(0)
พระเหนือพรหม พิมพ์ใหญ่ มีขอบ เนื้อผงกัมมัฏฐาน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2517 สภาพสวย ราคาเบาๆ เลี่ยมทองพร้อมใช้








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระเหนือพรหม พิมพ์ใหญ่ มีขอบ เนื้อผงกัมมัฏฐาน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2517 สภาพสวย ราคาเบาๆ เลี่ยมทองพร้อมใช้
รายละเอียดพระเหนือพรหม พิมพ์ใหญ่ มีขอบ เนื้อผงกัมมัฏฐาน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2517 สภาพสวย ราคาเบาๆ เลี่ยมทองพร้อมใช้

พระเหนือพรหม พระพิมพ์พระพุทธเจ้าเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะเเก อยุธยา ปี 2517 สร้างจากชัยมงคลคาถาบทที่ว่าด้วยพระพุทธเจ้าโปรดท้าวพกาพรหม ซึ่งนับเป็นพระพิมพ์เอกลักษณ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระพิมพ์นี้เป็นที่นิยมสูงสุดในเนื้อผงมาช้านาน พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่เริ่มเทคราแรกปี 2517 ซึ่งสร้างเป็นพิมพ์ไม่มีขอบก่อน ภายหลังได้ดัดแปลงเป็นพิมพ์มีขอบต่อมา พุทธคุณและปาฏิหาริย์ของพระเหนือพรหม ของหลวงปู่ดู่ ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อดู่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าพระเหนือพรหมของหลวยงพ่อ ใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี คนดวงตกก็รอดได้ ผู้ใดได้ไข้ได้เจ็บก็หายผี และปีศาจร้ายมิอาจกล้ำกราย คุณไสยมนต์ดำการกระทำย่ำยีมิอาจครอบงำ ผู้ใดเป็นศัตรูคิดร้าย จะพินาศด้วยวิบากกรรมของตนเอง บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี ถ้าถึงเวลาหมดอายุจิตสงบพบทางสว่างมีสุขคติเป็นที่ไปผู้ที่มีพระเหนือพรหม ของหลวงพ่อองค์เดียวก็เกินพอ
หลวงปู่ดู่ ท่านย้ำเสมอว่า บางคนแม้แขวนพระที่ผู้ทรงคุณวิเศษอธิษฐานจิตให้ ก็ใช่ว่าจะรอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุข เพราะทุกคนไม่อาจหลีกหนีวิบากกรรมที่ได้สร้างไว้ ธรรมทั้งหลายที่ท่านพร่ำสอน เปรียบได้กับการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามบนดวงใจของศิษย์ ที่ท่านทุ่มเทให้ทั้งชีวิต ด้วยเมตตาธรรมยิ่ง ปัจจุบันวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของหลวงปู่ดู่ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม โดยเฉพาะ "พระเหนือพรหม" ซึ่งเป็นพระที่มีลักษณะที่แตกต่างกว่าพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่พบโดยทั่วไป มูลเหตุและแรงจูงใจในการสร้างพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่ นั้น มาจากบทพระพุทธมนต์ "พาหุงมหากา" ในบทที่ 8 กล่าวไว้ว่า ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะ แปลได้ว่า เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน "พรหม" หมายถึงผู้มีนามว่า "ท้าวผกา" มีฤทธิ์และสำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้ ซึ่งหลวงปู่ดู่ซาบซึ้งในบทพระพุทธ มนต์บทนี้ จึงจัดสร้าง "พระเหนือพรหม" ขึ้น หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ (พ.ศ. ๒๔๔๗ – ๒๕๓๓) ท่านเกิดที่ อ. อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา ท่านกำพร้าแต่ยังเด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่ วัดสะแก โดยมีหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการามเป็นพระอุปัชฌาย์ รับฉายาว่า "พรหมปัญโญ" ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม, วัดกลางคลองสระบัว, และวัดนิเวศธรรมประวัติตามลำดับ หลวงปู่ดู่ท่านมีความเคารพนับถือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดเป็นพิเศษ ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะได้มาตรัสรู้ในอนาคต และท่านก็ได้สร้างพระเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ยึดเหนี่ยวไว้เป็นกำลังในการ ปฏิบัติธรรม หลวงปู่ดู่ท่านเคยพูดว่า "ติดวัตถุมงคลยังดีกว่าที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคล" หลวงปู่ดู่ท่านได้ทิ้งมรดกทางธรรมที่สั้นๆ เข้าใจง่าย แต่ลึกซึ้งไว้มากมายอาทิเช่น "พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไตรสรณคมน์นี่แหละ พระดี, คนเรานี่ก็แปลก ข้าให้ของจริงกลับไม่เอา จะเอาของปลอม" "เอางานคือการปฏิบัติธรรมเป็นงานหลักของชีวิต เป็นการงานที่แท้จริงของชีวิต" "ตราบใดก็ตามที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้าแต่ถ้าเมื่อใดที่เริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้วเมื่อ นั้นข้าว่าแกรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว" "ขอให้ลงมือทำทันที ข้ารับรองว่าต้องสำเร็จ ส่วนจะช้าหรือเร็วนั้น อยู่ที่ความเพียรของผู้ปฏิบัติ" "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ กรรม" "คนดีน่ะเขาไม่ตีใคร" "ของดีอยู่ที่ตัวเราหมั่นทำ (ปฏิบัติ) เข้าไว้" "ให้หมั่นดูจิตรักษาจิต" "ให้หมั่นพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" "ที่แกปฏิบัติอยู่ ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เพื่อข้า แต่เพื่อตัวแกเอง" "ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การอ้อนวอนพระเจ้ามาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้ว ทุกอย่างต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ, พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้วครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่ สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิท่านก็กลายเป็นพระธาตุกันหมด, เมื่อได้ไตร่ตรองพิจารณาให้รอบคอบแล้วขอให้ลงมือทำทันที ข้ารับรองว่า ต้องสำเร็จ ส่วนจะช้าหรือเร็วนั้นอยู่ที่ความเพียรของผู้ปฏิบัติ" บ่อยครั้งที่มีผู้ถามปัญหากับหลวงปู่ โดยมักจะนำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน สามี ภรรยา ลูกเต้า ญาติมิตรหรือคนอื่นๆ มาปรารภให้หลวงปู่ฟังอยู่เสมอ, ครั้งหนึ่งท่านได้ให้คติเตือนใจว่า "โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม" ซึ่งต่อมาท่านได้ให้ความหมายว่า เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง, ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องกลับเข้ามาหาตัวเองถ้าเป็นโลกแล้วจะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา ธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดจากในตัวเรานี้ทั้งนั้น" และสอนเรื่องการทำบุญ แบบประหยัดว่า "บุญนั้น หมั่นทำเข้าไว้คนไหนที่เขาทำดีอะไรก็ตาม โมทนาไปเลย ไม่มีเสีย มีแต่ได้ อย่าไปขัดเขา, เวลาเดินผ่านไปไหน เห็นดอกไม้เราก็นึกถวายพระ ของอะไรก็ตามนึกถวายพระได้บุญทั้งนั้น, เวลาจะเปิดไฟ ถ้าอยากได้บุญก็ว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ก็ได้แล้ว" ส่วนเรื่องวัตถุมงคลของท่านนั้นหลวงปู่ดู่ท่านยืนยันว่า "ข้าว่า ของๆ ข้า ไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน อยู่ที่คนนำไปใช้ว่าถึงหรือเปล่า ถ้าถึงจริงๆ แล้ว ก็ไปนิพพานได้" (หมายถึงช่วยเป็นกำลังใจในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี นั่นเอง) แม้แต่หลวงพ่อเกษม ท่านก็ยังเคยแนะนำให้ลูกศิษย์ท่านไปกราบหลวงปู่ดู่ และหาพระเปิดโลกของหลวงปู่ดู่มาบูชา ท่านว่าพระรุ่นนี้กันนิวเคลียร์ได้ ทั้งๆ ที่ท่านไม่เคยไปมาหาสู่กับหลวงปู่ดู่เลย หลวงปู่ดู่ท่านปฏิบัติในแนวของพระโพธิสัตว์ญาณเช่นเดียวกับหลวงปู่ทวด ท่านจึงเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ไปโดยไม่มีประมาณ จะเห็นได้จากท่านได้งดกิจนิมนต์เป็นเวลาถึง ๔๓ ปี นับแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ตราบจนวันที่ท่านละสังขาร โดยทุกวันนับแต่ตี ๕ จนถึงดึกดื่น ท่านก็ได้ออกมาสั่งสอนลูกศิษย์ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศโดยไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง ท่านก็มีความเมตตาอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันหมด ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดมาหาท่าน หลวงปู่ดู่ท่านก็อนุเคราะห์ สงเคราะห์ไปตามเหตุปัจจัย ด้วยอานิสงค์แห่งความเมตตาและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ดู่ ทำให้แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว ลูกศิษย์ลูกหาของท่านกลับไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น ดังมีคำสอนของท่านประโยคหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ***** "ผู้ใดที่เคยสร้างบุญสร้างกุศลมากับข้า เคยเป็นศิษย์เป็นอาจารย์เป็นลูกเป็นหลาน สร้างบุญกุศลมากับข้ามา แม้ในชาตินี้ไม่ได้พบสังขารธรรมของข้า แต่พอพบเห็นหลักธรรมคำสั่งสอนของข้า แล้วเกิดศรัทธาคนผู้นั้นแหละเคยสร้างบุญสร้างกุศลมากับข้าเคยเป็นศิษย์เป็น อาจารย์เป็นลูกเป็นหลานของข้า ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมะภาวนาไตรสรณคมน์ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิสังฆัง สรณัง คัจฉามิ เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วรีบพากันปฏิบัติ เพื่อจะได้ไว้เป็นที่พึ่งในภายหน้าข้าจะคอยช่วย ศรัทธาข้าจริงนับถือข้าจริง แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้าข้าก็คิดถึงแก ข้าอยู่ใกล้ๆ แกจำไว้" *****

*** พระองค์นี้ส่งตรวจสอบแล้วครับ ผลออกมาเป็นพระแท้ แต่ทางการันตีพระยังไม่ออกบัตรให้กับพระพิมพ์นี้ ***
*** สภาพองค์จริงตามภาพครับ ***
*** พิจารณาก่อนนะครับ ถ้าชอบค่อยเคาะ จะได้ไม่เสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย ***
ราคาเปิดประมูล5,000 บาท
ราคาปัจจุบัน10,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ก.ย. 2556 - 14:38:57 น.
วันปิดประมูล - 21 ก.ย. 2556 - 18:28:00 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลwarut (4K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     10,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    zunlee (74)

 

Copyright ©G-PRA.COM