดใหม่หนองพะองไปต่อเชื่อมกับถนนสายเลียบคลองภาษีเจริญ ฝั่งทิศเหนือ เริ่ม ทำตั้งแต่เป็นถนนดินแล้วมาเป็นถนนลูกรัง โดยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และหลวงพ่อได้ติดต่อขอลูกรังมาทำถนนโดยว่าจ้างรถบรรทุกสิบล้อมาถมทำถนน เมื่อทำการบรรทุกมาได้ประมาณครึ่งหนึ่งของระยะทาง รถบรรทุกลูกรังวิ่งมาบนสะพานไม้ ได้เกิดการทรุดตัวของไม้สะพาน ทำให้ล้อรถตกลงไปในช่องสะพานไม้ ไม่สามารถจะนำรถขึ้นไปพ้นจากหลุมไม้สะพานนั้นได้ แม้ว่าจะเอารถมาฉุดลากดึงขึ้นมา ก็ไม่ได้ เถ้าแก่รถจึงมาแจ้งให้หลวงพ่อทราบว่ารถติดอยู่บนสะพานข้ามไปไม่ได้เอารถมา ลากก็ไม่ขึ้น หลวงพ่อจึงบอกให้ช่วยกันเข็นขึ้นสิ เถ้าแก่บอกว่าไม่ขึ้นหรอกเสียแรงเปล่าๆ หลวงพ่อบอกให้ไปช่วยกันเข็นแล้วจะขึ้นมาเองแหละ เถ้าแก่ก็บอกว่า ถ้าเข็นขึ้นมาได้จะเอาลูกรังมาถมถนนให้เสร็จเลยทีเดียว หลวงพ่อจึงครองผ้าแล้วเดินไปที่รถบอกคนขับให้เตรียมติดเครื่องแล้วก็เอามือ แตะที่ตัวถังรถ สักประเดี๋ยวก็บอกให้คนขับเดินหน้าแล้วเร่งเครื่องไปเลยนะ พอเร่งเครื่องสักประเดี๋ยวเดียวก็สามารถเดินหน้ารถขึ้นจากสะพานนั้นได้ เถ้าและคนขับก็สงสัยว่ามันขึ้นมาได้อย่างไรทั้งที่ก่อนหน้านั้นเอารถมาดึง ยังไม่ขึ้นมาเลย แล้วคนเข็นเพียงไม่กี่คนก็สามารถขึ้นมาได้ เถ้าแก่คนนั้นจึงมาทำถนลูกรังจนเสร็จเรียบร้อย และมากราบนมัสการหลวงพ่อเสมอมา

วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ฯลฯ แล้ว ถือว่า น้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เท่า ที่ทราบมี เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๕๐๙ จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่าง ๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่งสุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน ฯลฯ เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวก พระปิดตา, ล็อกเก็ต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) เป็นต้น

ชุดนี้เป็น พระกริ่งสุตาธิการี + พระชัยวัฒน์ เนื้อนวโลหะ หล่อโบราณดินไทย ตำราวัดสุทัสน์แท้ ๆ แต่งผิวเดิม ตอกโค๊ด กล่องเดิม พร้อมบัตรรับรองการันตีพระ

**เคาะแรก**
ราคาเปิดประมูล14,400 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 14 เม.ย. 2557 - 12:41:11 น.
วันปิดประมูล - 21 เม.ย. 2557 - 12:41:11 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลthriphop09 (11K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 14 เม.ย. 2557 - 12:41:43 น.



กล่องเดิม ๆ


 
ราคาปัจจุบัน :     14,400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM