(0)
รอบสุดท้ายก่อนเก็บยาว....พระปิดตาหัวบานเย็น หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พร้อมบัตรรับรอง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องรอบสุดท้ายก่อนเก็บยาว....พระปิดตาหัวบานเย็น หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พร้อมบัตรรับรอง
รายละเอียดพระปิดตาหัวบานเย็น หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพ .....ประวัติเจ้าคุณทองเฒ่า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร "หลวงปู่เอี่ยม" หรือ "เจ้าคุณเฒ่า" หรือ "พระภาวนาโกศล" (เอี่ยม) ท่านเป็นชาวบางขุนเทียนมาแต่กำเนิ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2375 (สมัย ร.3) เป็นบุตรของนายทองและนางอู่ เมื่อถึง พ.ศ. 2387 โยมทั้งสองได้นำท่านไปฝากเรียนอยู่ที่สำนักวัดหนัง จนถึง พ.ศ. 2397 ท่านจึงทำการอุปสมบท ณ ที่วัดราชโอรส ท่านเคร่งและศึกษาด้านปริยัติธรรมมาก และชั่วระยะหนึ่งท่านก็ย้ายไปอยู่ที่วัดนางนอง โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับ "หลวงปู่รอด" ซึ่งกำลังเลื่องชื่อมากในด้านวิทยาอาคมขลัง ปรากฏตามหลักฐานชัดเจนว่าท่านได้ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธาคม กับพระภาวนาโกศลเถระ (รอด) เจ้าอาวาสวัดนางนอง ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านเอง จากการศึกษา ชีวประวัติของท่าน จะเห็นได้ว่า ท่านเจริญรอยตามพระอาจารย์รูปนี้มาโดยตลอด เช่นเดียวกับ พระพุฒาจารย์ (โต) เจริญรอยตามสมเด็จพระสังฆราช (สุก) ผู้สร้างพระสมเด็จ “อรหัง” และพระสมเด็จฯ วัดพลับ เช่นในการที่ท่าน ได้สร้างพระปิดตา และพระปิดทวาร ฯลฯ ขึ้น ก็ถอดลักษณะมาจากพระเครื่องทั้ง ๒ ชนิดของหลวงปู่รอด และในสมัยที่พระภาวนาโกศลเถระ (รอด) ถูกราชภัยถูกถอดสมณศักดิ์ลงเป็นขรัวตาธรรมดา ในกรณีที่ ไม่ยอมถวายอดิเรกแด่รัชการที่ ๔ คราวเสด็จพระราชทานผู้พระกฐินที่วัดนางนอง และถูกย้ายไปครองวัดโคนอน ในขณะนั้นท่านบวชได้ ๑๖ พรรษา เป็นพระปลัดฐานานุกรมของพระภาวนาโกศลเถระ (รอด) และฐานะศิษย์ใกล้ชิด ก็ได้ย้ายจากวัดนางนองติดตามไปปรนนิบัติอาจารย์ของท่าน ณ สำนักใหม่อย่างไม่ลดละ แสดงถึงน้ำใจอันประเสริฐ ของท่านที่ไม่ยอมพรากเอาตัวออกห่าง นับว่าจัดเป็นคุณธรรมที่ปรากฏเล่าขานสรรเสริญกันมาจนทุกวันนี้ “พระครูธรรมถิดา” (รอด) เป็นบุตรใครไม่ทราบ ภูมิลำเนาเดิมอยู่คลองขวาง ตำบลคุ้งเผาถ่าน อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี เป็นฐานานุกรมใน พระนิโรธรังสี พระราชาคณะ เจ้าอาวาสองค์แรก (ของวัดหนัง) เป็นผู้เชี่ยวชาญในฝ่ายวิปัสสนาธุระที่สำคัญรูปหนึ่ง เมื่ออยู่วัดหนัง อยู่คณะสระ พระนิโรธรังสีมรณภาพแล้ว ได้รักษาวัดอยู่คราวหนึ่ง ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนางนองและพระราชทานสมณศักดิ์เป็น ที่พระภาวนาโกศล ในรัชกาลที่ ๔ เสด็จพระราชทานผ้าพระกฐินวัดนางนอง เล่ากันว่า ท่านไม่ถวายอดิเรกนับเป็นความผิด ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทางราชการถอดออกจาก สมณศักดิ์ ท่านจึงไปอยู่วัดโคนอนซึ่งอยู่ในคลองขวาง ฝั่งตะวันตก ต.