เป็นพระเนื้อดินเผา เนื้อละเอียดแน่น อายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี ศิลปะศรีวิชัย อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ๑๖
มีสัณฐานทรงกลมครึ่งซีก หลังอูมนูนคล้ายเม็ดกระดุม ด้านหน้ารอบองค์พระยกขอบขึ้นมาคล้ายยกซุ้ม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ ซ.ม. (จึงเรียกกันว่าพระเม็ดกระดุมศรีวิชัยหรือพระซุ้มศรีวิชัย)
องค์พระ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ลอยนูนขึ้นมาจากพื้น ประทับเหนือดอกบัว ๒ ชั้น ชั้นบน ๗ กลีบ อันหมายถึงเมื่อทรงประสูติทรงดำเนิน ๗ ก้าว โดยมีดอกบัว ๗ ดอกผุดรองรับ ชั้นล่าง ๓ กลีบ อันหมายถึงต่อมาภายหลังเมื่อตรัสรู้แล้วมีพระรัตนตรัย(แก้วหรือสิ่งมีค่าอันประเสริฐ ๓ ประการ)เป็นองค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนาซึ่งประกอบด้วยพระพุทธพระธรรมและพระสงฆ์ รอบพระเศียรมีเส้นประภามณฑล (รัศมี) เป็นวงกลม อันหมายถึงพระพุทธคุณและพระธรรมแห่งการตรัสรู้แผ่ไพศาล
รอบองค์พระ มีจารึกพระคาถา เย ธมฺมา ซ้อนกันสองชั้นทั้งด้านซ้ายและขวา เป็นภาษาสันสกฤต ตัวอักษรเทวนาครี อันเป็นอักขระโบราณที่นิยมใช้แพร่หลายกันในประเทศอินเดียตอนเหนือ จำนวน ๔ บท อ่านว่า เย ธัมมา เหตุปัปภวา , เตสัง เหตุง ตถาคโต , เตสัญ จะ โย นิโรโธจ , เอวัง วาที มหาสมโณติ แปลได้ว่า ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุของธรรมเหล่านั้นและความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้ อันเป็นบทย่อหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าด้วยหนทางแห่งการดับความทุกข์ตามหลักอริยสัจ ๔ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นกุญแจหรือลายแทงในการเข้าถึงแก่นหรือหัวใจแห่งพุทธศาสนา โดยใจความแห่งพระคาถานี้เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าได้พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวก จึงเป็นธรรมที่วิเศษและถูกยกย่องให้เป็นสัมฤทธ์มนต์สำหรับการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น (ถือเป็นพระคาถาทีมีความสำคัญ ดังจะเห็นได้ว่ามีการนำมาระบุไว้ทีด้านหลังเหรียญพระพุทธ ๒๕ ศรรตวรรษ ปี ๒๕๐๐ พิมพ์เสมา)
แตกกรุออกมาครั้งแรกในปี ๒๕๒๕ ที่เนินดินใกล้วัดเขาศรีวิชัย ตำบลเขาศรีวิชัย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และต่อมาในปี ๒๕๓๓ ได้มีการขุดพบอีกครั้งในบริเวณวัดเขาศรีวิชัย โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ราบชายเนินเขาศรีวิชัยซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งคลองพุนพินอันเป็นสาขาของแม่น้ำตาปี ซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมและเส้นทางคมนาคมในสมัยโบราณ โดยมีการขุดพบลูกปัดสมัยโบราณในบริเวณดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก
ความอลังการของพระพิมนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นเพชรน้ำเอกของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งนอกจากจะเป็นพระที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณแล้วยังแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาอันแรงกล้าของบรรพบุรุษสมัยโบราณที่มีต่อพระพุทธศาสนาเสมือนหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเจตนารมณ์ที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนตราบนานเท่านาน จึงได้ฝากฝีมือสกุลช่างในยุคนั้นไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลานในอนาคตต่อไป
พระชุดนี้แบ่งเป็นสองพิมพ์คือพิมพ์ต้อกับพิมพ์ชลูด องค์นี้เป็นพิมพ์ชลูด สภาพเดิมๆ ปรากฏคราบกรุรวมทั้งราดำหรือรารักและแคลเซี่ยมในกรุง่ายแก่การพิจารณา |
|