บางหว้า อ.ภาษีเจริญ จ.ธนบุรี และมรณภาพที่วัดนี้ หลวงปู่รอดองค์นี้เป็นผู้สร้างวัดอ่างแก้ว ในวันที่เกิดเหตุนั้น หลวงปู่เฒ่าก็อยู่ในที่นั้นด้วยสมัยที่ยังเป็นพระปลัดได้เตือนให้พระภาวนาโกศลเถระ (รอด) ถวายอดิเรก แต่ท่านยังเฉยเสียพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วมาก เสด็จออกมานอกพระอุโบสถ แล้วตรัสด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า “เขาถอดยศเรา” เกล่ากันว่าสาเหตุที่ไม่ยอมถวายอดิเรกนั้น เนื่องด้วยท่านไม่สบอารามณ์ในเรื่องการแบ่งแยกนิกาย ธรรมยุตกับมหานิกาย อันเป็นสาเหตุให้สงฆ์แตกแยกกัน ต่อมาหลังจากพระภาวนาโกศลเถระ (รอด) ถูกเรียกพัดยศคืนไม่นานนัก วันหนึ่งสังฆการีก็ได้รับ พระบรมราชโองการให้นำพัดยศมาถวายคืนให้ท่าน แต่ท่านไม่ยอมรับและพูดกับสังฆการีว่า ใครเป็นผู้ถวายพัด แต่อาตมาและใครเล่าที่เอาคืนไป บุรุษจงเอากลับไปเสียเถิด วิทยาคุณของ พระภาวนาโกศลเถระ (รอด) ที่จะบรรยายต่อไปนี้ คุณปู่ทรัพย์ ทองอู๋ได้เล่าให้ทายาทฟังต่อ ๆ กันมา ซึ่งจะได้นำมาประมวลเข้าไว้ดังต่อไปนี้ การถอนคุณไสย์ ในการออกเดินธุดงค์คราวหนึ่งของหลวงปู่รอด ท่านได้ไปถึงชนบทแห่งหนึ่ง แถว ๆ ทุ่งสมรหนองขาวเขตติดต่อระหว่างกาญจนบุรีกับราชบุรี คืนวันหนึ่งขณะที่ท่านอยู่ในกลด มีพายุอื้ออึง และมีเสียงต้นไม้ต่าง ๆ ดังลั่นและหักโค่น ดังกึกก้องไปหมด ท่านจึงสมาธิเจริญพุทธาคม สงบนิ่งอยู่ พระที่ติดตาม ท่านเดินธุดงค์ได้ยินเสียงวัตถุหนัก ๆ ปลิวมาตกอยู่รอบบริเวณที่ปักกลด เสียงดังตุบ เช้าขึ้นพอเปิดกลดออกมา ก็เห็นท่อนกระดูกตกเรี่ยราดอยู่รอบบริเวณนั้น พอสักครู่หนึ่งก็มีชาวบ้านกระเหรี่ยง ๒-๓ คนเดินตรงเข้ามา บางคนก็ถือจอบและเสียมมาด้วย เมื่อได้สอบถามจึงได้ความว่าเขาเตรียมฝังศพพระธุดงค์ ซึ่งคาดว่า จะต้องถูกคุณไสย์มรณภาพ เมื่อคืนนี้ ครั้นเมื่อเห็นว่าหลวงปู่รอด และพระผู้ติดตามยังปกติดีอยู่ พวกกระเหรี่ยง จึงพากันกลับไป แต่พอไม่ทันไรก็พากันมาอีก ในตอนนี้นำเอาอาหารมาถวายด้วย หลวงปู่รอดบอกพระผู้ติดตาม ว่าอย่าได้ฉันอะไรเป็นอันขาด พอรับประเคนอาหารแล้วก็เรียก ให้พระผู้ติดตามเอาหม้อกรองน้ำ ของพระธุดงค์ มาให้แล้ว หลวงปู่รอดก็บริกรรม ทำประสะน้ำมนต์พรมอาหารนั้น ปรากฎว่าข้าวสุกที่อยู่ในกระด้ง ก็กลายเป็นหนามเล็ก ๆ เต็มไปหมด กับข้าวต่าง ๆ ในกลามะพร้าว ก็กลายเป็นกระดูกชิ้นน้อย หลวงปู่รอด เอามือกวาดกระดูกและหนามเหล่านั้นไว้ แล้วคืนภาชนะที่ใส่มา ให้กับพวกนั้นไป พวกกระเหรี่ยงพยายาม จะขอคืนไปท่านไม่ยอมให้ ตกกลางคืนหลวงปู่รอดบอกกับพระลูกศิษย์ว่า ท่านจะปล่อยของเหล่านี้กลับไปเล่นงาน เจ้าพวกนี้บ้าง เพียงสั่งสอน ให้รู้สึกสำนึกเท่านั้น พอรุ่งเช้าพวกกระเหรี่ยง ก็รีบมาหาหลวงปู่รอดแต่เช้ามืด คราวนี้ หามคนป่วยมาด้วยคนหนึ่ง ล่าวคำขอขมา และขอร้องให้ท่านว่าช่วยรักษา ลักษณะคนป่วยร่างกายบวม ไปทั้งตัวเหมือนศพที่กำลังขึ้น หลวงปู่รอดหัวเราะแล้วถามว่าเป็นอะไรบ้าง คนป่วยได้แต่นอนอยู่ตลอดเวลา ได้แต่กรอกหน้าและยกมือขึ้นพนม หลวงปู่รอดจึงเอาน้ำมนต์ ในหม้อกรองน้ำ (ลักจั่น) พรมลงไปตามร่างคนป่วย เพียงครู่เดียวนั้นเองร่างกายที่บวม ก็ค่อยยุบเป็นอัศจรรย์ ทุกคนก็กราบหลวงปู่ด้วยความยำเกรง แล้วบอกว่าจะนำอาหารมาถวาย แต่ท่านบอกว่าจะ ถอนกลด แล้วเดินธุดงค์ต่อไปหลังจากได้ปักกลดอยู่ ๒ คืนแล้ว หลวงปู่เอี่ยมได้ติดตามท่านอยู่นานและได้เห็นวิชาอาคมมากมายจึงได้หันมาสนใจในด้านไสยเวทและศึกษาวิชาต่างๆจนแตกฉานทั้งหมด จนถึงขนาดได้เป็นศิษย์เอกที่พระอาจารย์รักมาก ครั้นต่อมาในปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) "หลวงปู่รอด" ได้ถูกถอดจากสมณะศักดิ์เดิม ให้เป็นพระสงฆ์ธรรมดาๆ หลวงปู่รอดจึงได้ย้ายพระอารามไปครองอยู่ที่วัดโคนอน โดยมีเจ้าคุณเฒ่าตามไปรับใช้อยู่ที่วัดโคนอนด้วย ต่อมาไม่นานนักหลวงปู่รอดได้ถึงแก่มรณภาพ หลวงปู่เอี่ยมก็ได้ครองตำแหน่งเจ้าอาวาสปกครองวัดโคนอนสืบแทนพระอาจารย์ต่อไป เมื่อถึง พ.ศ. 2441 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ผู้ซึ่งให้ความเคารพหลวงปู่เอี่ยมเป็นพระอาจารย์ และได้โปรดเกล้าให้ "หลวงปู่เอี่ยม" ไปครอง "วัดหนัง" ต่อไป และรุ่งขึ้นอีก 1 ปี องค์สมเด็จพระปิยะมหาราชก็ได้พระราชทานสมณะศักดิ์ให้แก่หลวงปู่เอี่ยมแห่งวัดหนัง เป็นพระราชาคณะที่ "พระภาวนาโกศล" (เอี่ยม) ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับพระอาจารย์ของท่านนั่นเอง หลวงปู่เอี่ยม ท่านได้ครอง วัดหนัง อยู่ถึง 27 ปีเศษ จึงถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2469 รวมอายุได้ 94 ปี หนังจากท่านได้มรภาพลง ท่านเจ้าคุณผล ได้รับตำแหน่ง เจ้าอาวาส ต่อจากท่าน และได้สร้างรูปเหมือนของหลวงปู่เอี่ยม ใว้เพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้มาสักการะบูชา จวบจนถึงปัจจุบัน.....................

สำหรับพระปิดตาหัวบานเย็น หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง องค์นี้เนื้อผงหัวบานเย็น(ชมพู) พระสวยแท้ดูง่าย เลี่ยมทองพร้อมออกบัตรรับรองจากทางเว็ปเพื่อนบ้านมาให้แล้ว สบายใจได้ครับ


พระสวย ตัวจริง สนใจก็ติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้นะครับ ผมรับประกันพระแท้แบบเสมอต้นเสมอปลาย " เก๊คืนเงินเต็มจำนวน"

โอกาสสุดท้ายครับ....ไม่ออก เก็บเข้ารังยาวววววว อิ อิ อิ
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน26,250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 11 ต.ค. 2556 - 22:10:52 น.
วันปิดประมูล - 17 ต.ค. 2556 - 01:11:06 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลunlover (347)(7)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     26,250 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sakorn_rak (566)

 

Copyright ©G-PRA.COM